เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ นิยาย บท 968

งานอบรมไม่ได้จัดในโรงแรม แต่จัดในคฤหาสน์ของนัก
การกุศลคนหนึ่ง
นักการกุศลท่านนี้ชื่อว่าถูเฉิง เป็นนักธุรกิจมหาเศรษฐีที่จบจาก
ต่างประเทศ เมื่อก่อนอาศัยอยู่ที่สิงคโปร์และมาเลเซีย เขาไม่เคย
แต่งงานและไม่มีลูก
หลังจากอายุหกสิบปี เขาได้มอบอำนาจงานทั้งหมดให้กับ
ผู้จัดการมืออาชีพอย่างเป็นทางการ จากนั้นก็กลับบ้านเกิดที่
เมืองหลวง และซื้อคฤหาสน์สี่ประสาน[1]หลังใหญ่
ปัจจุบันเขาอายุเจ็ดสิบเอ็ดปี ในช่วงสิบปีนี้ได้ใช้เงินเพื่อ
การกุศลมากกว่าหนึ่งพันล้าน ถือเป็นนักการกุศลชั้นยอดในวงการ
นอกจากนี้ ชายชราคนนี้ยังสนใจการพัฒนากิจการ
ทางการแพทย์ในประเทศ และได้บริจาครถพยาบาลให้กับ
เมืองหลวงมากกว่าสามร้อยคันระหว่างนั้นเขายังสนับสนุนรางวัลทางการแพทย์ระดับชาติ
หลายรางวัลหลายครั้ง เช่น Wu Jieping Medical Research Award
และเป็นผู้มีชื่อเสียงในแวดวงอีกด้วย
และชายชราคนนี้ยังเป็นเพื่อนกับผู้มีอิทธิพลมากมาย ซุนกว่า
งอวี่ถูกเขาจ้างเป็นหมอประจำ ตัวด้วยเงินเดือนสูงลิบเพื่อคอยตรวจ
สุขภาพให้เขาเป็นประจำ
หลังจากรู้เรื่องการอบรมครั้งนี้ ท่านผู้นี้ก็เชิญทุกคนมาที่บ้าน
อย่างกระตือรือร้น
ท่านถูสนใจงานอบรมวิชาการระดับมืออาชีพประเภทนี้มาก
เช่นกัน
บ้านท่านถูไม่ใช่คฤหาสน์สี่ประสานธรรมดา ในเมื่อเรียกว่า
คฤหาสน์ แน่นอนว่าไม่ใช่แค่บ้านธรรมดาๆ
คฤหาสน์สี่ประสานในเมืองหลวงมีเงื่อนไขหลายข้อ
คฤหาสน์ที่ถูเฉิงซื้อห่างจากคฤหาสน์ของพวกกัวมั่วรั่วไม่ไกล
มาก เพียงแต่เจ้าของเป็นนักธุรกิจผู้มั่งคั่ง ไม่ใช่ข้าราชการ ยิ่งไม่ใช่
เชื้อพระวงศ์ท่านถูมักบอกว่า เขาเป็นนักธุรกิจ ซื้อคฤหาสน์แบบนี้เหมาะสม
ที่สุด
คฤหาสน์ของนักธุรกิจกับคฤหาสน์ของข้าราชการแตกต่างกัน
อย่างเห็นได้ชัด แค่เสาประตูก็ดูออกแล้ว
หลังจากเฉินชางทักทายซุนกว่างอวี่เรียบร้อยแล้ว ก็บอกว่า
จะพาฉินเยว่ไปด้วย
ถึงอย่างไรฉินเยว่ก็อยู่แผนกศัลยกรรมทั่วไป ไปฟังความรู้พวก
นี้ไว้ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย
รถเข้าไปข้างในไม่ได้ ทำได้แค่หาที่จอดแถวนั้น หลังจากเดิน
ไปตาม GPS ไม่นานก็เจอคฤหาสน์หลังนั้น
ตรงข้ามประตูเป็นผนังทึบขนาดใหญ่ ด้านหน้ามีวัตถุโบราณ
เช่น เสาหินมงคง สิงโตหินสองตัวที่ล้วนได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี
เช่นกัน
ซุนกว่างอวี่รออยู่หน้าประตูแล้ว เห็นเฉินชางและฉินเยว่มาก็
เผยรอยยิ้ม “สวัสดีครับ เชิญเข้าด้านในได้เลยนะครับ ผมขอต้อน
รับแขกก่อน”เฉินชางพยักหน้า แต่ฉินเยว่กลับยิ้มพูด “เดี๋ยวฉันอยู่เป็นเพื่อน
ค่ะอาจารย์”
ซุนกว่างอวี่ได้ยินแบบนี้ก็พยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม “ได้ครับ”
ความจริงซุนกว่างอวี่ก็ชอบลูกศิษย์คนนี้มาก
พอเข้าประตูไปก็มีผนังกั้นขนาดใหญ่อีกบานหนึ่ง เฉินชางรู้ว่า
มีไว้เพื่อป้องกันสิ่งชั่วร้าย หลังจากผ่านประตูเข้าไปเป็นลานกว้าง
ข้างในมีโต๊ะน้ำชาจัดวางไว้แล้ว พนักงานเสิร์ฟหลายคนกำลังวิ่งวุ่น
อยู่
หลายคนนั่งประจำ ที่แล้ว ที่นี่มีอุปกรณ์ทันสมัยครบครัน และ
มีทุกสิ่งที่ต้องใช้ในการอบรม
เฉินชางหาที่นั่ง บนโต๊ะมีขนมวางอยู่ ไม่นานก็มีคนมารินน้ำชา
ให้เฉินชาง
เฉินชางมองการตกแต่งรอบๆ จู่ๆ ก็รู้สึกว่า ซื้อคฤหาสน์
สี่ประสานแบบนี้สักหลังก็ไม่เลว อย่างน้อยก็รับแขกได้
ทว่าหลังจากเห็นประตูด้านใน เฉินชางจึงตระหนักได้ว่า
ลานบ้านที่ใหญ่ขนาดนี้กลับเป็นลานนอกบ้าน ดูเหมือนว่า…ตนจะซื้อไม่ไหวเสียแล้ว
ทุกคนที่ประจำ ที่นั่งดูนิ่งกว่าเฉินชางมาก ดูเหมือนคุ้นชินกับ
สถานที่แบบนี้แล้ว
ทว่านึกถึงฐานะของคนเหล่านี้ เฉินชางเองก็ปล่อยวาง เป็นหัว
หน้าใหญ่ของโรงพยาบาลในเมืองหลวงได้ จะธรรมดาได้อย่างไร
ตอนนี้สิ่งที่ทุกคนกำลังหารือไม่ใช่คฤหาสน์คฤหาสน์สี่ประสาน
ที่ราคาหลายพันล้าน
ยิ่งไม่ใช่ท่านถูที่เป็นนักธุรกิจผู้มั่งคั่ง
แต่เป็นคลิปวิดีโอผ่าตัดที่ส่งเข้ากลุ่มเมื่อคืนรวมถึงหมอเฉินที่
ส่งสติกเกอร์รูปยิ้ม
“คลิปวิดีโอผ่าตัดเมื่อคืน ผมดูไปเจ็ดแปดรอบ ยิ่งดูยิ่งตะลึง
จริงๆ!”
“ใช่ครับ โดยเฉพาะตอนที่กรีดบนกระเพาะอาหาร เปิดโลกผม
เลยจริงๆ!”
……
“คุณคิดว่าหมอเฉินเป็นใคร”“ในกลุ่มมีหมอแซ่เฉินแค่ไม่กี่คน เราก็รู้จักหมดทุกคน!”
เห็นได้ชัดว่าทุกคนกำลังพูดถึงเฉินชาง
เฉินชางถอนหายใจอย่างจนปัญญา ตอนนี้เขาลำบากใจมาก
จู่ๆ ก็ถูกสร้างภาพลักษณ์ให้เป็นผู้ยิ่งใหญ่ ถ้าพวกเขาเจอตน
จะอึดอัดแค่ไหน
คิดได้แบบนี้ เฉินชางมองซุนกว่างอวี่ที่อยู่หน้าประตูอย่าง
หงุดหงิด
พอถึงเวลาประมาณเก้าโมง ทุกคนก็มากันครบแล้ว
จู่ๆ ก็มีสายจากฉินหย่งอี้โทรเข้ามาหาซุนกว่างอวี่ที่เป็นพิธีกร
จากนั้นซุนกว่างอวี่ก็ขึ้นเวทีกล่าวว่า “นี่เป็นงานอบรมภายใน
ของเรา และงานอบรมแบบนี้เราก็ได้จัดขึ้นบ่อยครั้ง ก่อนอื่นต้อง
ขอบคุณท่านถูที่สนับสนุนเราเป็นอย่างดี”
ตอนนี้เอง เฉินชางพลันสังเกตเห็นชายชราที่ไม่ได้ดูโดดเด่น
สะดุดตาคนหนึ่งนั่งอยู่ไม่ไกลนัก กำลังเฝ้าเตาเพื่ออุ่นน้ำชาให้ทุกคน
เฉินชางอึ้งไปทันที ช่างเป็นคนแก่ที่ถ่อมตัวมากเฉินชางหงุดหงิดกว่าเดิม ดูสิ มหาเศรษฐีระดับนี้ ยังต้ม
ชาด้วยตัวเอง
แล้วตนล่ะ
เฮ้อ เฉินชางถอนหายใจอย่างจนปัญญา
ซุนกว่างอวี่เอ่ยต่อว่า “วันนี้เราได้เชิญแขกรับเชิญลับท่านหนึ่ง
มาด้วย เขามีอิทธิพลอย่างมากในวงการศัลยศาสตร์ทั่วไป
ระดับนานาชาติ การผ่าตัดระบบทางเดินอาหารของเขามีอิทธิพล
อย่างมากต่อแผนกศัลยกรรมทางเดินอาหารระดับโลก ผมเองก็
ไม่คาดหวังเลยว่าเขาจะมา! แต่การมาเยือนของเขาได้เพิ่มประเด็น
อภิปรายให้กับงานอบรมของเราในวันนี้อย่างไม่ต้องสงสัย แต่จะเป็น
ใครนั้น ฮ่าๆ ผมขออุบไว้ก่อนนะครับ!”
ทุกคนได้ยินคำพูดของซุนกว่างอวี่ต่างเริ่มฮือฮาขึ้นมา
ความแตกต่างระหว่างงานอบรมกับการบรรยายคือ ทุกคนพูด
ได้อย่างอิสระและพูดพร้อมกันได้
“หัวหน้าซุน คุณทำเกินไปแล้ว ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ คุณ
อุบไว้สองครั้งแล้วนะครับ!”“ฮ่าๆ ใช่ครับ ผมคิดว่า หมอเฉินที่ว่าคงจะเป็นคนนี้ใช่ไหมครับ
!”
“มีความเป็นไปได้สูงมาก ไม่อย่างนั้นคงไม่มีทางทำการผ่าตัด
แบบนี้ได้!”
“ผมอยากเจอคนคนนี้มากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว”
……
ได้ยินคำพูดของทุกคน เฉินชางอึ้งไปทันที!
เขามองซุนกว่างอวี่แวบหนึ่ง ก่อนจะหันมองฉินเยว่พร้อมพูดว่า
“อาจารย์คุณ…เล่นผมยับเลย!”
ฉินเยว่ปิดปากหัวเราะ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร พลันยัดขนมชิ้นหนึ่ง
เข้าปากพร้อมรอยยิ้ม “อร่อยมากค่ะ!”
เฉินชางจนคำพูด!
เจ้าคนตะกละ
นี่คุณอยู่ข้างใคร
เฉินชางแทบจะร้องไห้แล้ว เราไม่ได้มีความแค้นต่อกัน
สักหน่อย หัวหน้าซุน คุณทำเกินไปแล้วผมยังไม่ทันเข้าวงการอย่างเป็นทางการเลย แต่คุณบอกว่าผม
มีอิทธิพลมากในด้านศัลยกรรมทั่วไประดับนานาชาติ!
ผมผ่าตัดไปทั้งหมดกี่เคสเอง การผ่าตัดระบบทางเดินอาหาร
มีอิทธิพลอย่างมากต่อแผนกศัลยกรรมทางเดินอาหาร
ระดับนานาชาติเลยหรือ…
เฉินชางเหมือนได้ย้อนกลับไปตอนอยู่ที่คลินิกศัลยกรรมของ
จางจื้อซิน ที่จางจื้อซินสร้างประวัติส่วนตัวให้เขา
ถ้าถูกเปิดโปงขึ้นมาจะน่าอายแค่ไหน
ไม่นาน ซุนกว่างอวี่พลันเริ่มงานอบรมในวันนี้
ก่อนอื่นคือการพูดคุยเกี่ยวกับการผ่าตัดเคสนี้
เมื่อคืนทุกคนได้ดูคลิปวิดีโอผ่าตัดนี้แล้ว แน่นอนว่าแต่ละคน
ล้วนสะเทือนใจมาก ต่างแสดงความคิดเห็นขึ้นมา
ว่าไม่ได้เชียว ทุกคนล้วนมีความคิดและความเข้าใจของตนเอง
และมีการวิจัยเกี่ยวกับการเชื่อมตับอ่อนและกระเพาะอาหารมาเป็น
อย่างดี ต่างก็เริ่มแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน[1] คฤหาสน์สี่ประสาน (四合院) บ้านจีนโบราณรูปแบบหนึ่ง
มีลักษณะเป็นตัวอาคารสี่ด้านล้อมลานตรงกลาง