ตอนที่ 401 ?
เฟ่ยหยางเปิดคลิกเข้าไปยังหัวข้อพิเศษเกี่ยวกับมหาสงครามเทพเซียนบนเว็บไซต์เล่นเพลงเป็นคนแรกๆ แต่เมื่อผลงานใหม่ที่ผ่านการรังสรรค์โดยฝีมือของราชาราชินีเพลงและพ่อเพลงปรากฏแก่สายตา จู่ๆ เฟ่ยหยางกลับเกิดความรู้สึกสับสนขึ้นมา
รายชื่อนั้นเต็มไปด้วยบรรดาขาใหญ่
ผลงานของพ่อเพลงสักคนหนึ่งจากมณฑลฉิน ผลงานของราชินีเพลงสักคนหนึ่งจากมณฑลฉี ผลงานของพ่อเพลงสักคนหนึ่งจากมณฑลฉู่ ทั้งหมดล้วนเป็นคู่แข่งคนสำคัญในมหาสงครามเทพเซียนของเฟ่ยหยาง
เพียงแต่ผลงานตั้งมากมาย ฉันควรฟังเพลงของใครก่อนดี?
ความรู้สึกเปล่าเปลี่ยวที่เกิดจากการที่เซี่ยนอวี๋เลือกเจียงขุยในผลงานใหม่เมื่อไม่นานมานี้ก็โจมตีจิตใจของเขาอีกครั้ง
เฟ่ยหยางถึงได้พบว่า แท้จริงแล้วในสายตาของตนแล้ว ก็ไม่เคยมีคนอื่นอยู่เลยนอกจากเซี่ยนอวี๋
ต่อให้นี่เป็นมหาสงครามเทพเซียน
ต่อให้คนอื่นจะบ้าระห่ำ
ต่อให้คนอื่นจะแข็งแกร่งกว่าเซี่ยนอวี๋
สำหรับเฟ่ยหยางแล้ว การเอาชนะเซี่ยนอวี๋นั้นดูคล้ายว่าจะสำคัญยิ่งกว่ามหาสงครามเทพเซียนเสียอีก!
“ตรงมาหาคุณจริงด้วย”
เมาส์เคลื่อนไปเล็กน้อย เฟ่ยหยางพึมพำ สายตาเบนไปยังบทเพลงแถวหน้าอย่างรวดเร็ว ท้ายที่สุดไปหยุดอยู่ที่เซี่ยนอวี๋อย่างห้ามไม่อยู่ ราวกับนี่เป็นความหมายเพียงประการเดียวในการเข้าร่วมมหาสงครามเทพเซียนของเขา
“ขอเราคงอยู่ชั่วนิรันดร์”
เฟ่ยหยางเผลออ่านชื่อเพลงออกมาโดยไม่รู้ตัว นี่เป็นชื่อเพลงของเซี่ยนอวี๋
เขาไม่ได้ลังเลอยู่นานนัก เพียงแค่ถอนหายใจและคลิกเล่นเพลงอย่างสะท้อนใจ
เนื่องจากเหตุผลที่เป็นภววิสัยบางประการ ถึงแม้ว่าครั้งนี้เซี่ยนอวี๋จะถูกลิขิตมาให้ไม่ใช่คู่แข่งของเขา ทว่าความต่างชั้นของหมัดที่ต่อยออกมานั้นรุนแรงเสียจนต่อให้เฟ่ยหยางจะรู้ว่าผลงานของอีกฝ่ายไม่ได้เป็นภัยคุกคามกับตน ก็ยังเลือกเซี่ยนอวี๋เป็นเป้าหมายแรก
‘เนื้อร้อง: เซี่ยนอวี๋’
‘ทำนอง: เซี่ยนอวี๋’
‘ขับร้อง: เจียงขุย’
ช่างประจวบเหมาะกับสภาพจิตใจของเฟ่ยหยางในตอนนี้
เมื่อช่วงต้นของเนื้อเพลงค่อยๆ เคลื่อนไป ทำนองอินโทรของเพลงขอเราคงอยู่ชั่วนิรันดร์ซึ่งบรรเลงด้วยเชลโลก็ดังขึ้น จากนั้นจึงเชื่อมด้วยท่วงทำนองเปียโนอย่างแยบยล
ท่ามกลางเสียงดนตรีอันไพเราะ นำพาความโศกเศร้าอันแผ่วเบา และความเปล่าเปลี่ยวอันพร่าเลือน
“หืม?”
เฟ่ยหยางขยับหูฟังให้อยู่ในตำแหน่งที่สบายมากขึ้น พลางพึมพำด้วยความเศร้าใจ
“ครั้งนี้มาแนวบัลลาดเหรอ? ยอมแพ้ที่จะไต่ชาร์ตจนได้สินะ เพลงตะวันฉายเมื่อปีที่แล้วนี่สิถึงจะเหมาะกับการไต่ชาร์ต ทำนองทรงพลัง น้ำเสียงขับร้องที่มีชีวิตชีวา แค่ท่อนอินโทรก็ฟังออกแล้วว่าเป็นทำทองที่ติดหูผู้คน ทำให้อดไม่ได้รู้สึกอยากลุกขึ้นมาขยับแข้งขยับขาเต้นตาม ได้แชมป์ก็สมศักดิ์ศรีแล้ว เทียบกับเพลงบัลลาด จะมาแข่งกับฉัน…”
ทันใดนั้นเอง!
เสียงของเฟ่ยหยางก็หยุดลงกะทันหัน
มือของเขาซึ่งกำลังขยับหูฟังก็นิ่งค้างในทันใด
นั่นทำให้ท่าทางของเขาในตอนนี้ไม่เป็นธรรมชาติเอาเสียเลย
ในหูฟังฟองน้ำซึ่งถูกปรับให้สวมสบายสุดขีด เสียงผู้หญิงซึ่งส่งผ่านผ่านมาไพเราะนุ่มนวลราวปุยเมฆ อ้อยอิ่งราวกับกำลังร่ำสุราพลางชมจันทร์ ชวนให้อารมณ์ถลำลึกลงไปอย่างไม่อาจอธิบายได้
“จันทร์แจ่มเมื่อไรมี”
“ชูจอกชี้ถามฟ้าคราม”
“สุดล่วงรู้บนวิมาน”
“ยามนี้คือปีใด”
มือของเฟ่ยหยางลดลงมาในทันที
เสียงสูงดังกังวานคมปลาบดังขึ้น
ความเหงาและความโศกเศร้าซึ่งยังคงวนเวียนอยู่ในใจของเขาพังทลายลงทันที
ประหนึ่งอัสนีบาตบนเส้นขอบฟ้าผ่าแยกหมู่เมฆดำทะมึน ประหนึ่งลำแสงเจิดจรัสส่องทะลุใจกลางสวรรค์!
เคร้ง!
เฟ่ยหยางรู้สึกสั่นสะท้านขึ้นมาทันใด!
เขาสัมผัสได้ว่าทุกสิ่งโดยรอบเปลี่ยนไป
สายของคอมพิวเตอร์และหูฟังบิดม้วนเล็กน้อย ตนคล้ายกับกำลังยืนอยู่ท่ามกลางความว่างเปล่าอันมืดมิด พระจันทร์โดดเดี่ยวลอยเด่นบนฟากฟ้าเหนือศีรษะไปนับพันลี้ และวิมานสวรรค์ก็ปรากฏขึ้นในมุมหนึ่งท่ามกลางม่านหมอก คลอเคล้าด้วยเสียงเซียนบนสวรรค์ซึ่งดังแว่วมา
เบาหวิวละเอียดอ่อน ปราศจากกลิ่นอายของโลกโลกีย์
เฟ่ยหยางลืมทุกสิ่งแล้วสิ้น เขารู้สึกว่าตนเองตัวเล็กกระจิริดไร้เรี่ยวแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ในจักรวาลอันกว้างใหญ่ เขาเป็นเพียงฝุ่นผงเล็กจิ๋วซึ่งปลิวตามกระแสลมไป
เสียงเปียโนยังคงบรรเลงต่อไป
ท่วงทำนองของเชลโลยังดังขึ้นเช่นกัน
กาแฟถูกวางทิ้งไว้ข้างโต๊ะจนเย็นเฉียบ เขาไม่ได้แตะเลย
ในการเรียบเรียงเพลงซึ่งไม่ได้หรูหรา มีเพียงการพลิกของเสียงท้ายในเพลงที่ยังคงย้ำเตือนเฟ่ยหยางว่า
ตนกำลังฟังเพลงใหม่ของเซี่ยนอวี๋ ไม่ได้บรรลุมรรคผลแต่อย่างใด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน