อย่างไรก็ตาม…
ขณะที่กำลังตกตะลึง ความกังวลของผู้คนกลับไม่ได้หายไปเพียงเพราะเรื่องนี้
ฉู่ขวงโปรโมตหนังสือล่วงหน้า หรือว่าเขาต้องการยืมกระแสจากแดนนิทาน เพื่อเพิ่มน้ำหนังให้กับนิทานเรื่องใหม่ของเขา?
ได้ผลอยู่หรอก
แต่มันไม่เพียงพอนี่สิ อิทธิพลจากภาคแรกของตำนานแห่งท้องทะเลของเดวิดนั้นไม่ใช่สิ่งที่เพลงเพลงเดียวจะเทียบเทียมได้…
สักพักหนึ่ง การถกเถียงยังคงดำเนินต่อไป
หลินเยวียนกลับไม่ได้สนใจความเคลื่อนไหวบนอินเทอร์เน็ตอีก
ช่วงเวลาหลังจากนี้ เขาจะเขียนอลิซในแดนมหัศจรรย์ด้วยความสบายใจ
ระหว่างกระบวนการนี้
จินมู่นำข่าวหนึ่งมาแจ้งกับฉู่ขวง และเป็นข่าวซึ่งเกี่ยวข้องกับฉู่ขวง
“ยอดนักสืบปัวโรต์เวอร์ชันซีรีส์ปิดกล้องแล้วครับ ตอนนี้กำลังทำโพสต์โพรดักชัน คาดว่าทำเสร็จแล้วจะออนแอร์เลย”
นิยายภายใต้นามปากกาฉู่ขวง โดยทั่วไปล้วนขายลิขสิทธิ์ผลงานไปแล้ว ทว่าหลินเยวียนไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมใ นการถ่ายทำมากนักหลังจากขายลิขสิทธิ์ไปแล้ว…
พลังงานของเขามีจำกัด ไม่สามารถดูแลได้ทั้งหมด
โดยปกติแล้วมีเพียงช่วงที่ภาพยนตร์และซีรีส์กำลังจะเข้าฉายเท่านั้น จินมู่จึงจะแจ้งกับหลินเยวียน
“ผมจะกลับไปดู”
หลินเยวียนเอ่ยตอบ ไม่ได้ซักถามมากนัก
การถ่ายทำซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขา
ถึงกระนั้น แม้ว่าจะไม่ได้แทรกแซงการถ่ายทำ แต่หลินเยวียนก็คาดหวังว่าภาพยนตร์และซีรีส์ซึ่งดัดแปลงจากนิยายของตนจะทำออกมาได้ดี
ถ้าหากฝั่งผู้ผลิตทำให้ซีรีส์เสียหาย หลังจากนี้หลินเยวียนก็จะไม่ร่วมงานกับบริษัทประเภทนี้อีก
เพราะนั่นเป็นการทำให้ผลงานคลาสสิกจากโลกเสียหาย
บริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์ในวงการต่างรู้กฎข้อนี้ของฉู่ขวง ดังนั้นพวกเขาจึงให้ความสำคัญกับลิขสิทธิ์ผลงานเวอร์ชันภาพยนตร์และซีรีส์ของฉู่ขวง อีกทั้งผลิตผลงานออกมาด้วยความจริงจังมากพอ
“ครับ”
จินมู่เอ่ยอย่างยิ้มแย้ม “จะว่าไป คู่แข่งเก่าแก่ของหัวหน้า ซีรีส์บรรพกาลเวอร์ชันใหม่ก็จะออกอากาศแล้วนะครับ เพียงแต่ยังไม่ได้ประกาศวันที่ที่แน่นอน น่าจะกำลังจัดการปัญหาช่วงโพสต์โพรดักชัน…”
“งั้นบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศก็ใกล้แล้ว”
หลินเยวียนติดตามการถ่ายทำบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศมาโดยตลอด
เนื่องจากถ่ายทำเพียงซีซันแรก เนื้อหาไม่นับว่ามาก ดังนั้นความเร็วในการถ่ายทำจึงค่อนข้างดี
อันที่จริง
ไม่นานหลังจากที่หลินเยวียนและจินมู่เจรจากันเสร็จ ก็มีข่าวจากกองถ่ายบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศว่าการถ่ายทำซีซันแรกนั้นเสร็จสิ้นอย่างเป็นทางการ
วันปิดกล้อง
หลินเยวียนเดินทางไปยังกองถ่ายด้วยตนเอง ทั้งยังร่วมงานเลี้ยงปิดกล้องอย่างที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก
ถึงอย่างไรก็เป็นกองถ่ายซึ่งมีนักเขียนบทเป็นแกนหลัก ต่อให้หลินเยวียนคุ้นเคยกับการเป็นสั่งงานให้ผู้อื่นทำมากขึ้นเรื่อยๆ ทว่าเขายังต้องพยายามออกงานในโอกาสสำคัญอย่างเต็มที่
ในงานเลี้ยงปิดกล้อง
หลินเยวียนกลายเป็นจุดสนใจอย่างไม่ต้องสงสัย
ผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ รวมไปถึงนักแสดงต่างผลัดกันมายกสุราอวยพรให้หลินเยวียน
หลินเยวียนไม่ดื่มสุรา จึงใช้น้ำชาตอบรับแทน
ทุกคนต่างรู้ว่าหลินเยวียนร่างกายไม่แข็งแรง ไม่รู้ว่าสุขภาพของหลินเยวียนในปัจจุบันนั้นดีกว่าคนทั่วไป เพราะฉะนั้นจึงไม่มีใครรู้สึกว่าการดื่มชาในงานเลี้ยงนั้นไม่เหมาะสม
แน่นอน
ต่อให้สุขภาพของหลินเยวียนจะดีกว่านี้ เขาก็ไม่อยากดื่มสุรา และไม่มีใครกล้าพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้มากความ
และระหว่างงานเลี้ยง หลินเยวียนลอบสังเกตนักแสดงเหล่านี้อย่างเงียบเชียบ
ภาคต่อของบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศนั้นสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมีความเชื่อมโยงไปถึงภาพยนตร์เดี่ยวของแต่ละตัวละคร นักแสดงเหล่านี้จะมีประโยชน์กับเขาในอนาคต
เพียงแต่แผนการโดยละเอียดนั้น หลินเยวียนยังคงกำลังตกผลึก ดังนั้นเขาจึงยังไม่เปิดเผยเรื่องนี้ในงานเลี้ยง
……
ในวันที่สองของงานเลี้ยงเปิดกล้อง หลินเยวียนมายังสตูดิโอเพื่อเขียนอลิซในแดนมหัศจรรย์ต่อ
ทั้งสองภาคของนิทานเรื่องนี้รวมกันแล้วไม่ถึงสองแสนตัวอักษร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน