อ่านสรุป ตอนที่ 610 ที่แท้ก็เตรียมตัวมาดี จาก Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน โดย Internet
บทที่ ตอนที่ 610 ที่แท้ก็เตรียมตัวมาดี คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายการเงิน Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
อย่างไรก็ตาม…
ขณะที่กำลังตกตะลึง ความกังวลของผู้คนกลับไม่ได้หายไปเพียงเพราะเรื่องนี้
ฉู่ขวงโปรโมตหนังสือล่วงหน้า หรือว่าเขาต้องการยืมกระแสจากแดนนิทาน เพื่อเพิ่มน้ำหนังให้กับนิทานเรื่องใหม่ของเขา?
ได้ผลอยู่หรอก
แต่มันไม่เพียงพอนี่สิ อิทธิพลจากภาคแรกของตำนานแห่งท้องทะเลของเดวิดนั้นไม่ใช่สิ่งที่เพลงเพลงเดียวจะเทียบเทียมได้…
สักพักหนึ่ง การถกเถียงยังคงดำเนินต่อไป
หลินเยวียนกลับไม่ได้สนใจความเคลื่อนไหวบนอินเทอร์เน็ตอีก
ช่วงเวลาหลังจากนี้ เขาจะเขียนอลิซในแดนมหัศจรรย์ด้วยความสบายใจ
ระหว่างกระบวนการนี้
จินมู่นำข่าวหนึ่งมาแจ้งกับฉู่ขวง และเป็นข่าวซึ่งเกี่ยวข้องกับฉู่ขวง
“ยอดนักสืบปัวโรต์เวอร์ชันซีรีส์ปิดกล้องแล้วครับ ตอนนี้กำลังทำโพสต์โพรดักชัน คาดว่าทำเสร็จแล้วจะออนแอร์เลย”
นิยายภายใต้นามปากกาฉู่ขวง โดยทั่วไปล้วนขายลิขสิทธิ์ผลงานไปแล้ว ทว่าหลินเยวียนไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมใ นการถ่ายทำมากนักหลังจากขายลิขสิทธิ์ไปแล้ว…
พลังงานของเขามีจำกัด ไม่สามารถดูแลได้ทั้งหมด
โดยปกติแล้วมีเพียงช่วงที่ภาพยนตร์และซีรีส์กำลังจะเข้าฉายเท่านั้น จินมู่จึงจะแจ้งกับหลินเยวียน
“ผมจะกลับไปดู”
หลินเยวียนเอ่ยตอบ ไม่ได้ซักถามมากนัก
การถ่ายทำซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขา
ถึงกระนั้น แม้ว่าจะไม่ได้แทรกแซงการถ่ายทำ แต่หลินเยวียนก็คาดหวังว่าภาพยนตร์และซีรีส์ซึ่งดัดแปลงจากนิยายของตนจะทำออกมาได้ดี
ถ้าหากฝั่งผู้ผลิตทำให้ซีรีส์เสียหาย หลังจากนี้หลินเยวียนก็จะไม่ร่วมงานกับบริษัทประเภทนี้อีก
เพราะนั่นเป็นการทำให้ผลงานคลาสสิกจากโลกเสียหาย
บริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์ในวงการต่างรู้กฎข้อนี้ของฉู่ขวง ดังนั้นพวกเขาจึงให้ความสำคัญกับลิขสิทธิ์ผลงานเวอร์ชันภาพยนตร์และซีรีส์ของฉู่ขวง อีกทั้งผลิตผลงานออกมาด้วยความจริงจังมากพอ
“ครับ”
จินมู่เอ่ยอย่างยิ้มแย้ม “จะว่าไป คู่แข่งเก่าแก่ของหัวหน้า ซีรีส์บรรพกาลเวอร์ชันใหม่ก็จะออกอากาศแล้วนะครับ เพียงแต่ยังไม่ได้ประกาศวันที่ที่แน่นอน น่าจะกำลังจัดการปัญหาช่วงโพสต์โพรดักชัน…”
“งั้นบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศก็ใกล้แล้ว”
หลินเยวียนติดตามการถ่ายทำบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศมาโดยตลอด
เนื่องจากถ่ายทำเพียงซีซันแรก เนื้อหาไม่นับว่ามาก ดังนั้นความเร็วในการถ่ายทำจึงค่อนข้างดี
อันที่จริง
ไม่นานหลังจากที่หลินเยวียนและจินมู่เจรจากันเสร็จ ก็มีข่าวจากกองถ่ายบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศว่าการถ่ายทำซีซันแรกนั้นเสร็จสิ้นอย่างเป็นทางการ
วันปิดกล้อง
หลินเยวียนเดินทางไปยังกองถ่ายด้วยตนเอง ทั้งยังร่วมงานเลี้ยงปิดกล้องอย่างที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก
ถึงอย่างไรก็เป็นกองถ่ายซึ่งมีนักเขียนบทเป็นแกนหลัก ต่อให้หลินเยวียนคุ้นเคยกับการเป็นสั่งงานให้ผู้อื่นทำมากขึ้นเรื่อยๆ ทว่าเขายังต้องพยายามออกงานในโอกาสสำคัญอย่างเต็มที่
ในงานเลี้ยงปิดกล้อง
หลินเยวียนกลายเป็นจุดสนใจอย่างไม่ต้องสงสัย
ผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ รวมไปถึงนักแสดงต่างผลัดกันมายกสุราอวยพรให้หลินเยวียน
หลินเยวียนไม่ดื่มสุรา จึงใช้น้ำชาตอบรับแทน
ทุกคนต่างรู้ว่าหลินเยวียนร่างกายไม่แข็งแรง ไม่รู้ว่าสุขภาพของหลินเยวียนในปัจจุบันนั้นดีกว่าคนทั่วไป เพราะฉะนั้นจึงไม่มีใครรู้สึกว่าการดื่มชาในงานเลี้ยงนั้นไม่เหมาะสม
แน่นอน
ต่อให้สุขภาพของหลินเยวียนจะดีกว่านี้ เขาก็ไม่อยากดื่มสุรา และไม่มีใครกล้าพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้มากความ
และระหว่างงานเลี้ยง หลินเยวียนลอบสังเกตนักแสดงเหล่านี้อย่างเงียบเชียบ
ภาคต่อของบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศนั้นสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมีความเชื่อมโยงไปถึงภาพยนตร์เดี่ยวของแต่ละตัวละคร นักแสดงเหล่านี้จะมีประโยชน์กับเขาในอนาคต
เพียงแต่แผนการโดยละเอียดนั้น หลินเยวียนยังคงกำลังตกผลึก ดังนั้นเขาจึงยังไม่เปิดเผยเรื่องนี้ในงานเลี้ยง
……
ในวันที่สองของงานเลี้ยงเปิดกล้อง หลินเยวียนมายังสตูดิโอเพื่อเขียนอลิซในแดนมหัศจรรย์ต่อ
ทั้งสองภาคของนิทานเรื่องนี้รวมกันแล้วไม่ถึงสองแสนตัวอักษร
จินมู่เอ่ยอย่างเคร่งขรึม “ได้อ่านตำนานแห่งท้องทะเลภาคสองแล้วผมถึงได้รู้ว่าอีกฝ่ายเตรียมตัวมาดี น่ากลัวว่าต่อให้ไม่มีแรงกระตุ้นจากชาวเยี่ยน เดวิดก็มีแผนจะประชันวรรณกรรมกับคุณอยู่แล้ว สำหรับศิลปินสายวรรณกรรมเหล่านี้จากทวีปที่เพิ่งผนวกรวม สถานะฉู่ขวงของคุณคือเป้าหมายหนึ่ง ทุกคนล้วนอยากใช้อานิสงส์จากคุณเพื่อก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น”
เพราะภาคแรกของตำนานแห่งท้องทะเลไม่มีภาพประกอบมากเช่นนี้
ทว่าตำนานแห่งท้องทะเลภาคสองกลับปรากฏภาพประกอบอันวิจิตรงดงามเป็นจำนวนมาก
เห็นได้ชัดว่า ตำนานแห่งท้องทะเลภาคสองนั้นมุ่งเป้าไปยังฉู่ขวงโดยเฉพาะ
เพราะใครที่ศึกษาเกี่ยวกับฉู่ขวงมาบ้างย่อมรู้ดีว่านิทานเรื่องที่ผ่านมาของฉู่ขวง ล้วนมีอิ่งจือรับหน้าที่วาดภาพประกอบ!
ภาพประกอบของอิ่งจือมีส่วนช่วยอย่างมากในยอดขายนิยายของฉู่ขวง
ดังนั้นเดวิดจึงนับว่าฉลาดเป็นกรด!
เขาเองก็ทุ่มเทกับภาพประกอบมากโข!
ไม่ใช่เพราะหวังว่าภาพประกอบของตนจะเหนือกว่าอิ่งจือ เป็นเรื่องยากที่จะเอาชนะฝีมือของอิ่งจือ แต่เขาทำเช่นนี้ อย่างน้อยก็สามารถลดทอนความได้เปรียบซึ่งเกิดจากภาพประกอบในผลงานของฉู่ขวงซึ่งมีอิ่งจือเป็นผู้รับผิดชอบ
“เตรียมตัวมาดีมาก”
หลินเยวียนสับสน “งั้นทำไมไม่วาดภาพประกอบให้ดีไปตั้งแต่ภาคแรกเลยล่ะ”
หลินเยวียนมีความย้ำคิดย้ำทำเล็กน้อย
มีที่ไหนกันภาคแรกใช้ภาพประกอบแบบสุกเอาเผากิน ภาคสองกลับเล่นใหญ่เล่นโต?
จินมู่เบ้ปาก “แน่นอนว่าเขาอยากให้คุณรับมือไม่ทัน เหมือนกับตอนที่เขานัดประชันวรรณกรรมกับคุณ ก็ไม่ได้บอกก่อนว่าหนังสือเรื่องใหม่ของเขาคือภาคต่อของตำนานแห่งท้องทะเล ส่วนในแง่ของความสำคัญ เดวิดให้ความสำคัญกับคุณมากกว่าที่เขาให้ความสำคัญกับไป๋เจี๋ยมาก”
“ไม่เป็นไร”
หลินเยวียนบอก “ภาพประกอบของเราเหนือกว่า อีกอย่างช่วงเย็นนิทานเรื่องนี้ก็เสร็จแล้ว อีกไม่กี่วันคุณก็เตรียมส่งตีพิมพ์ได้เลย”
“คุณมีแผนอื่นอีก?”
แววตาของจินมู่เป็นประกาย
หลินเยวียนเอ่ยเสียงเรียบ “คนที่เคยเข้าร่วมรายการบันเทิงเขารู้กันดี ว่าใครเริ่มก่อนแพ้”
จินมู่ “…”
ผมกำลังพูดถึงเรื่องหนังสือนิทานกับคุณอยู่นะ
แต่คุณกลับคุยกับผมเรื่องอภิปรัชญา?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอน 837-839 ไม่มีข้อความเลยครับ...