Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 333

ตอนที่ 333 เจ้าแก่ฉู่ขวงแกล้งคนอ่านอีกแล้ว

เมื่อก่อนจินมู่นับว่าเป็นคนมีหน้ามีตา ให้ความสนใจกับความรู้ด้านวัฒนธรรมมากทีเดียว

เพียงปราดเดียวเขาก็มองออกว่าตัวอักษรของหลินเยวียนนั้นไม่ธรรมดา

คนทั่วไปหากไม่ได้ผ่านการฝึกฝนมาเป็นระยะเวลาหนึ่งย่อมไม่มีทางแตะถึงระดับนี้ได้หรอก!

ดูลายเส้นอิสระได้ดังใจนี่สิ ดูฝีมือของผู้ช่ำชองจับปากกาเขียนตัวอักษร

หัวหน้าต้องเป็นปรมาจารย์ด้านการเขียนตัวอักษรไม่ผิดแน่!

เพราะต่อให้ใช้สามัญสำนึกเพียงเล็กน้อยก็จะรู้ว่า เป็นไปไม่ได้ที่การเขียนตัวอักษรของคนคนหนึ่งจะเปลี่ยนจากนักเรียนประถมเป็นผู้เชี่ยวชาญได้ภายในระยะเวลาอันสั้น…

งั้นทำไมก่อนหน้านี้ลายมือของหัวหน้าถึงได้น่าเกลียดแบบนั้นล่ะ

ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว!

ก่อนหน้านี้หลินเยวียนจงใจใช้ลายมือเด็กประถมแกล้งหยอกทุกคน!

ตนคาดการณ์ไว้ไม่ผิด หัวใจของคนที่เล่นรูปแบบผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้กับผู้อ่านน่ะไม่ได้ใสซื่อบริสุทธิ์อะไรหรอก โดยเฉพาะคนที่คิดค้นรูปแบบผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้อย่างฉู่ขวง ถ้าผ่าหัวใจออกมาดูคงเต็มไปด้วยสีดำ

เป็นการกลั่นแกล้งทั้งนั้น!

‘ก่อนหน้านี้ฉันคิดว่าหัวหน้าที่สมบูรณ์แบบเกือบทุกด้านก็มีจุดด้อยตรงที่ลายมือเหมือนเด็กประถม ที่ไหนได้ หัวหน้าจงใจแกล้งฉันนี่เอง’

ลองมาคิดดูให้ดีก็จริง

ฝีมือการวาดภาพของหัวหน้าสูงถึงขนาดนั้น แถมยังเชี่ยวชาญการประพันธ์เพลง เขียนนิยายหรือเขียนบทภาพยนตร์ก็ล้วนสันทัด ถึงขั้นมีฝีมือด้านศิลปะทุกแขนง!

คนแบบนี้จะไม่มีพื้นฐานด้านการเขียนตัวอักษรเชียวหรือ?

ต้องเข้าใจว่าศิลปินหลายคนจำเป็นต้องผ่านการฝึกฝน ลำพังของอย่างการเขียนตัวอักษร ทุกคนต่างก็ต้องเริ่มจับศิลปะแขนงนี้มาตั้งแต่สมัยเรียน

หัวหน้าไม่มีจุดอ่อนจริงด้วย

จินมู่คิดเช่นนี้ จึงก้มหน้าก้มตาเก็บหนังสือที่หลินเยวียนเซ็นเสร็จแล้วออกไป ก่อนจะส่งกลับไปยังสำนักพิมพ์

ในวันต่อมา

หนังสือเหล่านี้ถูกปะปนไปกับสินค้าล็อตใหม่ที่เพิ่งตีพิมพ์ และกระจายไปตามช่องทางต่างๆ

ในขณะเดียวกัน

คลังหนังสือซิลเวอร์บลูใช้วิธีโปรโมตว่าหนังสือที่มีลายเซ็นของฉู่ขวงจะวางแผงขายแบบสุ่ม เช่นเดียวกับเรื่องฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์

คนที่ซื้อหนังสือยังคงมีอีกมาก

ไม่นาน ก็มีผู้โชคดีได้รับหนังสือพร้อมลายเซ็นของฉู่ขวง

ผู้โชคดีคนนี้ใช้นามแฝงว่า [เจี้ยนฮุย]

ชาวเน็ตผู้โชคดีคนนี้เป็นชาวฉี หลังจากที่ได้รับเรื่องฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรสพร้อมลายเซ็นของฉู่ขวงเล่มแรก ก็โพสต์ลงบนบล็อกด้วยความตื่นเต้น

‘อ๊าาาาา!! ผมได้ลายเซ็นเจ้าแก่ฉู่ขวงแล้ว!!! จะเก็บไว้เป็นมรดกตกทอดของตระกูล!!!!’

เดิมทีก่อนหน้านี้เป็นชาวเน็ตธรรมดาคนหนึ่ง ในชั่วพริบตาเดียวก็กลายเป็นที่อิจฉาของใครหลายคน!

‘ขออิจฉาด้วยชื่อจริง ผมชื่อจางเหว่ย จะเรียกผมว่าอาเหว่ยก็ได้’

‘ฮรุก ได้ลายเซ็นของฉู่ขวงจริงๆ ด้วย ว่ากันว่าฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรสที่ตีพิมพ์ออกมาทั้งหมด มีแค่ห้าสิบเล่มเท่านั้นที่มีลายเซ็น ถ้าซื้อได้เล่มที่มีลายเซ็นก็ต้องดวงดีมากจริงๆ’

‘จริงหรือหลอก? ไม่มีหลักฐานไม่เชื่อนะ’

‘แน่ใจใช่ไหมว่าไม่หลอก ได้จริงหรือเปล่า?’

‘คุณเป็นคนแรกที่ประกาศตัวว่าได้หนังสือพร้อมลายเซ็น ไหนอวดให้ดูหน่อยสิครับ ถ้าไม่มีปัญหาอะไรผมเสนอให้ห้าพัน’

ชาวเน็ตที่คอมเมนต์เช่นนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นลูกเศรษฐี

ทันทีที่เจี้ยนฮุยเห็นคอมเมนต์ ว่ามีหลายคนคิดว่าตนโกหก จึงเพิ่มโพสต์ต่อจากนั้นเป็นภาพทั้งหมดเก้าภาพ!

เก้าภาพนี้ เป็นภาพปกใหม่ล่าสุดของเรื่องฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรสจากมุมต่างๆ รวมไปถึงหน้าที่มีลายเซ็นของฉู่ขวง

ทีนี้คงเชื่อแล้วสินะ?

ในใจของเจี้ยนฮุยกระหยิ่มยิ้มย่อง ขณะเดียวกันก็ตอบกลับชาวเน็ตที่น่าจะเป็นลูกเศรษฐี

‘ผมไม่คิดจะขายครับ ผมเป็นแฟนคลับของฉู่ขวง หลังจากนี้ก็จะเก็บไว้ครับ’

สิ่งที่ทำให้เจี้ยนฮุยประหลาดใจก็คือ ลูกเศรษฐีคนนั้นตอบกลับเจี้ยนฮุยว่า

‘ผมก็ไม่คิดจะซื้อแล้วเหมือนกัน เจ้าของโพสต์น่าจะถูกร้านหลอกแล้วล่ะครับ นี่ไม่ใช่ลายเซ็นของฉู่ขวง’

เจี้ยนฮุยชะงัก

ในตอนนั้น คอมเมนต์ก็ปรากฏเพิ่มขึ้น โดยพูดเหมือนกับลูกเศรษฐีคนนั้น

‘ลายเซ็นปลอม!’

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน