มหาราชาเปลี่ยนไปแล้ว…
เขาไม่ใช้เสียงสูงสารพัดรูปแบบอีกต่อไป ไม่เลื่อนโน้ตอย่างหวือหวาอีกต่อไป ไม่ใช้เทคนิคแปลกๆ นับไม่ถ้วนอีกต่อไป แค่ร้องเพลงบนเวทีนี้ด้วยเสียงร้องที่เรียบง่ายที่สุด แต่ในเพลงนี้ เขากลับร้องได้ดีกว่าครั้งใดๆ
ทุกคนล้วนปรบมือ
หลินเยวียนก็ปรบมือเช่นกัน เขาพอจะเดาออกว่าอีกฝ่ายคือใคร เชื่อว่าคณะกรรมการตัดสินและคนที่คุ้นเคยกับอีกฝ่ายล้วนฟังออกว่าอีกฝ่ายคือใคร นี่คือบทเพลงที่ดีที่สุดที่อีกฝ่ายขับร้องในรายการนี้
“อาจารย์หลานหลิงอ๋อง”
อันหงมองไปยังหลานหลิงอ๋อง
ทุกคนมองไปยังหลานหลิงอ๋อง
หลินเยวียนเดินไปยังเวที เขายังคงไม่พูดอะไรแม้แต่ประโยคเดียว เพียงแค่พยักหน้าเบาๆ กับวงดนตรี นี่คือเพลงสุดท้ายของเขาบนเวทีนี้ เขาไม่อยากทิ้งภาพจำชวนลุ้นระลึกให้กับทุกคน
เสียงเปียโนไฟฟ้าดังขึ้น
เสียงของหลินเยวียนกังวานใส
“พเนจรไป
อยู่บนเส้นทาง
เธอจะไปไหม
ผู้เย่อหยิ่งจิตใจเปราะบาง
นั่นคือตัวตนที่ฉันเคยเป็น”
เสียงของหลินเยวียนบริสุทธิ์และเรียบง่าย ละทิ้งเทคนิคทั้งปวง ร้องเพลงด้วยเสียงร้องพื้นฐาน ภาพของการแสดงในรอบตัดสินซึ่งหลายคนจินตนาการไว้ไม่ปรากฏ
ราวกับเกิดการพลิกผันครั้งใหญ่
เวทีนี้เคยอาบไปด้วยเสียงสูงและเทคนิค แต่ในรอบชิงชนะเลิศ ตัวเลือกของนักร้องทั้งสองคนกลับให้กลิ่นอายที่เหมือนกันในระดับหนึ่ง
แต่ว่า…
ไม่มีใครรู้สึกผิดหวัง
แต่กลับมีความรู้สึกโล่งใจขึ้นมา
“แววตาลุกโชนใจทุรนทุราย
ฉันไปหนใด
เงียบงันจนเหมือนหลงในหลุมพราง
เรื่องราวเธอตั้งใจฟังบ้างไหม…”
หลินเยวียนลากเสียงยาว เขามอบเพลงนี้ให้แด่ตนเอง
“ครั้งหนึ่งฉันเคยข้ามห้วงสมุทรข้ามขุนเขา
พานพบผู้คนมหาศาล
ครั้งหนึ่งฉันเคยครอบครองทุกอย่าง
แต่กลับเหมือนหมอกควันพลันเลือนราง
ครั้งหนึ่งฉันเคยสูญเสียสิ้นหวังไร้ทิศหลงผิดทาง
จนได้พบเพียงคำตอบเดียวคือความธรรมดา…”
แด่ชีวิตเดิม
แด่ชีวิตนี้
แด่ตนเองในทุกๆ วัน
มีผู้ชมบางคนหลับตาลง
เพลงนี้ไม่ตื่นตาตื่นใจเท่าเพลงเกินจริง แต่กลับให้พลังบางที่ไม่อาจพรรณาได้ หลายคนคิดว่าเพลงสุดท้ายของหลานหลิงอ๋องนั้นเหนือกว่าเพลงสุดท้าย แต่เมื่อเพลงนี้ดังขึ้น ทุกคนต่างรู้สึกว่า
ไม่ต้องแข่งแล้ว
เพลงนี้
ดีเหมือนกัน
ในความเป็นจริง คอมเมนต์กระสุนบนหน้าจอพลันท่วมท้นอีกครั้งเมื่อถึงจุดไคลแม็กซ์ ในเวลานี้ชาวเน็ตนับไม่ถ้วนไม่อาจควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไป
‘บางทีนี่อาจเป็นรอบชิงแชมป์อย่างที่ควรเป็น’
‘นี่คือเวทีประกวดร้องเพลง เพลงเกินจริงคือการตบหน้า การโต้แย้ง การปลดปล่อย แต่เพลงนี้คือการคืนนี้ ไม่ใช่คืนดีกับคู่แข่ง แต่เป็นการทำให้คู่แข่งเปิดใจฟัง’
‘ชอบเพลงนี้’
‘เพลงนี้หูเคลือบทองไปเลย’
‘ต้องใส่ลงไปในเพลย์ลิสต์’
‘ฉันนึกภาพไม่ออกเลยว่าซีซันที่สองจะเหนือกว่าซีซันที่หนึ่งได้ไหม หลานหลิงอ๋อ งแข็งแกร่งเกินไปแล้ว การแข่งขันรอบตัดสินไม่ทำให้ผิดหวัง!’
‘…’
เสียงของหลินเยวียนกลับมาสงบอีกครั้ง ความสงบคือตัวตนที่แท้จริงของบทเพลงนี้
“ยามที่เธอยังคงเพ้อฝัน
ว่าวันพรุ่งนี้
เธอจะสบายดีไหม หรือมันเลวร้าย
สำหรับฉันมันคืออีกวันหนึ่ง
ครั้งหนึ่งฉันเคยทำลายทุกอย่าง
เพียงแต่อยากจากไปไม่หวนคืน
ครั้งหนึ่งฉันเคยจมดิ่งในความมืดมน
ฝืนดิ้นรนแต่ไม่หลุดพ้น
ครั้งหนึ่งฉันเคยเหมือนเธอเหมือนเขาเหมือนดอกไม้ป่า
แม้สิ้นหวัง แต่ยังคาดหวัง
หัวเราะร้องไห้เป็นธรรมดา…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน