สตาร์ไลท์เอนเตอร์เทนเมนต์
ห้องประชุมเงียบกริบ
ทุกคนล้วนมองไปยังหน้าจอขนาดใหญ่
สีหน้าของเหล่าผู้บริหารระดับสูงเปล่งแสดงสีแดงปลั่งอย่างห้ามไม่อยู่
ต่อให้เป็นผู้ที่ไม่สะทกสะท้านต่อเรื่องทางโลกประหนึ่งนักพรต ก็ไม่อาจสงบสติอารมณ์ขณะที่เซี่ยนอวี๋ถอดหน้ากากได้
แม้แต่ประธานกรรมการอย่างหลี่ซ่งหวา สีหน้าของเขาในเวลานี้ก็ยังดูกระสับกระส่าย!
หลานหลิงอ๋อง เซี่ยนอวี๋!
นึกไม่ถึงเลย นึกไม่ถึงเลยจริงๆ !
พ่อเพลงตัวน้อยคนนี้สร้างขาวใหญ่โดยที่ไม่บอกบริษัท!
ในที่สุดเขาก็ยอมเปิดเผยหน้าตา!
ด้วยวิธีที่น่าตกใจที่สุด!
ในเวลานี้
ผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่งเอ่ยเสียงสั่น “ค่าตัวตอนนี้ของเซี่ยนอวี๋ประเมินไม่ได้แล้ว หุ้นของบริษัทพุ่งขึ้นทันทีที่เขาถอดหน้ากาก ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปจะสูงเท่ากับลิมิตอัปเลยนะครับ…”
พรึบ
ความเงียบถูกทำลาย
ผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่งกระแอม “ห้องทำงานของเซี่ยนอวี๋ เล็กไปหน่อยหรือเปล่าคะ?”
“ถูกต้อง”
“ควรให้สวัสดิการเซี่ยนอวี๋สูงกว่านี้สักหน่อย”
“ต่อไปทุกคำขอเซี่ยนอวี๋ ไม่ต้องมารายงานแล้ว ตอบรับเขาได้ทันที”
“เขาอยากทำอย่างไรให้เขาทำอย่างนั้น”
“ตราบใดที่ไม่ได้ทำให้บริษัทเสียหาย อยากทำอะไรทำได้เลย เด็กนี่เนอะ”
“เด็กอยากเล่นอะไร พวกเราควรตามใจใช่ไหมล่ะ”
“แต่ตอนนี้บริษัทอื่นคงอิจฉาเราจนตาเขียว พวกเราต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว…”
“ถ้าองค์รัชทายาทของพวกเราตกอยู่ในเงื้อมมือของคนนอก?”
“…”
องค์รัชทายาทของสตาร์ไลท์ โดยทั่วไปแล้วเป็นคำหยอกล้อของพนักงานในบริษัท แต่ไม่เคยออกจากปากของผู้บริหารระดับสูง
นี่เป็นครั้งแรก
แต่ในเวลานี้ทุกคนกลับพยักหน้าอย่างเป็นเอกฉันท์
ถูกต้อง!
เขาคือองค์รัชทายาทของบริษัท!
ลูกของพวกเรา!
ลูกของสตาร์ไลท์!
ใครกล้าแตะต้อง ก็ตัดนิ้วของมันผู้นั้นซะ!
ไม่มีใครกล้าสบประมาทความมุ่งมั่นของผูบริหารระดับสูงของสตาร์ไลท์
เพื่อเซี่ยนอวี๋ พวกเขาสามารถเปิดศึกกับทุกคนได้!
“ผมกำลังคิดว่าจะเชิญเซี่ยนอวี๋มาเข้าร่วมเป็นผู้ถือหุ้น เราจะหารือเกี่ยวกับรายละเอียดของจำนวนหุ้นในภายหลัง”
นิ้วมือของหลี่ซ่งหวาเคาะลงบนโต๊ะ คำพูดอันกะทันหันของเขาทำให้ห้องประชุมเงียบลงอีกครั้ง
“ผมเห็นด้วย ผ่านไปอีกสักพักแล้วค่อยเปิดประชุมแล้วกัน”
ในที่สุดผู้บริหารระดับสูงซึ่งมีอำนาจท่านหนึ่งพยักหน้าอย่างจริงจัง แววตาของเขาจดจ้องไปยังภาพการเฉลิมฉลองในรายการ
บนเวทีนั้น เซี่ยนอวี๋กำลังเปล่งประกาย
“ไม่มีความเห็น”
“เห็นด้วย”
“ตามนั้นก็แล้วกัน”
ผู้บริหารระดับสูงคนอื่นทยอยกันพยักหน้ากลังจากเงียบไปชั่วขณะ เซี่ยนอวี๋มีมูลค่าระดับนั้นแล้ว!
“จริงสิ…”
“ทางหยวนซี…”
มีผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยความโมโห “ไม่ใช่แค่หยวนซี”
มีคนอดไม่ไหวคิดลงมือ
ไม่รู้ว่าหลานหลิงอ๋องคือเซี่ยนอวี๋ พวกคุณสามารถด่ากล่าวหาเขาตามใจ
แต่หลังจากที่รู้ว่าหลานหลิงอ๋องคือเซี่ยนอวี๋ เมื่อขบคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น สตาร์ไลท์ก็เดือดดาลแล้ว!
“ไม่จำเป็น”
หลี่ซ่งหวาเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “ปกติพวกคุณให้ความสนใจเซี่ยนอวี๋เป็นอย่างมาก คงรู้นิสัยของเขา แฟนคลับของนักร้องพวกนั้นไม่รู้ถือว่าไม่ผิด พวกเขารู้ว่าต่อจากนี้ควรทำอะไร ส่วนหยวนซี…”
หลี่ซ่งหวาหยุดลงชั่วครู่ กล่าวด้วยซ้ำเสียงซับซ้อน “ต้องให้เราออกโรงจัดการด้วยหรือ?”
ทุกคนชะงัก ทันได้นั้นก็หลุดหัวเราะ
อิทธิพลของเซี่ยนอวี๋ก้าวขึ้นสู่ระดับที่สูงขึ้นด้วยรายการราชาหน้ากากนักร้อง ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้สตาร์ไลท์ไม่จำเป็นต้องลงโทษใครเลย
หลี่ซ่งหวาพูดถูกต้อง
ในความจริงแล้ว ด้วยนิสัยของเซี่ยนอวี๋ เขาคงไม่คิดเล็กคิดน้อยเรื่องหยวนซี หรือเขาอาจลืมเรื่องนี้ด้วยซ้ำ
นี่คือข้อสรุปที่หลี่ซ่งหวาได้มาหลังจากลอบศึกษานิสัยของเซี่ยนอวี๋นับครั้งไม่ถ้วน
ที่จริงแล้วเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเซี่ยนอวี๋อีกต่อไป
บางคนในวงการริเริ่มเรื่องต่างๆ ด้วยความคิดของตนเอง
นี่คือวงการบันเทิง
หยวนซีทำผิดพลาดครั้งใหญ่ขนาดไหน?
ไม่มีอะไรมากไปกว่าการเห็นพ้องต้องกัน หรือแม้แต่การยุแยงแฟนคลับ ขณะเดียวกันก็พยายามแอบใช้เล่ห์เหลี่ยมบางอย่าง หมายเหยียบหลานหลิงอ๋องเพื่อก้าวขึ้นสู่บัลลังก์ก็เท่านั้น
นี่คือพฤติกรรม ‘ปักมีด’ ของวงการบันเทิง
คนดังมากมายล้วนเคยทำเรื่องคล้ายๆ กันนี้ แค่ปักมีดแล้วอย่างไร?
วงการนี้มีแม้แต่คนที่แบล็กเมลจนกว่าหน้าที่การงานของอีกฝ่ายจะพังทลาย ถูกถล่มจนยับเยิน และไม่อาจยืนหยัดในฐานะมนุษย์ได้อีกต่อไป
สตาร์ไลท์ไม่ลงมือ ก็เพื่อปกป้องเซี่ยนอวี๋ ไม่ต้องการให้เซี่ยนอวี๋มีภาพลักษณ์ว่าวางอำนาจบาตรใหญ่ในวงการ
แต่สตาร์ไลท์ก็ไม่ใช่ผู้เฒ่าแสนดีเปี่ยมเมตตา
เงื่อนไขของเรื่องนี้คือ จะมีคนที่จะออกโรงจัดการแทนเซี่ยนอวี๋และสตาร์ไลท์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน