ซุนกว่างอวี่ไม่เคยคิดเลยว่า การผ่าตัดจะโรแมนติกและ
อ่อนโยนขนาดนี้ได้
ใช่แล้ว!
ตอนนี้ในห้องผ่าตัดช่างเหม็นกลิ่นความรัก
ใครจะคิดว่า การผ่าตัดที่คาวเลือดปนรุนแรง จะอ่อนโยนและ
โรแมนติกขนาดนี้
เฉินชางมองฉินเยว่แล้วเริ่มจับมือสอนเธอผ่าตัด
ทุกรายละเอียดล้วนละเอียดอ่อน
ทุกวิธีล้วนชี้ให้เห็นความสำ คัญ
สำ หรับผู้เชี่ยวชาญ นี่อาจซ้ำ ซากเล็กน้อย แต่สำ หรับหมอเกาผู้
เป็นซัพพอร์ตหมายเลขสิบแปดที่ปล่อยมือจากการผ่าตัดและยืนอยู่
ข้างหลังอย่างอิสระ ถือเป็นเรื่องที่ดีมากตอนนี้เขารู้สึกโชคดีและขอบคุณเฉินชางมากที่เบียดเขา
ออกมา ให้เขาได้ดูการผ่าตัดนี้อย่างจดจ่อทั้งกายและใจ
เขาที่ปล่อยมือจากการผ่าตัดเริ่มจำ ทุกคำพูดของเฉินชางไว้
อย่างระมัดระวัง
คำพูดเหล่านี้มีประโยชน์ต่อเขามาก!
ซุนกว่างอวี่ที่อยู่ข้างๆ เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
เพราะ…เขาค้นพบเรื่องแปลกประหลาดเรื่องหนึ่ง สิ่งที่เฉิน
ชางพูดเหมือนกับที่ตนเข้าใจมากขึ้นเรื่อยๆ!
คิดถึงตรงนี้ ซุนกว่างอวี่อึ้งไปทันที!
หรือว่า…
หรือว่า…
ความคิดของบรรดาวีรบุรุษล้วนคล้ายคลึงกัน
เขาพลันตื่นเต้นดีใจขึ้นมา
ในทางวิชาการยอมรับว่า นี่เป็นเรื่องที่เป็นบุญสัมพันธ์กันอย่าง
มากซุนกว่างอวี่รู้สึกว่าการได้รู้จักเฉินชาง ถือว่าเขาใช้ความโชคดี
ในปีนี้หมดแล้ว แม้ตอนนี้จะเพิ่งเดือนมีนาคม เขาก็ไม่สนใจ
จวงเยว่หมิงเห็นเฉินชางกับภรรยาผ่าตัดด้วยกันแล้ว กลับ
มีความรู้สึกเหมือนเป็นมือที่สามอย่างไรอย่างนั้น
ความรู้สึกแบบนี้ทำให้ไม่สบายใจเลย!
ทว่า เขาก็ตระหนักได้อย่างชัดเจนว่า ระดับของเฉินชางกับตน
เท่ากัน
ชั่วขณะนี้ จู่ๆ เขาก็ตระหนักได้ว่า หมอคนนี้ ซ่อนความสา
มารถลึกล้ำมาก
การผ่าตัดดำเนินอยู่นานมาก
แต่ไม่มีใครมองว่าน่ารำคาญ
พยาบาลเห็นฉากนี้ก็อิจฉาเล็กน้อย บางที เรื่องโรแมนติกที่สุด
ที่เธอคิดได้ ก็คือการผ่าตัดลำไส้กับคนรัก…
ในที่สุดการผ่าตัดก็จบลง!
ทุกคนจึงโล่งอกไปทีซุนกว่างอวี่มองเฉินชาง อดพูดไม่ได้ “หมอเฉิน ผมคิดว่า เรา
มีวาสนาต่อกันจริงๆ เลยครับ! แนวคิดลำไส้ใหญ่ของคุณคล้ายคลึง
กับผม! ผมเชื่อว่า เราจะมีความร่วมมือที่ดีขึ้นในวงการนี้”
เฉินชางยิ้มอย่างเขินอาย!
ผมเรียนจากคุณ ถ้าต่างกับคุณมากเกินไปก็แปลกสิ
จวงเยว่หมิงมองฉินเยว่ จู่ๆ ก็นึกถึงเทคนิคที่จะทำให้
ลืมตาอ้าปากได้!
หลังจากเสร็จงาน เฉินชางและฉินเยว่ก็เตรียมตัวกลับ
วันนี้ฉินเยว่มีความสุขมากจริงๆ
ถึงอย่างไรวันนี้ก็ได้เรียนรู้เทคนิคมามากมาย และที่สำ คัญคือ
…สามีเป็นคนสอน
จู่ๆ ฉินเยว่ก็รู้สึกว่าปัญหาที่ตนกับเฉินชางมีเวลาอยู่ด้วยกัน
ไม่เพียงพอ แก้ไขได้โดยการเข้าห้องผ่าตัด
ห้องผ่าตัดเป็นที่ที่เงียบสงบ
ฉินเยว่วาดฝันถึงอนาคต ในห้องผ่าตัดที่เงียบสงบ ตนกับเฉิน
ชางกำลังผ่าตัด มองตากันอย่างลึกซึ้ง พูดอย่างสนิทสนม “ที่รักครับเย็บผูกเส้นเลือด”
อืม นี่ถือเป็นชีวิตประจำ วันที่ดีงามมาก
วันนี้เฉินชางได้เก็บเกี่ยวมากมาย!
ถึงอย่างไรก็ได้รับภารกิจที่มีเวลาจำ กัดสามสิบวัน
ได้เรียนรู้ทักษะระดับกึ่งสมบูรณ์
ตื่นเต้นจริงๆ
เฉินชางพาฉินเยว่บอกลาทุกคน
หมอเกามองทั้งสองอย่างอาลัยอาวรณ์ “หมอเฉิน มาบ่อยๆ นะ
ครับ!”
……
……
ออกจากห้องผ่าตัด ฉินเยว่เอนตัวลงบนไหล่ของเฉินชางอย่าง
มีความสุข
“ฮ่าๆๆ วันนี้ฉันมีความสุขมากเลยค่ะ! สามี คุณเก่งมาก เป็น
ฮีโร่ของฉัน…คุณยิ่งใหญ่มาก ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าชาติที่แล้วฉันต้องกู้
โลกมาแน่เลยค่ะ ไม่อย่างนั้นทำไมสวรรค์ถึงดีกับฉันขนาดนี้”ข้างนอกไม่มีคน ฉินเยว่จึงเหมือนปลดปล่อยตัวตนอย่างไร
อย่างนั้น
เธอกระซิบข้างหูเฉินชางอย่างมีความสุขภายใต้แสงรัตติกาล
เฉินชางเองก็ไม่ถือสา พลันแบกฉินเยว่ขึ้นหลัง สองมือจับขา
ของเธอ พูดอย่างเป็นห่วง “กอดให้แน่นนะครับ อย่าตกล่ะ!”
ฉินเยว่แนบใบหน้ากับแผ่นหลังของเฉินชางอย่างซุกซน
ทันใดนั้นก็พึมพำว่า “สามี ทำไมคุณถึงเก่งขนาดนี้! คุณทั้งหล่อ ทั้ง
เก่ง หัวหน้ามากมายขนาดนี้คอยล้อมรอบตัวคุณ ทั้งยังมี
ความอดทนกับฉัน สอนฉันผ่าตัด ดีกับฉันขนาดนี้ ไม่โกรธฉัน
…ตอนนี้ฉันรู้สึกว่า ฉันเหมือนฝันไป”
เฉินชางได้ยินฉินเยว่พูดจากข้างหลังก็อดยิ้มไม่ได้
“คุณไม่กลัวจะตามใจผมจนเคยตัวเหรอครับ”
พูดถึงตรงนี้ ฉินเยว่รีบรับประกัน “สามี ฉันสัญญาว่าฉันจะดี
กับคุณกว่าเดิม ดีที่สุดของที่สุดเลย! ฉันจะเรียนทำอาหารอร่อย
ๆ…ทำอาหารเช้า กลางวัน เย็นให้คุณ ฉันจะเรียน…ฉันจะมีลูกให้คุณ
ค่ะ…”ทั้ง
สองกระซิบกันออกจากวิทยาลัยการแพทย์ปักกิ่งยูเนี่ยน
กลางคืน เฉินชางพาฉินเยว่ไปที่ร้านอาหาร สั่งอาหารเบาๆ
สองจาน กินโจ๊กไปหนึ่งถ้วยแล้วจึงกลับบ้าน
กลับถึงบ้านก็เกือบสี่ทุ่มแล้ว
สิ่งที่ดีที่สุดของห้องนี้คือมีระเบียงขนาดใหญ่ที่มองเห็นวิวของ
เมืองหลวงได้ ฉินเยว่จัดห้องอย่างสะดวกสบายมาก ปูพรมสองชั้น
วางเก้าอี้ไว้ตัวหนึ่ง
หลังจากกลับไป ทั้งสองไม่ได้คุยกันต่อ เฉินชางหยิบโน้ตบุ๊คไป
เขียนวิทยานิพนธ์ ฉินเยว่นั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆ
เฉินชางคิดดูดีๆ แล้ว ช่วงนี้งานยุ่งมากจริงๆ
กลางคืนกลับมาต้องเขียนวิทยานิพนธ์ เขาคิดว่าต้องเขียน
วิทยานิพนธ์เทคนิคคุมส่องกล้องสำ หรับการผ่าตัดส่องกล้องลำไส้
ใหญ่สักหน่อย
ไม่ใช่การวิเคราะห์เคส และไม่ต้องการผลการทดลอง
ดำเนินการในรูปแบบของการบรรยายและอภิปรายเท่านั้น
ความจริงวิทยานิพนธ์แบบนี้ยากมากเพราะอาจมีความคิดเห็นส่วนตัวมากมายจนหลายคน
ไม่ยอมรับ
แต่เฉินชางคิดว่าตนควรลองดู
ผ่านไปสองชั่วโมง เฉินชางก็เขียนเสร็จไปแล้วเจ็ดแปดสิบ
เปอร์เซ็นต์ แต่ต้องใช้เวลาสองวันในการขัดเกลา ฉินเยว่ตรวจดูรอบ
หนึ่ง ก่อนจะแสดงความคิดเห็นและแก้ไขไปเล็กน้อย
……
……
วันรุ่งขึ้นเป็นวันสาร์ ฉินเยว่จะไปเข้าเวรเป็นเพื่อนสวี่รุ่ย
เฉินชางเองก็ไม่มีธุระอะไร หลังจากขัดเกลาวิทยานิพนธ์เสร็จก็
บันทึกไว้
ตอนนี้เอง จู่ๆ ซุนกว่างอวี่ก็โทรเข้ามา
“หมอเฉิน ผมปรึกษาเรื่องเทคนิคการคุมกล้องกับหัวหน้า
คนอื่นๆ แล้ว ทุกคนคิดว่าเป็นไปได้! ส่วนรายละเอียด เราค่อยไปคุย
กันในงานอบรม คิดว่าเรื่องนี้เราจะต้องทำได้ดีอย่างแน่นอน”เฉินชางได้ยินแล้วเผยรอยยิ้มทันที “รบกวนหัวหน้าซุนด้วยนะ
ครับ”
หลังจากวางสาย จู่ๆ โทรศัพท์มือถือของเฉินชางก็ดังขึ้นอีกครั้ง
!
“เสี่ยวเฉิน ผมหม่าเยว่ฮุยเองนะครับ คุณรีบมาที่โรงพยาบาล
หน่อยครับ!”
เฉินชางเพิ่งรับสาย เสียงของเหล่าหม่าก็ดังขึ้นอย่างรวดเร็ว
เฉินชางไม่มีกะจิตกะใจถามว่าเรื่องอะไรก็รีบลุกไปเปลี่ยน
รองเท้า
หม่าเยว่ฮุยพูดต่อว่า “ฝั่งสะพานไป๋ฟางเกิดอุบัติเหตุรถชนกัน
ต่อเนื่อง คุณมาถึงก็รีบมาเลยนะครับ ที่นี่คนไข้ค่อนข้างเยอะ”
หลังจากเฉินชางได้ยินก็รีบขับรถออกไป!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ