สรุปเนื้อหา บทที่ 72 ถ้าฉันแก่แล้ว น่าเกลียดแล้ว... – เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ โดย Internet
บท บทที่ 72 ถ้าฉันแก่แล้ว น่าเกลียดแล้ว... ของ เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ ในหมวดนิยายSlice of Life เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
โลกของการแพทย์ถูกเรียกว่าเป็นโลกแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นโลกที่ต้องมีกฎเกณฑ์และการอธิบายความรู้ที่แน่ชัด
ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ตะวันตกหรือแพทย์แผนจีนก็มีวิธีการถ่ายทอดความรู้อันพิถีพิถัน
ตั้งแต่โบราณ แพทย์แผนจีนมีการส่งต่อความรู้มากมาย ตั้งแต่ไข้ลมหนาวทั่วไป การบำรุงธาตุในสมัยราชวงศ์จินหยวน การบำรุงหยิน…สุดท้ายจึงเป็นเรื่องไข้เลือดออก ล้วนมีการพัฒนาความรู้มาจากสำนักศึกษามากมาย
แพทย์ตะวันตกก็เป็นเช่นนี้ ตั้งแต่ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน การแพทย์ในปัจจุบันก็ถูกพัฒนาอย่างมีชีวิตชีวา การไหลบ่าของเข้ามาของแพทย์แผนตะวันตกทำให้การแพทย์ในปัจจุบันถูกคลุมด้วย “การแพทย์ตะวันตก”
ศัลยศาสตร์ถูกเรียกว่าเป็นวิธีการรักษาหลักทางการแพทย์ เต็มไปด้วยความคิดและวิธีการต่างๆ มากมาย
ดังนั้นการกราบอาจารย์ก็เหมือนกับมีผู้นำทาง
หากมีอาจารย์ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นเลย เพียงเรื่องจัดการงานก็จะเป็นไปอย่างสะดวกสบาย ได้เข้าร่วมงานประชุมทางวิชาการนับครั้งไม่ถ้วน กระทั่งอาจได้ติดตามอาจารย์ไปเข้ารับตำแหน่งสำคัญในสมาคมบางอย่าง หรืออาจได้เข้าร่วมรายการต่างๆ และพบปะผู้คนมากมาย ซึ่งนับว่ามีแต่ข้อดีสำหรับการพัฒนาในภายหลัง
ดังนั้นเครื่องหมายคำถามเหนือศีรษะของเฉียนเลี่ยงในตอนนี้จึงมีแรงดึงดูดมาก!
เฉินชางไม่ลังเล เลือกกดรับภารกิจทันที!
ตอนนี้เฉียนเลี่ยงยิ้มออกมาเล็กน้อย “ผมให้เวลาคุณสามเดือน เขียนวิทยานิพนธ์ดีๆ ออกมาหน่อยนะครับ แล้วปีหน้าผมจะมอบของขวัญให้คุณ!”
ทุกคนยิ้ม สิ่งที่เขาจะมอบให้ไม่ใช่ของขวัญ!
แต่เป็นอนาคต!
แม้ทั้งสี่จะเป็นผู้เชี่ยววชาญเช่นเดียวกัน แต่สถานภาพทางวิชาการของเฉียนเลี่ยงสูงกว่า เขาเป็นคนที่กุมอำนาจในโลกของศัลยแพทย์ทางด้านตับและน้ำดีแห่งมณฑลตรงหยางอย่างแท้จริง ทั้งยังเป็นรองบรรณาธิการของ “นิตยสารศัลยศาสตร์ด้านตับและน้ำดีแห่งประเทศจีน” อีกด้วย
เขาก็คือของขวัญที่ไม่อาจมองข้ามได้เลย!
ทุกคนเข้าใจดี เฉินชางก็เข้าใจดี บนใบหน้าเต็มไปด้วยความดีใจ “ขอบคุณครับอาจารย์!”
[ติ๊ง! ค่าความรู้สึกดีของเฉียนเลี่ยง +30!]
[ติ๊ง! ค่าความรู้สึกดีของหลิวซือฉี +10!]
……
[ติ๊ง! ค่าความรู้สึกดีของห่าวซวี่เลี่ยง +10!]
ได้รับค่าความรู้สึกดีมาอีกระลอกหนึ่ง ทว่าเฉินชางยังคงสับสน ตกลงค่าความรู้สึกดีนี่มันมีประโยชน์อย่างไรกันแน่?
……
……
หลังจากห่าวซวี่เลี่ยงออกไปจากห้องสำนักงานก็วิ่งตรงไปยังห้องทำงานของผู้อำนวยการอย่างกระวนกระวาย รีบไปหาฉินเสี้ยวยวนทันที
“ผู้อำนวยการฉิน ผมมีเรื่องจะพูดครับ!”
ฉินเสี้ยวยวนเห็นห่าวซวี่เลี่ยงเดินเข้ามาอย่างกระสับกระส่ายจึงวางปากกาในมือลง ถอดแว่นออกแล้วเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม “มีเรื่องอะไรครับ? ดูท่าทางคุณรีบร้อนขนาดนี้ ผลการแข่งขันออกแล้วสินะครับ? เป็นยังไงบ้าง?”
ห่าวซวี่เลี่ยงสงบลมหายใจเล็กน้อย ตัดสินใจแล้วว่าหลังจากกลับไปจะต้องวิ่งออกกำลังกายให้ดี จากนั้นจึงกล่าวออกมา “หัวหน้าฉิน ผลออกมาแล้วครับ เฉินชางได้ที่หนึ่งคะแนนเต็มหนึ่งร้อย! โจวเสี่ยวตงจากแผนกศัลยกรรมทั่วไปได้เก้าสิบคะแนน หลี่ซื่อเจี้ยนจากแผนกศัลยกรรมทรวงอกได้แปดสิบห้าคะแนน!”
ฉินเสี้ยวยวนได้ยินก็เกิดความสนใจขึ้นมาทันที
“งั้นหรือครับ? เสี่ยวเฉินคนนี้เก่งขนาดนี้เลยหรือ?”
เก่ง?
แค่เก่งเท่านั้นหรือ?!
ห่าวซวี่เลี่ยงคิดในใจว่า ตอนนี้เฉินชางเป็นขนมหวานชิ้นหนึ่ง คุณไม่เห็นใบหน้าของหัวหน้าแผนกและผู้อำนวยการเหล่านั้น แทบอดรนทนไม่ไหวอยากให้เฉินชางศูนย์คะแนน จากนั้นก็แอบขโมยตัวเขาไป!
ห่าวซวี่เลี่ยงพยักหน้า “ผู้อำนวยการฉิน เสี่ยวเฉินคนนี้ไม่ใช่แค่เก่งธรรมดา แต่เด็กคนนี้เป็นผู้มีพรสวรรค์เลยนะครับ! โรงพยาบาลของพวกเราจะต้องรั้งเขาไว้ให้ได้ เมื่อครู่คุณไม่เห็นผู้อำนวยการและหัวหน้าแผนกแต่ละคน พวกเขาแต่คนละมีท่าทีกระหายต้องการความสามารถของเขามาก ท่าทางเหมือนเสือเหมือนหมาป่าเลยครับ ร้ายกาจกันจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้น…เสี่ยวเฉินคนนี้ยังมีฝีมืออยู่ในระดับยอดเยี่ยมด้วย!”
หลังจากห่าวซวี่เลี่ยงเล่าสถานการณ์การแข่งขันออกมาอย่างละเอียด ฉินเสี้ยวยวนก็ตะลึงไปเล็กน้อย!
“เฉียนเลี่ยงคนนั้นพูดแบบนี้จริงหรือ?”
ห่าวซวี่เลี่ยงพูดต่อ “พูดแบบนี้จริงๆ ครับ ดังนั้นผู้อำนวยการ คุณต้องรีบประกาศลงไปนะครับ ผมกลัวว่าหากชักช้าจะมีการเปลี่ยนแปลง หากเลขาถานก่อเรื่องอะไรขึ้นมาอีก เสี่ยวเฉินแม้อายุยังน้อย แต่มีความสามารถในการปรับตัวตามสภาพแวดล้อมสูง อาจทำให้เราเสียอัจฉริยะคนนี้ไปก็ได้!”
ฉินเสี้ยวยวนพยักหน้า “ได้ครับ เรื่องนี้คุณไปจัดการเถอะ วันนี้จะต้องประกาศออกไปให้ได้!”
ห่าวซวี่เลี่ยงพยักหน้าแล้วเดินออกไป
ฉินเสี้ยวยวนมองออกไปนอกหน้าต่าง คิดวางแผนในใจมากมาย
ผ่านไปนาน…
สุดท้ายจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายไปยังเบอร์โทรของหลี่เป่าซาน
แต่ในปีที่สองหลังจากที่สือน่าคลอดลูก อีกฝ่ายก็ตัดสินใจสอบเรียนต่อปริญญาเอกเนื่องจากความไม่ราบรื่นทางการงาน
การสอบเข้าเรียนต่อปริญญาเอกเป็นเรื่องดี ทุกคนต่างสนับสนุน สือน่าเอ็งก็สนับสนุนสามี
แต่ว่า…
เมื่อเรียนปริญญาเอกไปถึงสามปี จนกระทั่งเรียนจบในปีนี้ เขาก็ตัดสินใจไปเรียนปริญญาเอกที่ต่างประเทศซึ่งต้องใช้เวลาอีกสองปี
เรื่องไม่ได้เกิดกับคนอื่นจึงพูดออกมาได้อย่างสบายอารมณ์ ดังนั้นเพื่อนนักเรียนเหล่านั้นต่างพูดว่าสามีของสือน่าเป็นผู้ยอดเยี่ยม ในอนาคตสือน่าจะต้องมีความสุขแน่นอน!
แต่ความลำบากเหล่านั้นมีเพียงสือน่าคนเดียวที่รู้
ภาระทั้งหมดในครอบครัวถูกย้ายมาอยู่บนร่างของสือน่าในพริบตาเดียว ทั้งค่าผ่อนบ้าน ลูก พ่อแม่ ค่าเล่าเรียนของสามี…
ในปีหนึ่งจะต้องใช้เงินเท่าไหร่?
ความจริงก็ไม่มีอะไรมาก แค่ไม่ซื้อเสื้อผ้าใหม่สามปี แค่ทำโอทีถึงห้าทุ่มเที่ยงคืน แค่เหนื่อยจนอยากนอนฟุบดีๆ สักครั้ง แค่ต้องเหนื่อยกลับไปมองรอยยิ้มลูกๆ
มีอะไรเป็นเรื่องใหญ่กันล่ะ?
ไม่ว่าวันนี้คุณจะเหนื่อยแค่ไหน กลับบ้านไปยังต้องดูแลลูก ตอนกลางคืนยังต้องตรวจการบ้านลูก ต้องตื่นแต่เช้ามาทำกับข้าว จากนั้นก็ขึ้นรถสาธารณะที่แออัด
วันต่อมายังต้องทำงานต่อไป
สือน่าคิดถึงคำพูดของหวังเชียน ในใจรู้สึกหนักอึ้ง เธอเป็นผู้หญิงจะไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ได้อย่างไร?
ผมเธอร่วงหนัก หากวันหนึ่งตนแก่แล้วจริงๆ น่าเกลียด ผิวเหี่ยวย่น…ตอนนั้นสามีที่ประสบความสำเร็จมีชื่อเสียงโด่งดังแล้วจะยังต้องการตนอยู่หรือไม่?
อนาคตยังอีกยาวไกล พรุ่งนี้ยังต้องใช้ชีวิตต่อ ไม่มีเงินจะเอาอะไรไปใช้ชีวิต
ดังนั้นสือน่าจะกล้าพักผ่อนที่ไหนกัน!
สิ่งเหล่านี้ฉินเยว่รู้ดี ดังนั้นจึงไม่ให้หวังเชียนพูดจามั่วๆ เธอกลัวว่าคำพูดของหวังเชียนจะทำให้อาจารย์เศร้า อันเยี่ยนจวินรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “เสี่ยวหวัง คุณเรียนรู้จากเฉินชางบ้างสิ คุณดูเหล่าเฉินนั่น เอ้อระเหยขนาดไหน ไม่เคยต้องเป็นห่วงเรื่องประวัติผู้ป่วยเลยสักครั้ง ทุกสิ้นเดือนจะส่งประวัติผู้ป่วยไปที่ห้องเอกสารได้อย่างเรียบร้อย เหมือนพวกเราที่ไหนกัน แต่ละเดือนต่างผัดวันประกันพรุ่ง มีเสี่ยวเฉินอยู่ เหล่าเฉินเบาแรงไปได้มาก!”
เฉินปิ่งเซิงหัวเราะพลางพยักหน้า มีเฉินชางอยู่เขาเบาแรงไปไม่น้อยจริงๆ
แต่ตอนนี้เขากังวลใจยิ่งกว่าใคร เขาไม่อาจจะสงบใจได้ หวังจริงๆ ว่าเฉินชางจะผ่านการแข่งขันและได้บรรจุเป็นบุคลากรอย่างเป็นทางการ
Next
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ