Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 289

ตอนที่ 289 จบเห่แล้ว

จินมู่ดำเนินการอย่างรวดเร็ว เพราะจะรีบเผยแพร่ผลงานชิ้นใหม่ในเดือนมีนาคม เขาเจรจาร่วมงานกับปู้ลั่ววรรณกรรมอย่างรวดเร็ว ตราบใดที่ครั้งนี้ฉู่ขวงสามารถคว้าสามอันดับแรกได้ ก็จะได้รับค่าต้นฉบับเพิ่มเติ่มอีกสองแสนหยวน

นี่เป็นความสำคัญของค่าตัว

ในตอนนี้ฉู่ขวงกลายเป็นนักเขียนเรื่องสั้นอันดับที่ 14 ของฉิน ฉี และฉู่ พลังของการโปรโมตและเสียงเรียกร้องนั้นยิ่งใหญ่เหลือเกิน

นี่เป็นเหตุผลที่ฉู่ขวงสามารถเรียกร้องค่าตอบแทนเพิ่มเติมสำหรับการเผยแพร่ผลงานใหม่จากปู้ลั่วได้!

ต้องขอบคุณที่แพล็ตฟอร์มอย่างบล็อกกำลังจับจ้องตาเป็นมันด้วยเช่นกัน

เพราะหากพวกเขาไม่รับปากข้อเรียกร้องนี้ของฉู่ขวง และฉู่ขวงหันไปร่วมมือกับบล็อกจะทำอย่างไรล่ะ

จำเป็นต้องระวังไว้ก่อน

ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าความกังวลของปู้ลั่วเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

เพราะทันทีที่จินมู่เป็นตัวแทนของฉู่ขวงเซ็นสัญญาใหม่เรื่องสั้นฉบับใหม่กับปู้ลั่ว คนจากทางบล็อกก็ติดต่อมา

“ทางบล็อกหวังว่าคุณจะมาร่วมงานกับเราได้ ค่าต้นฉบับสามแสนหยวน รางวัลคำนวณแยกต่างหาก…”

เมื่อจินมู่ไปแจ้งเรื่องนี้กับหลินเยวียน สัญญาก็ลงนามเรียบร้อยแล้ว

ช่วยไม่ได้

หลินเยวียนไม่คิดจะฉีกสัญญา เขายังคงรักษาสัญญาเดิม ชื่อเสียงของทุกตัวตนของเขาล้วนมีความสำคัญ

“แน่นอนว่าผมไม่แนะนำให้คุณทำผิดสัญญา”

จินมู่ยิ้มเอ่ย “ผมแค่กำลังคิดว่า เป็นไปได้ไหมที่เรื่องสั้นชิ้นต่อไปจะไปร่วมงานกับบล็อก”

หลินเยวียนชะงักไป ก่อนจะเอ่ยขึ้น “รับมาพิจารณาก็ได้ครับ”

ระหว่างเขาและปู้ลั่วเป็นความสัมพันธ์เพียงชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น

ถ้าหากทางบล็อกสามารถเสนอราคาที่สูงกว่าได้ แน่นอนว่าหลินเยวียนก็สามารถพิจารณาร่วมงานกับบล็อกในผลงานชิ้นใหม่ได้

ไม่มีมิตรแท้หรือศัตรูถาวรหรอก

ถึงแม้ก่อนหน้านี้ฉู่ขวงจะช่วยปู้ลั่วสู้กับบล็อกมาก่อน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่สามารถช่วยบล็อกสู้กับปู้ลั่วได้

ไม่ได้นับว่ากระโดดข้ามฝั่งไปมา

จินมู่พยักหน้า “ผมจะติดต่อกับบล็อกไป ว่าผลงานชิ้นต่อไป ถ้าหากพวกเขาสามารถจ่ายเพิ่มได้อีก เราก็จะพิจารณา”

เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้ จินมู่กล่าวอีกว่า

“เพราะมีการผนวกรวมพื้นที่ นักเขียนแนวหน้าในแต่ละหมวดหมู่ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ปู้ลั่วมีตัวเลือกนักเขียนเพิ่มขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก เพราะฉะนั้นมักจะมีนักเขียนที่ปล่อยผลงานชิ้นนี้กับปู้ลั่ว แล้วไปปล่อยผลงานชิ้นถัดไปกับทางบล็อกอยู่บ่อยครั้ง ต่อให้เป็นปู้ลั่วก็พูดอะไรมากไม่ได้ ทุกคนก็เคยชินกับการวิ่งไปวิ่งมาสองที่แล้วล่ะครับ”

ปู้ลั่วมีเงินรางวัลสำหรับสามอันดับแรก

แน่นอนว่าทางบล็อกก็มีเงินรางวัลที่คล้ายคลึงกัน

เนื่องจากจำนวนเงินนั้นไม่ต่างกันมาก นักเขียนหลายคนย่อมพิจารณาทั้งสองฝ่าย

ถ้าเดือนไหนทางปู้ลั่วมีการแข่งขันใหญ่ ทำไมไม่ไปแข่งขันข้างบ้านแทนซะล่ะ

ถึงแม้ว่าผู้อ่านจากทางบล็อกจะน้อยกว่าปู้ลั่วอยู่สักหน่อย แต่ก็ไม่ได้น้อยถึงขั้นคอขาดบาดตาย

หลังจากจัดการเรื่องนี้เสร็จ

ไม่นาน ปู้ลั่วก็ประกาศออกไปว่าผลงานใหม่ของฉู่ขวงจะปล่อยออกมาในเดือนมีนาคม นี่เป็นการอุ่นเครื่องที่แพลตฟอร์มใหญ่แต่ละแห่งจะทำ ด้วยชื่อเสียงของฉู่ขวงย่อมสามารถบรรลุผลลัพธ์ของการโปรโมตได้อย่างเยี่ยมยอด

ความจริงก็เป็นเช่นนั้น

เพราะฉู่ขวงไม่ได้ปล่อยผลงานใหม่มาตั้งแต่เรื่องสร้อยคอปล่อยออกไป ดังนั้นจึงมีหลายคนอดใจรอไม่ไหว ด้านล่างคอลัมน์โปรโมตล้วนเต็มไปด้วยเสียงของผู้คนที่กำลังเฝ้ารอ

‘ในที่สุดก็จะปล่อยเรื่องใหม่แล้ว!’

‘เรื่องสั้นของฉู่ขวง ต้องสุดยอดมากแน่ๆ!’

‘ผมคิดมาตลอดว่าในชาร์ตเรื่องสั้น อันดับของฉู่ขวงออกจะต่ำเกินไปหน่อย ผลงานชิ้นใหม่ของเขาในตอนนี้อ่านแล้วรู้สึกว่าคลาสสิกสุดๆ หวังว่านิยายครั้งนี้จะทำให้อันดับของฉู่ขวงสูงขึ้นอีกหน่อยนะ’

‘โอ้ ผลงานของฉู่ขวงเหรอ อ่า เป็นเรื่องสั้นเหรอ งั้นไม่มีปัญหา’

‘ฮ่าๆๆๆ จริงไปอีก แค่พูดก็รู้เลยว่าเป็นแฟนคลับนิยายขนาดยาวของฉู่ขวง อันที่จริงเรื่องสั้นของฉู่ขวงก็ไม่เลว ควรค่าแก่การอ่าน’

‘ครั้งนี้ฉู่ขวงเตรียมตัวคว้าอันดับที่สูงขึ้นหรือเปล่า’

‘ดูจากไลน์อัปของปู้ลั่วแล้ว เดือนหน้าคงจะเป็นแผ่นดินของฉู่ขวง’

‘ใช่ๆ ตอนแรกคิดว่าไลน์อัปของเดือนหน้าจะไม่น่าคาดหวังอะไร พอเห็นฉู่ขวงแล้ว ฉันคิดว่าใช้ได้เลย’

‘ดูท่าฉู่ขวงคงได้รางวัลอันดับหนึ่งแน่เลย’