Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 366

สรุปบท ตอนที่ 366 เรื่องนี้ก็มาโยงกับฉันได้ด้วย?: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอนที่ 366 เรื่องนี้ก็มาโยงกับฉันได้ด้วย? – ตอนที่ต้องอ่านของ Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอนนี้ของ Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการเงินทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 366 เรื่องนี้ก็มาโยงกับฉันได้ด้วย? จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 366 เรื่องนี้ก็มาโยงกับฉันได้ด้วย?

ห้องทำงานตัวแทน แผนกประพันธ์เพลงของสตาร์ไลท์

หลินเยวียนซึ่งถูกจินมู่ประเมินว่า ‘ครองโลก’ กำลังเล่นรถแข่งของเล่นอย่างมีความสุข

นี่ไม่ใช่รถแข่งของเล่นธรรมดา

นี่คือรถของเล่นที่เปลี่ยนรูปร่างได้เหมือนรูบิก สามารถแปลงร่างเป็นหุ่นยนต์ได้เมื่อบิดเพียงเล็กน้อย ถ้าเห็นข้อความนี้จากที่อื่นโปรดกลับมาเยี่ยมเราบ้างนะ ไอรีนโนเวล ขอบคุนจ้า

จะเห็นว่าหลินเยวียนบิดข้อต่อของรถแข่งของเล่นไปมาอย่างคล่องแคล่ว ไม่นานหุ่นยนต์ตัวเล็กทรงพลังก็ถือกำเนิดขึ้น

หมวกของหุ่นยนต์มีดวงไฟกะพริบ ดูเท่สุดๆ ไปเลย

ส่วนรถแข่งของเล่นคันนี้มาจากไหนน่ะหรือ?

แน่นอนว่าซุนเย่าหั่วเป็นคนให้มา

ครั้งก่อนซุนเย่าหั่วได้ยินหลินเยวียนพูดว่า ‘ทรานส์ฟอร์เมอร์ส’ หลังจากกลับไปจึงลองขบคิด ค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้อะไร ทำได้เพียงถามซักไซ้หลินเยวียนว่าสรุปแล้วสิ่งที่เรียกว่าทรานส์ฟอร์เมอร์สคืออะไรกันแน่

หลินเยวียนอธิบายไปเล็กน้อย จากนั้นซุนเย่าหั่วจึงไหว้วานให้คนซื้อของเล่นชิ้นนี้มาจากหานโจว

เช้าวันนี้ เขาตั้งใจรุดมาบริษัท เพื่อนำของขวัญมาให้

ไม่ต้องบอกก็รู้ ว่าของขวัญชิ้นนี้ คือทรานส์ฟอร์เมอร์สของจริง

ถึงแม้จะไม่ใช่บัมเบิลบี แต่ของเล่นชิ้นนี้มีแนวคิดในการออกแบบเช่นเดียวกับทรานส์ฟอร์เมอร์ส

“ฟิ้ว!”

หลินเยวียนวางของเล่นลงบนโต๊ะทำงาน จ้องมองหุ่นยนต์ พลางส่งเสียงประกอบ

ซุนเย่าหั่วเห็นหลินเยวียนเล่นอย่างสนุกสนาน ตนก็พลันรู้สึกตื่นเต้น ถูฝ่ามือเอ่ยว่า “วันนี้รุ่นน้องไปกินข้าวที่ร้านของฉันสักมื้อไหม ช่วงนี้ฉันเปิดร้านอาหารใหม่ ทำอาหารเยี่ยนโจวโดยเฉพาะ”

หลินเยวียนละสายตาจากหุ่นยนต์อย่างอาลัยอาวรณ์ ก่อนจะหันไปหาซุนเย่าหั่ว “เยี่ยนโจว?”

“อื้ม”

ซุนเย่าหั่วยิ้มเอ่ย “ก็เยี่ยนโจวกำลังจะผนวกรวมไม่ใช่เหรอ พอถึงตอนนั้นจะมีชาวเยี่ยนอีกเยอะแยะเข้ามาทำงาน ฉันเปิดร้านอาหารรสชาติของเยี่ยนโจว ตลาดน่าจะดีไม่ใช่เล่นเลย”

หลินเยวียนรู้สึกสนใจขึ้นมา ขบคิดอยู่ชั่วขณะ “วันหลังแล้วกันครับ ตอนเย็นต้องกลับบ้านเร็วหน่อย พรุ่งนี้จะไปกองถ่าย”

ซุนเย่าหั่วรีบบอก “ไม่เป็นไร อยากกินอะไรก็บอกฉันได้ทุกเมื่อ ร้านอาหารของฉันมีทุกอย่าง”

“รุ่นพี่เปิดร้านอาหารเยอะจังเลยนะครับ” หลินเยวียนพูดด้วยความประหลาดใจ

ซุนเย่าหั่วโบกมือ “ไม่เยอะหรอก ก็แค่ร้านหม้อไฟสามร้าน แล้วก็ร้านอาหารต่างสไตล์อีกหกร้านแค่นั้นเอง ครั้งก่อนฉันได้ยินมาจากเซวียเหลียงว่ารุ่นน้องชอบสเต็ก เลยคิดว่าปีหน้าจะเปิดร้านที่ทำสเต็กโดยเฉพาะ พอถึงตอนนั้นรุ่นน้องมากินได้”

“ได้!”

หลินเยวียนพยักหน้าอย่างมีความสุข

ขณะนั้น โทรศัพท์มือถือของซุนเย่าหั่วก็ดังขึ้น เขาเอ่ยคำขอโทษ ก่อนจะเดินไปรับสายที่มุมห้อง

ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายพูดอะไร จู่ๆ ซุนเย่าหั่วก็ตื่นเต้นขึ้นมา “จริงเหรอครับ? ให้ผมเป็นพรีเซนเตอร์?! สุดยอดไปเลย! ฮ่าๆๆๆๆๆ! ขอบคุณที่ดึงตัวผมมาเป็นพรีเซ็นเตอร์นะครับ เดี๋ยวตอนเย็นจะพาคุณไปกินของอร่อยที่ร้านผม…อะไรนะครับ ลดห้าสิบเปอร์เซ็นต์ไม่พอ? คุณคิดว่าคุณเป็นพ่อผมหรือไง? วางล่ะ”

พูดจบ ซุนเย่าหั่วก็วางสาย จากนั้นก็ตบหน้าขาอย่างมีความสุข พลางส่งเสียงร้องคิกคัก

“รุ่นพี่”

หลินเยวียนเอ่ยอย่างจนใจ “ทำตัวให้มีวุฒิภาวะเหมือนผมหน่อยได้ไหม”

ระหว่างที่พูด

ของเล่นซึ่งถูกหลินเยวียนบิดเป็นรูปรถแข่งอีกครั้ง ล้อหมุนไปบนโต๊ะ พุ่งไปกระแทกกองเอกสารจนหยุดลง

“…”

ซุนเย่าหั่วมองไปยังรถแข่งของเล่น ก่อนจะมองไปทางหลินเยวียน สุดท้ายก็ทำได้เพียงพยักหน้าอย่างเงียบงัน

“งานอะไรเหรอครับ”

หลินเยวียนยังคงเล่นกับรถแข่งต่อไป

ซุนเย่าหั่วตอบอย่างร่าเริง “พรีเซนเตอร์ มีแบรนด์ชั้นนำอยากให้ฉันเป็นพรีเซนเตอร์ นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่มีแบรนด์ชั้นนำติดต่อให้ฉันเป็นพรีเซนเตอร์!”

“ยินดีด้วยครับรุ่นพี่”

หลินเยวียนยกรถแข่งขึ้นมา เอ่ยพลางมองวงล้อที่หมุนด้วยความเร็วสูง

เห็นได้ชัด

เนื่องจากแรงผลักดันของเพลงสิบปีเวอร์ชันภาษากลางและภาษาฉี ซุนเย่าหั่วจึงโด่งดังขึ้นมา เช่นวันนี้แม้แต่งานพรีเซนเตอร์แบรนด์ดังก็ยังมาทาบทาม

แน่นอน ทุกคนเข้าใจว่าเซี่ยนอวี๋ไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้น

แต่ก็ไม่สำคัญหรอก

ใครพิเรนทร์นำมุกลูกคนรองตลอดกาลมาโยงเข้ากับเรื่องนี้ล่ะ?

หลังจากชาวเน็ตเล่นเรื่องนี้กันมากขึ้นเรื่อยๆ บนพื้นที่แสดงความคิดเห็นของเฉินจื้ออวี่ก็ปรากฏข้อความหยอกล้อจากชาวเน็ตจำนวนมากไปโดยปริยาย

แต่เมื่อเทียบกับทางเฉินจื้ออวี่แล้ว ฝั่งพื้นที่แสดงความคิดเห็นของเฟ่ยหยางนั้นมีชาวเน็ตเข้าไปรวมตัวกันมากกว่าจนแทบกลายเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ!

ถึงอย่างไรทุกคนก็รู้ว่า เฉินจื้ออวี่ได้ส่งต่อฉายานามลูกคนรองตลอดกาลต่อให้กับเฟ่ยหยางไปเรียบร้อย

ตอนนี้เป็นยุคสมัยแห่งลูกคนรองตลอดกาลของเฟ่ยหยาง!

‘เซี่ยนอวี๋: อันดับสองมีเพียงเจ้าที่นั่งได้’

‘ราชาเพลงเฟ่ยหยาง เปิดการ์ด!’

‘ข้ายินดีบินไปกับท่าน!’

‘ครั้งแล้วครั้งเล่าๆ!’

‘เฉินจื้ออวี่เป็นลูกคนรองตลอดกาลมาสามครั้ง เฟ่ยหยางเป็นมาสองครั้ง เป็นอีกสักครั้งก็ครบแล้ว!’

‘คุณสัมผัสได้ถึงความรักความเอ็นดูจากเซี่ยนอวี๋แล้วหรือยัง?’

‘…’

ในตอนนี้เฟ่ยหยางกำลังร่วมงานอีเวนต์อยู่ข้างนอก ในช่วงพัก เขาคิดจะโพสต์พูดคุยกับแฟนคลับ และเหลือบไปเห็นพื้นที่แสดงความคิดเห็นของตนโดยไม่ได้ตั้งใจ

ปรากฏว่าทันทีที่อ่านคอมเมนต์บนพื้นที่แสดงความคิดเห็น เฟ่ยหยางก็ต้องตกตะลึง

คอมเมนต์เบียดเสียดท่วมท้น แต่ละหน้าเต็มไปด้วยข้อความสัพยอกที่ต่างกันออกไป อ่านอย่างละเอียดอยู่สักพัก ก็พบว่าทั้งหน้าเว็บมีแต่คำว่า ‘ลูกคนรองตลอดกาล’

ไม่ใช่มั้ง?

เรื่องนี้ก็มาโยงกับฉันได้ด้วย?

พวกแกยังไม่จบเรื่องนี้กันอีกเหรอ!

………………………………………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน