ตอนที่ 1088 โปรโมต
………………..
เกี่ยวกับเรื่องโดราเอมอนนั้นมีเรื่องเล่ามากมาย
ในการ์ตูน มีตอนจบตอนหนึ่ง โดราเอมอนยิ้มกับโนบิตะแล้วพูดว่า
“ญี่ปุ่นแพ้สงครามแล้วละ!”
เหตุการณ์นี้เคยทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงในแดนปลาดิบ
มีชาวญี่ปุ่นจำนวนมากร้องเรียนและโจมตีฟูจิโกะซึ่งเป็นผู้เขียนว่า
การแพ้สงครามเป็นเรื่องที่ทำให้ยิ้มออกได้ด้วยหรือ?
กลุ่มผู้อ่านเหล่านี้มองว่าบทนี้ในการ์ตูนไม่ให้เกียรติญี่ปุ่น และเป็นการหักหลังบ้านเกิดของของตน
แต่ฟูจิโกะก็ไม่ยอมอ่อนข้อ
แม้จะถูกกระแสสังคมภายในประเทศวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง เขาก็ไม่ได้แก้ไขเนื้อหาแม้แต่น้อย กลับกันในเวอร์ชันภาพยนตร์ต่อมา ยังให้โนบิตะกับโดราเอมอนเต้นดีใจจนกระโดดโลดเต้นกับการที่ญี่ปุ่นแพ้สงครามอีกด้วย
ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่แค่ฟูจิโกะเท่านั้น
แม้แต่ศิลปินอนิเมชันชั้นครูจากแดนอาทิตย์อุทัยอย่างมิยาซากิ ฮายาโอะ ก็เคยสะท้อนแนวคิดต่อต้านสงครามผ่านผลงานของตัวเองหลายครั้งเช่นกัน
โดยเฉพาะในผลงานเรื่อง ‘ปีกแห่งฝัน วันแห่งรัก’ ก็เคยถูกตั้งคำถามและวิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อยเช่นกันแต่พวกเขาทั้งหมดก็ยังยืนหยัดในจุดยืนของตัวเอง
การเผชิญหน้ากับประวัติศาสตร์
การยอมรับความผิดพลาด
บางทีนี่อาจเป็นความรับผิดชอบที่แท้จริงของนักวาดการ์ตูนที่มีต่อสังคม
และนี่ก็คงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้การ์ตูนของเหล่าศิลปินจากแดนอาทิตย์อุทัยบางคนโด่งดังไปทั่วโลกถึงขั้นได้รับความรักและความเคารพจากชาวจีนจำนวนมาก
บางทีอาจเพราะนึกถึงเรื่องพวกนี้ ในช่วงไม่กี่วันถัดมา หลินเยวียนก็วาดการ์ตูนอย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น
และเมื่อสะสมต้นฉบับได้มากพอ หลินเยวียนจึงติดต่อไปยังประธานกรรมการ ขอให้แผนกแอนิเมชันของสตาร์ไลท์รีบผลิตโดราเอมอนเวอร์ชันแอนิเมชันออกมาโดยเร็วที่สุด
เพราะเขาต้องการทำเป็นเรื่องยาวเต็มรูปแบบ!
แน่นอนว่าทางประธานก็ไม่ได้ขัดข้อง
หลินเยวียนกับประธานกรรมการต่างก็ออกคำสั่งไปแล้ว บริษัทย่อมทำงานกันอย่างมีประสิทธิภาพ ทีมผู้ผลิตจึงถูกจัดตั้งขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยทุกคนในทีมจะทุ่มเทอย่างเต็มที่ให้กับแอนิเมชันเรื่องใหม่เรื่องนี้
ผู้กำกับคือคนที่เก่งที่สุดของบริษัท
นักพากย์ก็ล้วนเป็นระดับแถวหน้าของวงการ
อย่างไรก็ตาม แม้ทุกอย่างจะดำเนินไปอย่างเป็นระเบียบแต่ข่าวเกี่ยวกับแอนิเมชันใหม่ของอิ่งจือที่อยู่ระหว่างการสร้างนั้น ยังไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ
ช่วงหลายวันที่ผ่านมา
เนื่องจากมีคนจำนวนมากอ่านภารกิจกู้ชีวิตบนดาวอังคารจบลงในช่วงที่กระแสรีวิวเริ่มแผ่ขยาย ทำให้ชื่อเสียงของฉู่ขวงในเว่ยโจวโด่งดังจึงยิ่งโด่งดังขึ้นเรื่อยๆ !
‘ในที่สุดก็อ่านภารกิจกู้ชีวิตบนดาวอังคารจบแล้ว’
‘ผมยังกลับไปอ่านผลงานอื่นของฉู่ขวงด้วยเลย’
‘พอได้อ่านหลายเรื่องของเขาแล้ว ถึงเข้าใจอย่างแท้จริงว่าทำไมถึงมีคำพูดที่ว่า ‘เซี่ยนอวี๋ใต้ ฉู่ขวงเหนือ’ แพร่กระจายไปทั่วทุกทวีป’
‘ทั้งสองคนนี้ต่างก็เป็นแนวหน้าในแขยงที่ตัวเองถนัด’
‘ที่จริงคนเว่ยโจวหลายคนยังไม่รู้เลยว่าประโยคนี้ยังมีท่อนต่ออีกนะ’
‘ประโยคถัดไปคือ?’
‘อิ่งจืออยู่ตรงกลางไงล่ะ’
‘เขาเป็นใครมาจากไหนน?’
‘เป็นเพื่อนสนิทของฉู่ขวงกับเซี่ยนอวี๋’
‘ทั้งสามคนมาจากฉินโจว พวกเขาเลยถูกชาวเน็ตจากทวีปฉิน ฉี ฉู่ เยี่ยน หานและจ้าว เรียกรวมกันว่าสามสหาย และผลงานของพวกเขาก็มักจะมีการเชื่อมโยงกัน’
‘อ๋อ เป็นเพื่อนกันนี่เอง’
‘แต่ที่พวกคุณเอาอิ่งจือมาเสริมให้สัมผัสคล้องจองแบบนี้ ก็เพราะอยากให้เข้าข้อความฟังดูสมบูรณ์ใช่ไหมล่ะ? ไม่งั้นนักวาดการ์ตูนคนหนึ่งจะไปเทียบชั้นกับอีกสองคนได้ยังไง?’
เอาเถอะ
แม้จะมีชาวเน็ตจากทวีปอื่นคอยเตือนและแนะนำความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของอิ่งจือในวงการการ์ตูน
แต่ชาวเว่ยโจวก็ยังไม่ค่อยยอมรับคำกล่าวนี้อยู่ดี
เพราะพวกเขายังไม่เคยได้สัมผัสด้วยตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็นด้านดนตรี
หรือวรรณกรรม
ศาสตร์ทั้งสองแขนงนั้นมันมีความศักดิ์สิทธิ์ในตัวอยู่แล้ว
ส่วนการ์ตูนน่ะหรือ มันก็แค่สาขาย่อยของวงการวาดภาพเท่านั้นแหละ
ถึงขั้นท่ี
ในการจัดลำดับคุณค่าภายในวงการจิตรกรรม
การ์ตูนยังถือว่าอยู่ล่างสุดของห่วงโซ่นี้อีกด้วย
พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ
คนพวกนี้ยอมรับแค่ประโยคที่ว่า ‘เซี่ยนอวี๋ใต้ ฉู่ขวงเหนือ’ เท่านั้น
…
ช่วงนี้จิตวิญญาณของอิ่งจือดูจะกระสับกระส่ายเป็นพิเศษ
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอน 837-839 ไม่มีข้อความเลยครับ...