มหาราชา…
นักรบ…
เอล์ฟ…
หุ่นยนต์…
แก๊งปลา และคนอื่นๆ …
นักร้องหลายคนในรายการราชาหน้ากากนักร้องทิ้งภาพจำให้กับหลินเยวียนอย่างลึกซึ้น หลินเยวียนรู้สึกเสียดายนักร้องส่วนหนึ่งในนั้น รวมไปถึงผู้เข้าแข่งขันซึ่งตกรอบไปก่อนเพราะไม่คุ้นเคยกับการแข่งขันสด ถ้าหากได้ทำงานร่วมกันจะต้องดีมากอย่างแน่นอน
วันรุ่งขึ้น
จู่ๆ หลินเยวียนก็ได้รับโทรศัพท์จากหยางจงหมิง เพื่อเรียกให้เขาไปยังห้องประชุม หยางจงหมิงและหลินเยวียนแลกเปลี่ยนช่องทางการติดต่อตั้งแต่ได้พบกันครั้งแรก แต่นี่เป็นครั้งแรกที่หยางจงหมิงโทรศัพท์หาหลินเยวียน
ห้านาทีผ่านไป
หลินเยวียนขึ้นไปชั้นบน
ในห้องประชุม มีหยางจงหมิงและเจิ้งจิง
หลังจากทั้งสามทักทายกันเรียบร้อย เจิ้งจิงจึงเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม “ตัวแทนแผนกประพันธ์เพลงบริษัทเรามารวมตัวกันทั้งที น่าเสียดายที่อีกสองคนเปลี่ยนงานไปแล้ว”
ปีที่แล้วสตาร์ไลท์มีนักประพันธ์เพลงห้าคน?!
นี่คือความมั่นใจสูงสุดของสตาร์ไลท์ซึ่งเป็นบริษัทดนตรีอันดับหนึ่งในฉินฉีฉู่เขียนมีทุกวันนี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อต้นปีนี้ พ่อเพลงสองคนก็ย้ายไปอยู่บริษัทอื่นอย่างกะทันหัน เพราะฉะนั้นเสียงของสตาร์ไลท์ในอุตสาหกรรมดนตรีจึงเบาลง ทว่าระยะนี้หลินเยวียนถอดหน้ากากหลานหลิงอ๋องบนเวที พลอยช่วยเสริมพลังให้สตาร์ไลท์ในฐานะแนวหน้าในอุตสาหกรรมดนตรี ถึงอย่างไรนอกจากรางวัลในฐานะพ่อเพลง หลินเยวียนล้วนมีพร้อมในทุกด้าน ดังนั้นตราบใดที่หลินเยวียนและหยางจงหมิงยังอยู่ที่สตาร์ไลท์ บวกกับพ่อเพลงอย่างเจิ้งจิง บริษัทก็จะยังคงมีสถานะมั่นคงในอุตสาหกรรมดนตรีต่อไป
พ่อเพลงทั้งสาม
คือผู้เล่นที่แข็งแกร่งมาก
หลินเยวียนได้ฟังเรื่องนี้มาแล้ว
จากคำพูดของกู้ตง ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงเพราะเรื่องนี้ แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับหลินเยวียน เขาจึงไม่จำเป็นต้องนำมาใส่ใจ
“เข้าเรื่องเลยแล้วกัน”
เจิ้งจิงกล่าว “เสี่ยวอวี๋คงจะรู้เหตุผลที่พวกเราเรียกคุณมาแล้วใช่ไหม ถงซูเหวินอยากทำรายการใหม่ เชิญพวกเราไปเข้าร่วม แน่นอนว่าพ่อเพลงที่ตอบรับไม่ได้มีแค่พวกเรา ยังมีอิ่นตงกับเยี่ยจือชิวอีก นอกจากนี้ยังมีอู่หลงที่ไม่ได้ตำแหน่งพ่อเพลง แต่นักประพันธ์เพลงฝีมือดีก็น่าจะปรากฏตัวในรายการด้วย”
หลินเยวียนพยักหน้า
สำหรับชื่อเรียก ‘เสี่ยวอวี๋’ ที่เจิ้งจิงตั้งขึ้นมานั้น เขาไม่ได้รู้สึกตะขิดตะขวงใจแต่อย่างใด
“พูดความคิดเห็นของคุณมาเถอะ”
เจิ้งจิงบอก “ฉันคิดว่าพวกเราสวมคนควรเข้าร่วมรายการนี้ เหตุผลแรกเพราะบริษัทหวังว่าพวกเราจะสามารถสร้างเสถียรภาพให้กับบริษัท ทางที่ดีที่สุดคือเจออีกสองคนที่ออกไปเพื่อสร้างความเกรียงไกรให้บริษัท เหตุผลที่สองคือฉันมีเพลงที่สะสมไว้จำนวนหนึ่ง สามารถปล่อยในรายการได้ ถึงยังไงราชาราชินีเพลงในรายการนี้ก็มีไม่น้อย มีเสียงของบางคนที่ฉันถูกใจมาก แน่นอนว่าที่สำคัญที่สุดคือฉันคิดว่ารายการนี้น่าสนุกมาก”
“คุณล่ะ?”
หยางจงหมิงมองไปยังหลินเยวียน
หลินเยวียนตอบ “ผมไปได้ครับ”
หยางจงหมิงคลี่ยิ้ม “งั้นผมเองก็ไปเล่นด้วยแล้วกัน ที่จริงก่อนหน้านี้เห็นคุณปล่อยเพลงในการแข่งขันตลอด ผมเองก็ชักจะคันไม้คันมือ”
“หมายความว่ายังไงฮะ!”
เจิ้งจิงถลึงตาใส่หยางจงหมิง “ฉันบอกให้คุณไป คุณบอกว่าเดี๋ยวคิดดูก่อน พอเสี่ยวอวี๋บอกว่าจะไป คุณก็จะตามไปเข้าร่วมรายการขึ้นมาทันที คุณสองคนต้องมาพร้อมกันเป็นคู่ชิปว่างั้น?”
หลินเยวียน “…”
หยางจงหมิง “…”
เจิ้งจิงเบ้ปาก “ฉันบอกก่อนเลย ว่าไม่อยากเอาจริงกับพวกคุณ มีเพลงส่วนหนึ่งฉันเขียนเสร็จแล้ว รวมไปถึงผลงานเมื่อหลายปีก่อน พวกคุณระวังตัวไว้เถอะ”
หยางจงหมิงกล่าว “คุณกำลังบอกเป็นนัยให้ผมอ่อนข้อให้”
เจิ้งจิงกลอกตา “ต่อให้คุณไม่อ่อนข้อให้ คุณมีเพลงที่ดีขนาดนั้นเชียวหรือ?”
หยางจงหมิงนิ่งเงียบ เขายอมรับว่าคำพูดนี้ของเจิ้งจิงมีเหตุผล
รายการนี้ไม่รู้ว่าจะผลิตทั้งหมดกี่ตอน ไม่รู้ว่าจะนำเพลงออกมาใช้ได้มากเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถรับรองได้ว่าทุกเพลงของเขาจะสมบูรณ์แบบ
ใครจะสามารถหยิบเพลงออกมาได้รวดเดียวมากมายปานนั้น?
นี่คือสิ่งที่สอดคล้องกับความคิดของหลินเยวียน
ขณะเขาเข้าร่วมการแข่งขัน เขาจำเป็นต้องพยายามงัดบทเพลงที่ระเบิดเวทีออกมา จึงจะมากพอให้รับประกันว่าตนจะไม่ตกรอบ อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงมีบางเพลงที่แม้ว่าจะมีข้อบกพร่อง แต่ไม่ว่าอย่างไรก็มีจุดเด่น
คงจะน่าเสียดายถ้าไม่เผยแพร่
เป็นการดีที่จะเผยแพร่ในรายการนี้
……
ขณะที่ทั้งสามคนสนทนากันอยู่นั้น ด้านนอกก็มีเสียงเอะอะโวยวายดังมา
“พวกเราจะใช้ห้องประชุม!”
“ผมดูแล้วไม่เห็นมีแผนกไหนในบริษัทแจ้งใช้ห้องประชุม”
“แผนกไหนมันวางอำนาจบาตรใหญ่ เข้ามาใช้ห้องประชุมโดยที่ไม่แจ้งสักคำ”
“มีคนรอใช้ห้องประชุมอยู่ตั้งมาก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน