ตอนที่ 187 สร้อยคอ
หลังจากการการตัดสินใจของปู้ลั่ว นักเขียนเรื่องสั้นฝีมือดีทั้งจากมณฑลฉินและฉี ล้วนได้รับคำเชิญจากแพลตฟอร์มดังกล่าวให้สร้างสรรค์ผลงาน รวมไปถึงหลินเยวียนก็ได้รับสายจากเว่ยหลง หนึ่งในหัวหน้าบรรณาธิการของปู้ลั่วเช่นเดียวกัน อีกฝ่ายอธิบายและแนะนำกิจกรรมนี้อย่างละเอียด
“เรื่องสั้น?”
หลินเยวียนเพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ ว่าในมือของเขายังมีเรื่องสั้นอีกสองเรื่องซึ่งยังไม่ได้ปล่อยออกไป
ยามนี้ฉินและฉีควบรวมกันอย่างเป็นทางการ รางวัลที่หนึ่งของปู้ลั่ววรรณกรรมก็สูงถึงหนึ่งล้านหยวน!
ต่อให้ตนไม่ได้รางวัลที่หนึ่ง ได้รางวัลที่สองหรือที่สามก็ไม่ขาดทุน
ใช่แล้ว
หลินเยวียนรู้สึกว่าผลงานอีกสองชิ้นที่ตนเหลืออยู่ ไม่ว่าจะหยิบชิ้นไหนออกมา ก็สามารถเข้าสามอันดับแรกได้อย่างสบายใจไร้ปัญหา
“ตอนนี้คุณมีชิ้นงานอยู่ไหมครับ…”
เว่ยหลงกระอักกระอ่วนเล็กน้อย หลังจากตีพิมพ์เรื่องความตายของเสมียนรัฐไป เขาก็ไต่ถามฉู่ขวงอยู่หลายครั้ง แต่ฉู่ขวงก็บอกแต่ว่าไม่มีแรงบันดาลใจ
ฉะนั้นแล้วเขาจึงไม่มั่นใจว่าช่วงนี้ฉู่ขวงจะมีนิยายสั้นที่พอจะตีพิมพ์ในช่วงเดือนมีนาคมหรือไม่
“มีครับ”
หลินเยวียนตอบอย่างรวบรัด
เว่ยหลงผ่อนลมหายใจ พลันรู้สึกสบายใจขึ้นมา “เดี๋ยวผมจะส่งอีเมลให้คุณนะครับ งั้นคุณจะส่งผลงานมาประมาณช่วงไหนเหรอครับ”
“อีกสักสามสี่วันครับ”
“ได้ครับ งั้นรบกวนด่วนที่สุดเท่าที่เป็นไปได้เลยนะครับ ทางเราจะได้รีบตีพิมพ์เดือนมีนาคม…”
“ไม่มีปัญหาครับ”
หลินเยวียนตอบอย่างตรงไปตรงมา
แน่นอนว่าต้องตรงไปตรงมา เพราะหลินเยวียนพึงพอใจกับเงื่อนไขนี้มาก
หลังจากวางสาย ในวันนั้นหลินเยวียนก็หอบคอมพิวเตอร์ไปยังกองถ่ายด้วย
ในฐานะนักเขียนบท หลินเยวียนเข้าไปข้องเกี่ยวกับการถ่ายทำเรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศน้อยมาก เพราะอี้เฉิงกงถ่ายทำไปตามที่เขาต้องการ และหัวหน้าพ่อบ้านเสิ่นชิงก็ดูแลงานเบื้องหลังในกองเป็นหลัก
เขามีเวลามากมาย จึงนั่งทำธุระของตนหน้าเซ็ต
ถึงอย่างไรก็ไม่มีคนมาสนใจอยู่แล้วว่าเขาทำอะไร
ที่หลินเยวียนยังคงมาอยู่ที่หน้าเซ็ต ไม่ใช่เพราะอื่นใดหากแต่เป็นเพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้น
เขาปลีกตัวไปในมุมสงบ เพื่อหาที่ถอดรหัสนิยายออกมาจากในสมอง จากนั้นจึงเริ่มขบคิดว่าควรเลือกนิยายเรื่องไหนดี
เลือกหนึ่งเรื่องจากสองเรื่อง
หลังจากคิดสะระตะไปมา ในที่สุดหลินเยวียนก็ตัดสินใจได้
เขาพิมพ์คำหนึ่งลงในหน้าเอกสาร
สร้อยคอ
ในเมื่อเป็นนิยายสั้นเรื่องหนึ่ง จำนวนตัวอักษรของทั้งเรื่อง ‘สร้อยคอ[1]’ นั้นไม่เกินห้าพันตัวอักษร แค่พิมพ์ออกมา ก็กินเวลาของหลินเยวียนไม่กี่ชั่วโมงหรอก
สิ่งที่ต้องใช้เวลาจริงๆ คงหนีไม่พ้นการปรับเปลี่ยนฉากหลังของนิยาย
[หญิงสาวผู้งดงามมากมายบนโลกใบนี้มักถือกำเนิดขึ้นในครอบครัวยากจน เพราะถูกโชคชะตาเล่นตลก…
เธอไม่มีสินสอดทองหมั้น ปราศจากหนทางและความหวังที่จะทำให้ผู้คนที่มีทั้งฐานะและทรัพย์ศฤงคารรู้จักเธอ เข้าใจเธอ รักเธอ และแต่งงานกับเธอ จนท้ายที่สุดแล้ว เธอก็ทำได้เพียงแต่งงานกับเสมียนกระทรวงศึกษาธิการคนหนึ่ง]
ถ้าบอกว่าเรื่องของขวัญแห่งเมไจเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นโบว์แดงของโอ.เฮนรี
เช่นนั้นเรื่องสร้อยคอที่หลินเยวียนกำลังเขียนอยู่นั้น ก็เป็นหนึ่งในผลงานชิ้นโบว์แดงของโมปัสซองต์เหมือนกัน
ในฐานะปรมาจารย์ที่โด่งดังในโลกการเขียนเรื่องสั้นร่วมกับโอ.เฮนรี แม้ว่าสไตล์ของโมปัสซองต์จะต่างกับโอ.เฮนรี แต่ผลงานชิ้นโบว์แดงของพวกเขาแต่ละคนก็ล้วนยอดเยี่ยมอย่างไม่ต้องสงสัย
นี่จึงเป็นที่มาของความเชื่อมั่นที่หลินเยวียนมีต่อเรื่องสร้อยคอ
ส่วนการปรับแต่งฉากหลังของเรื่อง หลินเยวียนนั้นชำนิชำนาญแล้ว
แต่เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น หลินเยวียนยังใช้เวลาไปอีกสองชั่วโมงในการปรับแต่งฉากใหม่ของนิยายให้สมบูรณ์แบบ และตรวจสอบความเรียบร้อยโดยละเอียด และทำให้เรื่องนี้แลดูไร้ที่ติมากที่สุด
……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน