ตอนที่ 102 โต๊ะจีนปลา
ไม่ใช่เพียงการถกเถียงกันในสายงาน
ทางวิทยาลัยศิลปะฉินโจวก็ตื่นเต้นเหลือล้นเช่นเดียวกัน
ถึงอย่างไรซุนเย่าหั่วก็เป็นรุ่นพี่ที่สาขาการขับร้อง ความรู้สึกรักในองค์กรของวิทยาลัยศิลปะฉินโจวนั้นรุนแรงมาก ร้อยละแปดสิบของโพสต์ในเว็บบอร์ดของวิทยาลัยก็ล้วนพูดคุยกันเรื่องนี้
‘เห็นชัดๆ ว่าเซี่ยนอวี๋โคตรโหด’
‘ฉันว่ารุ่นพี่ซุนเย่าหั่วดวงโคตรโหดมากกว่า’
‘เซี่ยนอวี๋ยกระดับความสำคัญของพ่อเพลงอย่างเต็มที่มาก ครั้งก่อนช่วยจ้าวอิ๋งเก้อพลิกเอาชนะนักร้องแถวหน้า ครั้งนี้พารุ่นพี่ซุนเย่าหั่วไปจัดการนักร้องแถวหน้า ฉันเริ่มสงสัยแล้วว่าเซี่ยนอวี๋จงใจ ชื่อเสียงของซุนเย่าหั่วกับจ้าวอิ๋งเก้อยิ่งน้อยก็ยิ่งขับให้ความสามารถของเซี่ยนอวี๋เด่นชัดยิ่งขึ้น ความจริงแล้วอย่าว่าแต่ชื่อเสียงของซุนเย่าหั่วเทียบกับนักร้องแถวหน้าไม่ได้เลย ต่อให้เป็นจ้าวอิ๋งเก้อก็ยังห่างชั้นกันมาก’
‘เนื้อเพลงก็สุดยอดมาก’
‘ประโยคนั้นที่ร้องว่าไม่ได้มาครอบครองก็ต้องมืดมัว ได้รับความรักไปก็ไม่ต้องกลัว ประโยคนี้โดนใจฉันมาก เลยตัดสินใจว่าจะเอาเนื้อเพลงประโยคนี้ไปตั้งเป็นชื่อ ความสามารถในการเขียนเนื้อเพลงของเซี่ยนอวี๋เขียนไม่ได้ด้อยไปกว่าทำนองเพลงเลย!’
‘ช่างเถอะ’
‘ตั้งแต่เพลงนี้ปล่อยออกมาจนถึงตอนนี้ ฉันเห็นเพื่อนอย่างน้อยสิบคนเอาประโยคนี้ไปตั้งเป็นชื่อ กวาดตามองไปแวบแรกยังคิดว่าพวกเขาเป็นตุ๊กตาแม่ลูกดกรุ่นใหม่ซะอีก แค่กลัวว่าวันใดวันหนึ่งอยู่ๆ พวกเขาอาจส่งข้อความมาหาฉันว่าที่จริงแล้วพวกเขาเป็นคนเดียวกันมาตลอด ถ้าฉันไม่เชื่อเดี๋ยวพวกเขาสลับแอคมาคุยกับฉันก็ได้’
‘เย่าหั่วดังจริงๆ แล้ว’
‘ถ้าบอกว่าเพลงชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์ทำให้รุ่นพี่ซุนเย่าหั่วเดบิวต์ได้สำเร็จ เพลงนี้ก็มากพอให้รุ่นพี่ซุนเย่าหั่วเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมา หลังจากนี้ทุกคนเห็นชื่อซุนเย่าหั่ว จะต้องรู้จักอย่างแน่นอน’
‘…’
คนจำนวนมากเห็นชื่อของซุนเย่าหั่ว ปฏิกิริยาแรกย่อมรู้สึกไม่คุ้นเคย นอกเสียจากคนที่ชื่นชอบเพลงชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์จริงๆ จะมีสักกี่คนที่รู้จักว่าซุนเย่าหั่วเป็นใคร
ทว่าในตอนนี้สถานการณ์ไม่เป็นแบบนั้นแล้ว
อย่าว่าแต่คนในสายงานกลุ่มนี้เลย
ต่อให้เป็นในช่องแสดงความคิดเห็นของเพลงนี้ ก็มีคนจำนวนมากพูดคุยกันเรื่องความสามารถในการร้องเพลงของซุนเย่าหั่ว
ถึงอย่างไรเพลงกุหลาบแดงก็ไม่ใช่เพลงที่ให้หมามาร้องก็ยังปัง ช่วงเสียงของเพลงนี้ค่อนข้างต่ำ ถ้าไม่มีความสามารถในการร้องระดับหนึ่ง ไม่มีทางคุมเพลงนี้ได้อยู่หมัด
นอกจากความสามารถในการร้องเพลง เพลงนี้ยังจำเป็นต้องใช้ความรู้สึก
เมื่อนึกถึงเรื่องที่ซุนเย่าหั่วเก็บตัวฝึกซ้อมในห้องอัดมานานแค่ไหน และเมื่อนึกถึงจินซูอวี่ที่อยากฉกฉวยโอกาสในการร้องเพลงนี้จนอดรนทนไม่ไหว ก็รู้แล้วว่าเพลงนี้ไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิด
อาจมีคนบอกว่า เพลงนี้ฉันก็ร้องได้
ก็แค่นี้เองไม่ใช่เหรอ
ถ้ามองจากการร้องเพียงอย่างเดียว เพลงกุหลาบแดงเป็นเพลงประเภทที่ร้องง่ายจริงๆ นั่นแหละ
แต่จะร้องได้ดีหรือไม่ดีนั้นเป็นคนละเรื่องกัน
ต่อให้เนื้อร้องทำนองเหมือนกันหมด ถ้าหากอารมณ์ไม่ถึงก็มีแต่จะลดทอนเสน่ห์ของเพลงลง อันที่จริงคนจำนวนมากฟังเพลง สิ่งที่ฟังก็คืออารมณ์ความรู้สึก
หากเปลี่ยนคนร้อง อารมณ์ก็จะไม่เหมือนกันแล้ว เรื่องนี้แค่ฟังก็บอกได้!
สำหรับจุดนี้ ซุนเย่าหั่วควรค่าแก่การได้รับเสียงชื่นชม
อย่างไรก็ดี ในช่องคอมเมนต์ก็มีคนถกเถียงกันเกี่ยวกับตัวเนื้อเพลงมากยิ่งกว่า
ที่นี่เป็นพื้นที่ซึ่งผู้ที่รักเสียงเพลงมารวมตัวกัน ขณะเดียวกันก็มีผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาอีกมากมาย เป็นสถานที่ซึ่งผู้คนพูดคุยเรื่องส่วนตัวกัน ตัวอย่างเช่นบางคอมเมนต์กล่าวเช่นนี้ ‘แฟนฉันฟังเพลงนี้ตั้งแต่เมื่อคืนวาน เขากำลังบอกใบ้อะไรหรือเปล่านะ’
แล้วก็มีคนถามว่า ‘ถูกหลอกให้รักรู้สึกเป็นยังไงเหรอ’
ด้านล่างก็มีคำตอบที่ได้รับการกดถูกใจมากที่สุด ‘แรงมาก เขากลับไม่ถามเธอเลยว่าเจ็บปวดมั้ย…’
‘งั้นก็แปลว่าที่จริงเรื่องราวของเพลงนี้เจ็บปวดมาก’
‘ผู้ชายก็เป็นแบบนี้แหละ ชอบใสซื่อว่าง่าย แต่ก็ปฏิเสธคนที่มาอ่อยไม่ได้’
‘มีแค่การฟังเสียงในใจของตัวเองเท่านั้นแหละ ถึงจะใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข’
‘…’
คอมเมนต์ซึ่งถูกกดไลก์มากที่สุด กลับเป็นคอมเมนต์สำบัดสำนวนออกไปทางชอกช้ำพวกนั้น
ในจุดนี้ แอปพลิเคชัน NetEase Sad Music[1] บนโลกย่อมรู้ดี
แต่แท้จริงแล้ว สำหรับเรื่องราวเบื้องหลังของเพลงนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน