ตอนที่ 278 พลิกโผ (2)
เมื่อมองจากมุมนี้แล้ว
หลินเยวียนถึงกับรู้สึกขอบคุณที่ชาวฉู่หยิบยกตนขึ้นมาเอ่ยถึงด้วยซ้ำไป เป็นเพราะคนฉู่เอาแต่ปลุกความเคืองแค้นอย่างไม่หยุดหย่อน กระตุ้นให้คนฉินรวมกันเป็นกลุ่มก้อน ถึงได้มีคนเริ่มสนใจภาพยนตร์ของตนมากเช่นนี้!
“แต่ว่า…”
เหล่าโจวกล่าวอย่างกังวลใจ “ฉันยังไม่ได้ฟังเพลงในหนังของนายเลย รับประกันคุณภาพได้ใช่ไหม ถ้าไม่มั่นใจละก็ฉันให้พ่อเพลงในบริษัทช่วยได้นะ พวกเขาน่าจะยังพอมีเพลงที่ยังไม่ได้ปล่อยอยู่บ้าง คุณภาพดีมากทีเดียว”
“ไม่เป็นไรครับ”
หลินเยวียนมั่นใจเต็มเปี่ยม
ความมั่นใจของเขานั้นไม่ได้มาจากตัวเขาเอง ทว่ามาจากผลงานสุดคลาสสิกอันโด่งดังในโลกที่แล้ว เพลงวิวาห์ในฝันนับเป็นอภิมหาเครื่องจักรสังหารได้อย่างไร้ข้อกังขา กล่าวได้ว่านี่เป็นครั้งที่หลินเยวียนมั่นใจมากที่สุด!
“มั่นใจใช้ได้…”
เหล่าโจวพยักหน้า เขาไม่สงสัยในความสามารถด้านการประพันธ์เพลงของหลินเยวียนเลย ทว่าเรื่องนี้เกี่ยวโยงกับหลายเรื่องเหลือเกิน ถ้าเกิดบทเพลงในเรื่องนักปรับเสียงเปียโนไม่มีศักยภาพมากพอ ไม่เพียงภาพยนตร์ที่จะได้รับผลกระทบ ชื่อเสียงในฐานะนักประพันธ์เพลงของเซี่ยนอวี๋ก็จะถูกโจมตีครั้งใหญ่ด้วยเช่นกัน
การปั่นกระแสเป็นดาบสองคม
มหาสงครามดนตรีระหว่างฉินและฉู่ซึ่งมีศักดิ์ศรีเป็นเดิมพันนั้น ดึงดูดความสนใจมหาศาลให้กับเรื่องนักปรับเสียงเปียโนได้จริงๆ แต่ขณะเดียวกันก็ยังทำให้ความคาดหวังที่หลายคนมีต่อบทเพลงซึ่งปรากฏในภาพยนตร์เรื่องนี้สูงขึ้นด้วย ถ้าหากท้ายที่สุดแล้วความคาดหวังนี้แตะไม่ถึงมาตรฐานที่ผู้คนคาดคิดไว้ ผลลัพธ์ที่ตามมาคงไม่น่าดูอย่างแน่นอน
เซี่ยนอวี๋เองก็ยากที่จะแบกรับ
ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย เขายังแนะนำอีกว่า “หรือจะให้หยางจงหมิงลองฟังดูก่อน บางทีอาจให้คำชี้แนะนายได้บ้าง ไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อมั่นในผลงานครั้งนี้ของนายหรอกนะ แค่ผลงานครั้งนี้มันสำคัญมากๆ!”
หลินเยวียนตอบ “แล้วแต่เลยครับ”
ทองแท้ไม่กลัวไฟหรอก
เหล่าโจวพยักหน้า พาหลินเยวียนตรงไปยังชั้นสิบสี่ ชั้นสิบสี่เป็นชั้นที่สูงที่สุดของแผนกประพันธ์เพลง ขณะเดียวกันก็เป็นชั้นที่หยางจงหมิงรับผิดชอบดูแล อีกฝ่ายเป็นพ่อเพลงระดับแนวหน้าของบลูสตาร์ จะให้หยางจงหมิงไปหาหลินเยวียนก็คงไม่ได้ ควรให้หลินเยวียนเป็นฝ่ายไปหาหยางจงหมิงจึงจะเหมาะสมกว่า
นี่เป็นมารยาทที่รุ่นน้องพึงมี
หลินเยวียนไม่ได้รู้สึกติดขัดกับเรื่องนี้ ความรู้สึกที่หลินเยวียนมีต่อหยางจงหมิง อันที่จริงค่อนข้างพิเศษ หากไม่เอ่ยถึงเรื่องผลงานที่ระบบจัดเตรียมไว้ให้ หลินเยวียนคิดว่าหยางจงหมิงเป็นคนที่ประสิทธิ์ประสาทความรู้ให้กับตนมากที่สุด
อีกฝ่ายนับว่าเป็นอาจารย์ตัวจริงของหลินเยวียน!
เพราะความรู้ด้านการประพันธ์เพลงที่แท้จริงของหลินเยวียน ส่วนมากนั้นได้มาจากการถ่ายทอดจากการ์ดตัวละครของหยางจงหมิง ต่อให้ตัวหยางจงหมิงจะไม่รู้เรื่องรู้ราวด้วย หลินเยวียนก็ได้เรียนรู้จากอีกฝ่ายมามากมายจริงๆ
ผ่านไปไม่นาน
ก็ถึงชั้นสิบสี่
เหล่าโจวนำหลินเยวียนไปยังห้องทำงานอันเงียบสงัด เคาะประตู รอเสียงจากด้านในเอ่ยว่า ‘เชิญ’ เขาจึงผลักประตูเดินเข้าไป จากนั้นหลินเยวียนก็เห็นชายฉกรรจ์อายุราวสี่สิบต้นๆ คนหนึ่งกำลังเงยหน้ามองตน
ชายคนนี้ส่วนสูง 180 เซนติเมตรเห็นจะได้
รูปร่างสูง ทว่าใบหน้ากลับซูบตอบอยู่บ้าง เบ้าตาลึกคล้ำ คล้ายกับว่าจะพักผ่อนน้อยมาเป็นเวลานาน ผมของเขาเริ่มบางเช่นเดียวกับชายวัยกลางคนที่พบเห็นกันได้ทั่วไป สามารถจินตนาการได้ว่าช่วงวัยรุ่นเขาคงจะหล่อเหลาเอาการมากทีเดียว
“อาจารย์หยาง สวัสดีครับ”
หลินเยวียนออกตัวเอ่ยทักทาย
นี่เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองพบกัน แต่หยางจงหมิงกลับไม่รู้ว่า แท้จริงแล้วหลินเยวียนคุ้นเคยกับรูปร่างหน้าตาของเขาเป็นอย่างดี แม้แต่ความรู้ด้านการประพันธ์เพลงในสมองของเขา ก็หาใช่สิ่งแปลกใหม่สำหรับหลินเยวียน
เหล่าโจวได้แจ้งเรื่องมาก่อนหน้านี้แล้ว
หยางจงหมิงไม่ได้ประหลาดใจกับการปรากฏตัวของหลินเยวียน เขาเพียงจ้องมองหลินเยวียน จ้องมองด้วยสายตาระคนความสงสัย ราวกับกำลังพินิจพิเคราะห์ ผ่านไปนานกว่าเขาจะค่อยๆ เอ่ยขึ้น
“ผมรู้จักคุณ”
เหล่าโจวยิ้มเอ่ย “เรื่องนี้ผมเพิ่งแจ้งคุณไป ลองฟังเพลงครั้งนี้ของหลินเยวียนดูสักหน่อย ถ้าคุณว่าใช้ได้ ทางผมก็วางใจ ถ้าเรื่องนี้จัดการไม่ดี เซี่ยนอวี๋จะเสียหาย หวังว่าคุณจะเข้าใจนะครับ”
“เซี่ยนอวี๋ไม่เสียหายหรอก”
สีหน้าของหยางจงหมิงเคร่งขรึมลงฉับพลัน ก่อนจะกระซิบบอกกับหลินเยวียน “เพลงดาดฟ้าไม่ได้มีปัญหาอะไร แค่คนฉู่มีแผนเยอะ ปล่อยให้พวกเขาได้โอกาสดีใจบ้างก็แล้วกัน”
หลินเยวียนพยักหน้า
แน่นอนเขาย่อมรู้ว่าเพลงดาดฟ้าไม่มีปัญหา แต่หยางจงหมิงกล่าวเช่นนี้เพราะมีเจตนาจะปลอบใจหลินเยวียน ดังนั้นหลินเยวียนจึงไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงแต่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา พลางเอ่ย “ผมเปิดเพลงให้อาจารย์ฟังได้ไหมครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน