หลังจากเสร็จงานทุกอย่าง เฉินชางกลับห้องทำงานหมอนั่งลง
เทน้ำแก้วหนึ่งมาดื่ม
เมื่อก่อนตอนฝึกงาน เฉินชางดัดจริต คิดว่าห้องทำงานไม่
สะอาด ไม่ทานอาหารในห้องทำงานและไม่เอาแก้วมาโรงพยาบาล
เพื่อรักษาความบริสุทธิ์ของแฟนสาว ล้างมือวันละหลายสิบ
ครั้ง ล้างจนหนังแทบจะลอกแล้ว
แต่หลังจากนั้น โรคดัดจริตแบบนี้ก็ค่อยๆ ถูกชีวิตประจำ วัน
รักษาจนหาย
บางทีก็คิดว่า มีดผ่าตัดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือกาลเวลา
หลังจากเฉินชางดื่มน้ำ ตั้งสติเสร็จ
ชายคนหนึ่งก็เดินเข้ามาใกล้เฉินชาง ลากเก้าอี้ตัวหนึ่งมานั่งลง
ยิ้มมองเฉินชางพร้อมชูนิ้วโป้งให้ “หมอเฉิน นับถือครับ”เฉินชางหมุนตัวกลับไป หลังจากเห็นชายหนุ่มก็ยิ้มให้ “หมอ
เฮ่อ วันนี้อยู่เวรเหรอครับ”
เฮ่อเจิ้งจื่อยิ้ม “อยู่เวรอะไรกันครับ OT ครับ! เมื่อครู่นี้ได้ยิน
หยางหงเหมยว่าคุณ หมอเฉิน คุณสุดยอดไปเลย นับถือ!”
เฉินชางได้ยินแล้วอดขำไม่ได้ “ตอนนั้นผมเองก็เร่งรีบมาก คุณ
อยู่แผนกฉุกเฉินเหมือนกันก็คงรู้ว่าตอนที่เรากู้ชีพฉุกเฉิน เกลียดการ
ที่มีคนคอยชี้นิ้วอยู่ข้างๆ ที่สุด อีกอย่าง เป็นพยาบาลของทีมอื่นแท้ๆ
มาหาว่าผมใช้ยาไม่ถูกกฎ ผมจะทนได้ยังไง ถ้าฟังคำพูดเธอ ใช้แล้ว
เกิดปัญหาอะไรขึ้น เธอจะรับผิดชอบเหรอ”
เฉินชางเองก็โกรธ อดระบายไม่ได้
การกู้ชีพต้องแข่งกับความตายอยู่แล้ว ในสถานการณ์แบบนี้
หมอและพยาบาลต้องร่วมแรงร่วมใจกันทำเวลาทุกวินาที และ
หัวใจสำ คัญก็คือหมอ
เฮ่อเจิ้งจื่อพยักหน้า ถอนหายใจอย่างเสียดาย “ใช่ครับ เรา
มาฝึกงานไม่ได้มารองรับอารมณ์ใคร! หมอตำแหน่งสูงๆ ยังไม่ว่าอะไร เป็นแค่พยาบาลวิจารณ์อยู่ทั้งวัน นี่ถ้าอยู่ในแผนกผม ผม
ด่ากลับไปตั้งนานแล้ว”
เฉินชางขำกับคำพูดของเฮ่อเจิ้งจื่อ เขาโตกว่าเฉินชางหลายปี
อายุสามสิบสี่ปีแล้ว เป็นหมอแผนกฉุกเฉินโรงพยาบาลประชาชน
แห่งมณฑลเป่ยเหอ ปีนี้จะสอบเป็นรองหัวหน้าแล้ว
โรงพยาบาลให้ความสำ คัญกับเขามาก บอกว่าออกมาฝึกงาน
หนึ่งปี สอบตำแหน่งรองหัวหน้าได้ โรงพยาบาลก็จะรับเลย
เฉินชางยิ้ม “ลำบากคุณด้วยนะครับ!”
เฮ่อเจิ้งจื่อยิ้มขื่น “นั่นสิครับ ทำไมผมถึงไปอยู่ทีมสี่ได้! แต่
หัวหน้าผมใช้ได้เลย ดีกับผมมาก อย่างน้อยก็พาผมเข้าผ่าตัดด้วย”
ตอนนี้เฮ่อเจิ้งจื่อเป็นแพทย์ประจำ วอร์ด ไม่ได้มีหน้าที่กู้ชีพ
ภายนอกโรงพยาบาล หน้าที่หลักๆ คือเข้าร่วมและเฝ้าสังเกตการ
ผ่าตัด รวมถึงรับผิดชอบคนไข้ที่แอดมิท
ในแผนกมีหมอฝึกงานไม่น้อยเลย บวกกับแพทย์ฝึกหัด
นักศึกษาปริญญาโท ปริญญาเอกและอื่นๆ มากกว่าหมอถึงสองเท่า
เพราะที่นี่คือเมืองหลวง!อย่าคิดว่ามาฝึกงานที่นี่จะง่าย โรงพยาบาลระดับเขต ระดับ
เมืองส่วนใหญ่ล้วนฝึกงานในโรงพยาบาลระดับมณฑล
ส่วนหมอในโรงพยาบาลระดับมณฑล ตอนนี้หลาย
โรงพยาบาลให้หมอติดต่อโรงพยาบาลฝึกงานกันเอง ไม่ยุ่งเกี่ยวแล้ว
หมอธรรมดาคนหนึ่งจะติดต่อพวกโรงพยาบาลอย่างวิทยาลัย
การแพทย์ปักกิ่งยูเนี่ยนได้หรือ
เห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้
เพราะฉะนั้นการออกไปเรียนรู้ฝึกงาน ทุกคนจะค่อนข้างสงบเส
งี่ยม โอกาสไม่ได้ได้มาง่ายๆ เป็นที่รองรับอารมณ์ก็ต้องอดทน ทน
สักหน่อยเดี๋ยวก็ผ่านไปแล้ว ระยะเวลาฝึกงานส่วนใหญ่ก็ประมาณ
ครึ่งปี ไม่ได้นานเกินไป
ทุกคนล้วนเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว ใครบ้างที่จะยังไม่ถูก
ความเป็นจริงของชีวิตสั่งสอนจนหลาบจำ
ทว่าการมาเยือนของเฉินชาง ทำให้พวกเขาตาเป็นประกาย
ถึงอย่างไรมาถึงประมาณครึ่งเดือนกว่า หัวหน้าก็ให้สิทธิ์
การรักษา สิทธิ์การผ่าตัด อยู่เวร…ที่สำ คัญที่สุดคือให้ค่าตอบแทนนี่ต่างอะไรกับการจ้างงาน
พนักงานสัญญาจ้างก็ได้รับผลประโยชน์แบบนี้แหละ!
เพราะฉะนั้นเฉินชางจึงกลายเป็นจุดสนใจทันที
ทำให้ทุกคนมองเห็นความหวังขึ้นมา ขอเพียงแค่
มีความพยายาม หัวหน้าอวี๋ไม่สนหรอกว่าคุณจะเป็นแค่หมอฝึกงาน
หรือไม่!
เฮ่อเจิ้งจื่อยิ้ม “ช่างเถอะครับ ทนหน่อยเดี๋ยวก็ผ่านไป ถ้าไม่ใช่
เพราะไม่อยากให้กระทบต่องาน คงมองหน้ากันไม่ติดตั้งนานแล้ว
เอาเถอะครับ ผมไปเปลี่ยนยาก่อนนะครับ หมอเฉินทำงานต่อเถอะ
ครับ”
เฉินชางพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม
ทุกคนต่างโตเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว บางอย่างไม่จำ เป็นต้องพูด
ออกมา ได้เข้ามาฝึกงานที่โรงพยาบาลก็เป็นหนี้บุญคุณคนแล้ว
ไม่ว่าใครก็ไม่อยากมีเรื่อง
หลังจากเฮ่อเจิ้งจื่อจากไป เฉินชางคิดถึงสิ่งที่หม่าเยว่ฮุยพูด
วันนี้ ทำให้จิตใจของเขามีชีวิตชีวาขึ้นเวลาหนึ่งปีอย่าให้เสียเปล่า
จะทิ้งการวินิจฉัยไม่ได้!
การวิจัยก็ขาดไม่ได้เช่นกัน!
มีศูนย์ฉุกเฉินเมืองหลวงเป็นแพลตฟอร์ม ทำการวิจัย บทความ
และทำผลงานได้ง่ายมากอยู่แล้ว
ความสามารถในการเขียนงานวิจัยของเขาสูงขนาดนี้ และยังมี
การวิเคราะห์ข้อมูลที่เก่งกาจ ถ้าไม่ใช้ให้เกิดประโยชน์ถือว่าเสียดาย
มาก
นอกจากนี้ที่สำ คัญที่สุดเงินทุนในการวิจัย!
ทุนวิจัยสองล้านของหัวหน้าทีมหม่า ตามที่เขาพูด ต่างอะไรกับ
เป็นของเฉินชางเอง
นอกจากนี้ทุนวิจัยจะหมดอายุตอนเดือนสิงหาคมแล้ว ช่วงนี้
ต้องทำเวลา
ทว่าก่อนอื่น ต้องขอหนังสือภารกิจกับหัวหน้าทีมหม่าเสียก่อน
ดูให้ละเอียดว่ามีข้อควรระวังอะไรบ้าง เผื่อถึงเวลาจริงจะเบิกไม่ได้ตอนจะเลิกงาน พอหม่าเยว่ฮุยกลับมา เฉินชางก็รีบเข้าไปหา
“หัวหน้าทีมหม่าครับ ผมขอดูหนังสือภารกิจที่คุณยื่นขอโครงการ
หน่อยครับ ผมขอดูหน่อยว่าทำอะไรได้บ้าง”
หม่าเยว่ฮุยพลันยิ้มพูด “ผมมีรูป เดี๋ยวส่งเข้าวีแชทคุณครับ”
……
……
ตอนเลิกงาน เฉินชางจงใจยื้อเวลาหนึ่งชั่วโมงเพื่อไปดูอาการ
ของชายหนุ่มอีกรอบ เห็นว่าเขาหายดีแล้ว กำลังนั่งเอากล้องถ่าย
ตัวเอง เหมือนจะกำลังอัดวิดีโอ
“สวัสดีครับ ผมกัวไจ่เพื่อนรักของทุกคนครับ เป็นเกียรติมากที่
ได้พบกันอีกครั้งครับ! การพบกันครั้งนี้ไม่ง่ายเลยจริงๆ เพราะ
ความช่วยเหลือของทีมแพทย์ ผมถึงได้รอดชีวิตกลับมา ในคลิปนี้
ตอนแรกจะถ่ายคลิปกินปลาปักเป้ามาแบ่งปันกับทุกคน ไม่คิดว่า
จะล่มเสียแล้ว เกือบจะเอาชีวิตไม่รอดด้วยซ้ำ เรื่องน่าอายแบบนี้
ตอนแรกผมไม่อยากพูด แต่…ผมคิดว่าควรพูด เพื่อเป็นการเตือน
ทุกคน และเป็นบทเรียน”ฟังคำพูดของชายหนุ่ม เฉินชางโล่งอกไปที บางทีคำพูดและ
การเผยแพร่แบบนี้แหละ ที่มีอาจมีความหมายเชิงบวกในระดับหนึ่ง
พอเห็นเฉินชาง ชายหนุ่มพลันเผยรอยยิ้ม “หมอเฉิน!”
เฉินชางพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม “อัดคลิปวิดีโอเหรอครับ”
ชายหนุ่มพยักหน้าอย่างเก้อเขิน “อืม ใช่ครับ ขอบคุณนะครับ
คุณหมอเฉิน ตอนนี้ผมดีขึ้นมากแล้วครับ”
เฉินชางส่ายหน้า “ไม่เป็นไรครับ สังเกตอาการพรุ่งนี้อีกวันก็
ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วครับ จริงสิ ผมอาจจะเขียนบทความ
สถานการณ์ของคุณลงในวารสารนะครับ”
ชายหนุ่มได้ยินแล้วตาเป็นประกายทันที “หมอเฉิน เสร็จแล้ว
บอกผมด้วยนะครับ ผมจะเพิ่มเข้าไปในคลิป จะได้ไม่มีคนสงสัยว่า
จริงหรือเท็จ ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมจะไม่จงใจสร้างกระแส ผม
จะนำรายได้ทั้งหมดจากคลิปวิดีโอไปทำการกุศล! ตอนนี้ผมเข้าใจ
แล้วว่าสิ่งที่ควรเผยแพร่ไม่ใช่แค่ความบันเทิง แต่ควรชักนำและ
เผยแพร่สิ่งที่เป็นประโยชน์…”ผ่านเรื่องราวในครั้งนี้ ชายหนุ่มเหมือนเกิดใหม่อีกครั้ง เหมือน
จะเข้าใจหลายอย่างมากขึ้น
เฉินชางยิ้ม ไม่ได้พูดอะไร “พักผ่อนนะครับ”
พูดจบก็เดินออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ