Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 513

ตก​เย็น​

หลิน​เยวียน​กลับ​ถึงบ้าน​

เขา​ได้​เสียง​ของ​พี่สาว​ดัง​มาแต่ไกล​ “หลาน​ห​ลิง​อ๋อง​ของ​เรา​เก่ง​สุด​ๆ เสียงแหบ​ยัง​ร้อง​ได้ขนาด​นั้น​…”

หลิน​เหยา​ “พี่​คะ​ หนู​ดู​รายการ​แล้ว​”

หลิน​เซวียน​ “แกล้ง​ๆ ทำเป็น​ยัง​ไม่ได้​ดู​ ได้​โปรด​ฟังฉัน​ แต่​ทอด​มอง​เขา​สูงสุด​ตา​…อ่า​ไม่ได้​ เพี้ยน​แล้ว​”

“โฮ่งๆ !”

หนาน​จี๋เห่า​มาทาง​หลิน​เยวียน​

หลิน​เซวียน​หันไป​มอง​ “น้องชาย​กลับมา​แล้ว​ อยาก​ฟังพี่​ร้องเพลง​ไหม​…”

หลิน​เยวียน​เดิน​ขึ้นไป​ข้างบน​

หนาน​จี๋แกว่ง​หาง​

หลิน​เซวียน​เบ้​ปาก​ พูดเจื้อยแจ้ว​ให้​น้องสาว​ฟังต่อไป​

ชั้นบน​

หลิน​เยวียน​อยู่​ใน​ห้องนอน​ เขา​เปิด​ก๊อกน้ำ​และ​ทดสอบ​อุณหภูมิ​ของ​น้ำ​ ไม่มีปัญหา​ เครื่องทำน้ำอุ่น​ได้รับ​การซ่อมแซม​แล้ว​ใน​วันนี้​

“มาอาบน้ำ​”

หลิน​เยวียน​มอง​ไป​ยัง​หนาน​จี๋​

เมื่อคืน​วาน​หนาน​จี๋อาบน้ำ​ยัง​ไม่ล้าง​เจล​อาบน้ำ​ออก​ ทั้งตัว​เต็มไปด้วย​ฟอง​

แต่กลับ​ถูก​หลิน​เยวียน​เป่า​จน​แห้ง​ทั้งอย่างนั้น​

หนาน​จี๋ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ก่อน​จะนอนลง​แต่​โดยดี​

ล​เมื่อ​อาบน้ำ​เสร็จ​ หลิน​เยวียน​เป่า​แห้ง​ให้​หนาน​จี๋อีกครั้ง​ จากนั้น​จึงนอนเล่น​โทรศัพท์​บน​เตียง​

ล​สิ่งสำคัญ​คือ​เขา​ต้อง​อ่าน​ความคิดเห็น​บน​โลก​ออนไลน์​หลังจาก​การแข่งขัน​ใน​รอบ​นี้​

นี่​กลายเป็น​วิธี​การพักผ่อน​ของ​หลิน​เยวียน​ไป​แล้ว​

ไม่ทัน​ไร​

หลิน​เยวียน​ก็​บังเอิญ​ไป​เห็น​หัวข้อ​หนึ่ง​

เป็น​หัวข้อ​สนทนา​ซึ่ง [ตงสยงเจี้ยง]​ เป็น​ผู้​โพสต์​ มีชื่อว่า​

‘หลาน​ห​ลิง​อ๋อง​ไม่พูดไม่จา​แล้ว​ แต่​ไม่ใช่เพราะ​เสียงแหบ​ แต่​เพราะ​มีคน​บีบ​คอ​เขา​อยู่​’

เริ่มต้น​ด้วย​ความคิดเห็น​ของ​ตง​สยงเจี้ยง​เอง​

‘เป็นเรื่อง​น่าเศร้า​เล็กน้อย​ที่​ใน​หลาย​รอบ​ที่ผ่านมา​ หลาน​ห​ลิง​อ๋อง​พูด​น้อยลง​เรื่อยๆ​ แถมยัง​ไม่แสดงความคิดเห็น​ต่อ​การแสดง​ของ​นักร้อง​คนอื่นๆ​ เดิมที​ฉัน​คิด​เพียง​ว่า​เขา​คง​ลืม​ หรือไม่​ทีมงาน​รายการ​ก็​ไม่ใส่ฟุต​เท​จที่​เขา​พูด​ลง​ไป​ จนกระทั่ง​ได้​ฟังเพลง​ที่​เขา​ร้อง​ใน​วันนี้​ ถึงได้​รู้​ว่า​ที่จริง​แล้ว​เขา​แค่​เหนื่อย​แล้ว​’

‘ดู​เนื้อเพลง​ไม่สนใจ​สิ’

‘ภายนอก​เป็น​เพ​ลงรัก​ แต่​แท้จริง​แล้ว​สิ่งที่​ร้อง​ออกมา​คือ​คำพูด​ที่อยู่​ใน​ใจ’

‘ถูก​หรือ​ผิด​ อย่า​ได้คิด​เช่นนั้น​เสมอไป​ ใช่หรือไม่​ อย่า​บอ​กว่า​ฉัน​ไม่เสียดาย​ แตกสลาย​ก็​แตกสลาย​ สมบูรณ์แบบ​คง​เป็นไปไม่ได้​ ปลดปล่อย​ตัวเอง​ ฉัน​ถึงโบยบิน​ได้​ไกล​…’

‘ใช่แล้ว​’

‘ถ้อยคำ​ด่าทอ​มีมากเกินไป​ ทุกครั้งที่​เขา​เอ่ยปาก​พูด​ ล้วน​นำมาซึ่ง​ประเด็น​โต้เถียง​ มีบางคน​เช่น​จ้าว​อิ๋ง​เก้อ​และ​เอ๋อ​ลั่ว​อี​ (ซึ่งล่าถอย​ไป​แล้ว​) ที่​เข้าใจ​และ​ยอมรับ​คำวิจารณ์​​ และ​มีบางคน​เช่น​นักร้อง​อย่าง​หยวน​ซี(ซึ่งน่าจะเป็น​เทพี​แห่ง​การ​ล้างแค้น​) และ​แฟนคลับ​ที่​ระเบิด​โทสะ​ กลุ่ม​นั้น​พูด​ไป​สอง​ไพ​เบี้ย​ นิ่ง​เสีย​ตำลึง​ทอง​อย่าง​แท้จริง​ เพราะฉะนั้น​หลังจาก​วิพากษ์วิจารณ์​ทีม​ที่สาม​จบ​ หลาน​ห​ลิง​อ๋อง​ก็​ไม่เคย​เอ่ยถึง​นักร้อง​คนอื่น​อีก​ เพราะ​เขา​ถูก​คำ​ตำหนิติเตียน​บีบ​คอ​อยู่​ คน​ที่​กล้า​พูดความจริง​บน​โลก​นี้​ได้​หาย​ไป​อีก​หนึ่ง​คน​แล้ว​’

‘…’

การ​วิเคราะห์​นี้​ได้รับ​การ​ยอมรับ​อย่าง​กว้างขวาง​

‘เหมือนกับ​ที่​บอก​ไว้​ใน​เนื้อเพลง​ หลาน​ห​ลิง​อ๋อง​แสวง​หาความ​สมบูรณ์แบบ​ ดังนั้น​เขา​จึงชี้ถึงความ​บกพร่อง​ที่​เขา​เห็น​ แต่​น่าเสียดาย​ที่​ไม่มีใคร​ชอบ​ฟัง’

‘มีคน​หมกมุ่น​อยู่​กับ​สิ่งที่​ถูก​และ​ผิด​ ย่อม​มีคน​คิด​ว่า​เขา​จริงจัง​เกินไป​’

‘ทุกคน​ชอบ​คนจริง​ แต่​ตัวเอง​กลับ​ไม่อยาก​เป็น​แบบ​นั้น​’

‘ราชา​หน้ากาก​นักร้อง​ก็​คือ​วงการ​บันเทิง​ วงการ​บันเทิง​ไม่ชอบ​อะไร​แบบนี้​ เขา​เล่น​แบบนี้​ไม่มีเพื่อนเล่น​ด้วย​หรอก​ แต่​ฉัน​ชอบ​คน​แบบ​หลาน​ห​ลิง​อ๋อง​’

‘ก้น​นั่ง​อยู่​ตรงไหน​ สมอง​ก็​สั่งการ​ตามนั้น​’

‘พวกเรา​ไม่ได้​มีส่วน​เกี่ยวข้อง​ทาง​ผลประโยชน์​ คิด​ว่า​หลาน​ห​ลิง​อ๋อง​เก่ง​มาก​ แฟนคลับ​ของ​นักร้อง​เหล่านั้น​กลับ​ทน​ไม่ได้ที่​คนอื่น​วิจารณ์​ไอดอล​ของ​พวกเขา​แค่​ประโยค​เดียว​ ต่อให้​สิ่งที่​คน​เขา​พูด​จะมีเหตุผล​แล้ว​ยังไง​ ที่จริง​คน​ที่​โมโห​กระฟัดกระเฟียด​ส่วนมาก​คือ​แฟนคลับ​ คน​ผ่าน​ไป​ผ่าน​มาต่อให้​ไม่ชอบ​หลาน​ห​ลิง​อ๋อง​ อย่าง​น้อย​ก็​ไม่ได้​ใช้คำพูด​รุนแรง​’

‘…’

นอกจากนี้​ยังมี​อีก​หลาย​คน​ไม่เห็นด้วย​

‘ก็​แค่​เพ​ลงรัก​ เอา​อะไร​มามีความหมายแฝง​มาก​ขนาด​นั้น​ มีเหตุผล​ที่​เขา​เงียบ​ เพราะ​เขา​กลัว​ไงล่ะ​’

‘แรงกดดัน​จาก​ความเห็น​ของ​ประชาชน​มีมหาศาล​ เขา​สวมหน้ากาก​อยู่​จะไม่สนใจ​ก็ได้​ แต่​พอ​ถอด​หน้ากาก​ล่ะ​?’

‘รอบ​หน้า​ก็​ถอด​หน้ากาก​แล้ว​ เขา​ต้อง​รู้จัก​สะสมคุณ​งามความ​ให้​ตัวเอง​บ้าง​ ไม่งั้น​เมื่อไหร่​ที่​ตัวตน​เปิดเผย​ สิ่งที่​รอ​เขา​อยู่​คือ​หายนะ​แบบ​ไหน​คง​ไม่ต้อง​ให้​บอก​ล่ะ​มั้ง’

‘ตอนนี้​สาย​ไป​แล้ว​ เขา​ล่วง​เกินคน​มามาก​ ต่อให้​มานึก​กลัว​คง​ไม่ได้​ พอ​ถึงตอนนั้น​น่าจะ​โดน​ทุบ​ตาย​’

‘หลังจาก​ถอด​หน้ากาก​ ทหาร​นับ​พัน​ตั้ง​ทัพ​รอ​เขา​อยู่​’

‘…’

ความขัดแย้ง​ยัง​ไม่ยุติ​ลง​

‘หลาน​ห​ลิง​อ๋อง​ถอด​หน้ากาก​เมื่อไหร่​ผม​จัดการ​เขา​แน่​ ผม​เป็น​แฟนคลับ​ของ​เอ๋อ​ลั่ว​อี​’

‘อย่า​มาตี​เนียน​เป็น​แฟนคลับ​เอ๋อ​ลั่ว​อี​หน่อย​เลย​ กด​เข้าไป​ใน​แอ​ค​ของ​คุณ​มีแต่​หัวข้อ​เกี่ยวกับ​หยวน​ซี’

‘ไอดอล​ของ​พวกคุณ​ยัง​ไม่ทัน​พูด​อะไร​ พวกคุณ​เดือดร้อน​แทน​ซะแล้ว​’

‘เรา​เดือดร้อน​มานาน​แล้ว​ หลาน​ห​ลิง​อ๋อง​ล่ะ​เดือดร้อน​ไหม​ เขา​กลัว​จน​ปิดปากเงียบ​ไป​แล้ว​’

‘…’

การ​ถกเถียง​ไม่ยุติ​ลง​สักที​

หลิน​เยวียน​ส่ายหน้า​ วางโทรศัพท์​ลง​ จู่ๆ ก็​หมด​ความสนใจ​ที่จะ​ท่อง​โลก​ออนไลน์​ต่อ​

อย่างไรก็ตาม​ โพสต์​นี้​ย้ำ​เตือน​หลิน​เยวียน​

ระยะนี้​ตน​ไม่ได้​วิพากษ์วิจารณ์​นักร้อง​คนอื่น​จริงๆ​ เขา​ทำ​ไป​เช่นนั้น​ตาม​สัญชาตญาณ​ ​แต่กลับ​ไม่รู้​เลย​ว่า​ทำไม​ระยะนี้​ถึงทำ​เช่นนั้น​…

เพราะ​ไม่มีอะไร​จะพูด​หรือ​?

ไม่เลย​

เพียงแต่​ตน​ตระหนัก​ได้​ว่า​ ไม่จำเป็นต้อง​พูด​ให้​มากความ​ดีกว่า​

เพราะ​กลัว​ถูก​คน​ที่​เกลียด​ตามมา​ถล่ม​หลัง​ถอด​หน้ากาก​หรือ​?

ก็​ไม่ใช่

หลิน​เยวียน​ไม่เคย​กลัว​กองทัพ​ชาว​เน็ต​เหล่านั้น​เลย​

เพียงแต่​จู่ๆ หลิน​เยวียน​ก็​นึกถึง​แฟน​ๆ ซึ่งอุตส่าห์​เดินทาง​มาไกล​ เพียง​เพื่อ​ตะโกน​บอก​เขา​ว่า​ ‘สู้ๆ นะ​’ ที่​หน้า​ประตู​ศูนย์​ดนตรี​กลาง​ใน​วันนั้น​

พวกเขา​ยอม​เปิดศึก​กับ​ผู้คน​บน​โลก​ออนไลน์​เพื่อ​เขา​

จวบจน​ปัจจุบันนี้​ยัง​ไม่มีวี่แวว​ว่า​จะสงบ​ลง​เลย​

ถ้าหาก​ตน​ไม่พูด​

หลังจากนี้​ทุกคน​จะได้​ไม่ต้อง​ทะเลาะ​กัน​อีก​

ความจริง​เป็น​เช่นนั้น​แน่นอน​

เนื่องจาก​ช่วงนี้​ตน​ไม่ได้​พูด​อะไร​ที่​กลายเป็น​ประเด็น​ถกเถียง​ได้​ คอมเมนต์​กระสุน​บน​หน้าจอ​จึงปรองดอง​กัน​มากขึ้น​

ผู้คน​ทะเลาะ​กัน​บาง​ครั้งคราว​

แต่​อย่าง​น้อย​ความเคลื่อนไหว​ก็​น้อยลง​มาก​

จน​หาย​ไป​อย่าง​สิ้นเชิง​ใน​ภายหลัง​

เพราะฉะนั้น​…

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน