ตอนที่ 428 ราชานิทานสั้น
‘การประชันวรรณกรรมได้ปิดฉากลงแล้ว ฉู่ขวงเอาชนะหนึ่งต่อเก้า!’
‘แดนนิทานหนังสือเล่มใหม่ของฉู่ขวงชนะนักเขียนชื่อดังเก้าครั้งรวด!’
‘หนังสือเล่มใหม่ของฉู่ขวงปล่อยมา แดนนิทานได้รับเสียงตอบรับจากผู้อ่านอย่างกว้างขวาง’
‘หนังสือรวมนิทานเล่มที่ดีที่สุดได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว’
‘ห้ามพลาดนิทานสุดคลาสสิกชิ้นนี้ แดนนิทาน!’
‘นี่คือความฝันที่ฉู่ขวงเรียงร้อยขึ้นเพื่อเด็กๆ นับเป็นวัยเด็กที่ดีที่สุด’
‘…’
เดือนกุมภาพันธ์แล้ว
สื่อทุกสำนักรายงานข่าวเกี่ยวกับแดนนิทาน
รวมไปถึงผลของการประชันวรรณกรรมของฉู่ขวงและนักเขียนทั้งเก้าคนเองก็กลายเป็นที่รับรู้โดยทั่วกันผ่านสื่อนี่เอง
สองวันผ่านไป
สมาคมวรรณศิลป์ก็ประกาศสองข่าวสำคัญด้วยเช่นกัน
ข่าวแรก:
‘หนังสือรวมนิทานบลูสตาร์ซึ่งผ่านการคัดเลือกโดยคณะผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาการยืนยันว่าได้รวบรวมนิทานสั้นซึ่งเป็นตัวแทนของนักเขียนสามสิบท่าน ซึ่งรวมไปถึงปรมาจารย์อูกุย อาจารย์ฉีฉี อาจารย์หลานเมิ่ง เป็นต้น และหนังสือฉบับทางการจะวางจำหน่ายในเดือนมีนาคม’
ข่าวที่สอง:
‘สมาคมวรรณศิลป์จะไม่พิจารณารวมผลงานของฉู่ขวงไว้ในหนังสือรวมนิยายบลูสตาร์ แดนนิทานผลงานรวมนิทานของฉู่ขวงจะเป็นหนังสือเล่มแยกซึ่งได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการจากสมาคมวรรณศิลป์ให้เป็นหนังสือนอกเวลา และจะได้รับการผลักดันสู่ภายนอกในรูปแบบวรรณกรรมซึ่งเด็กควรอ่าน’
ทั้งสองข่าวนี้ไม่ได้เหนือความคาดหมาย
ไม่กี่วันก่อนอาจารย์หยวนหยวนเคยเปิดเผยมาก่อนแล้ว
สมาคมวรรณศิลป์ตัดสินใจส่งเสริมหนังสือแดนนิทานและหนังสือรวมเล่มนิทานโดยทางการไปพร้อมกัน
เรื่องนี้ไม่เพียงช่วยส่งเสริมผลงานของฉู่ขวงเท่านั้น ขณะเดียวกันก็ยังไม่ได้ส่งผลต่อกระทบต่อการรวบรวมผลงานของนักเขียนคนอื่นๆ นับว่าเป็นวิธีที่ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย
เพียงแต่หนังสือนอกเวลาที่เด็กๆ ต้องอ่านอาจมากขึ้นอีกสักหน่อย
แต่เมื่อข่าวได้รับการยืนยัน ต่อให้ผู้คนจากหลากหลายแขนงจะคาดการณ์ไว้แล้ว ก็ยังอดสะท้อนใจไม่ได้
ก่อนที่พายุลูกใหญ่นี้จะพัดถล่มวงการนิทาน นักเขียนทั้งหลายล้วนพยายามอย่างเต็มที่เพื่อคว้าโควตาในหนังสือรวมนิทานบลูสตาร์ ผลปรากฏว่าสุดท้ายแล้วหนังสือรวมนิทานของฉู่ขวง ถึงกับได้รับคัดเลือกให้เป็นหนังสือรวมเล่มนิทานบลูสตาร์อีกเล่มหนึ่ง!
นั่นเท่ากับว่าในอนาคต ความสำคัญของทั้ง ‘แดนนิทาน’ และ ‘รวมนิทานบลูสตาร์’ จะเทียบเท่ากัน
ความแตกต่างอยู่ที่ผลงานในรวมนิทานบลูสตาร์คัดเลือกจากนักเขียนหลายๆ คน
แต่แดนนิทานกลับเป็นนิทานสั้นซึ่งฉู่ขวงเขียนเองทั้งหมด
ลองคิดดู
ถ้าหากทางการไม่ตัดสินใจ รวมนิทานบลูสตาร์ไม่ต้องเตรียมโควตาให้กับฉู่ขวงสิบตำแหน่งเลยหรือ?
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น…
กลับเกินจริงเสียยิ่งกว่าผลงานทั้งหมดของฉู่ขวงเข้าไปอยู่ในหนังสือรวมนิทานบลูสตาร์เสียอีก ฉู่ขวงเท่ากับทำให้สมาคมวรรณศิลป์เปลี่ยนกฎเกณฑ์แล้ว!
ว่ากันว่านี่เป็นโอกาสของบรรดานักเขียนนิทานในการสร้างอิทธิพลต่อยุคสมัย
ทว่าคนอื่นๆ พยายามสุดความสามารถก็ยังคว้าโอกาสนี้ไม่ได้ แม้แต่โอกาสเข้าเป็นหนึ่งในสามสิบของนักเขียนนิทานชื่อดัง ท้ายที่สุดแล้วถูกฉู่ขวงครองไปสิบตำแหน่ง!
บนโลก
กวีเปี่ยมพรสวรรค์ในสมัยโบราณอย่างเซี่ยหลิงอวิ๋น[1]เคยกล่าวไว้อย่างอาจหาญ ‘นำกวีทั้งใต้หล้าใส่ในหินหนึ่งก้อน เฉาจื่อเจี้ยนเพียงลำพังชนะแปดครั้ง ข้าชนะหนึ่งครั้ง กวีอื่นในใต้หล้ารวมกันชนะหนึ่งครั้ง[2]’
เห็นได้ชัดว่าเซี่ยหลิงอวิ๋นกำลังโอ้อวด หลังจากนั้นเขาจึงถูกเล่นงานจนน่วมเพราะความเย่อหยิ่งของตนเอง
แต่ฉู่ขวงในตอนนี้พอจะสัมผัสความรู้สึกได้บ้างแล้ว
กอปรกับนิทานสั้นซึ่งเป็นหนังสือนอกเวลาที่สมาคมวรรณศิลป์โปรโมตมีทั้งหมดสี่สิบเรื่อง เขาคนเดียวก็ครองไปแล้วสิบเรื่อง
นี่คือความจริงที่น่าเศร้า!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน