ตอนที่ 62 ของขวัญแห่งเมไจ
“…”
คำตอบของหลินเยวียนทำลายความรู้ของหวงเปิ่นอวี่ที่ผ่านมาเสียยับเยิน แต่เมื่อนึกถึงว่าในวิทยาลัยยังมีกู้ซีซึ่งความสามารถระดับปีศาจอยู่ เขาก็พลันโล่งใจขึ้นมา
นี่นับเป็นเรื่องดี
และเป็นข้อพิสูจน์อย่างชัดแจ้งว่าวิทยาลัยนั้นอัดแน่นไปด้วยผู้มีพรสวรรค์
อันที่จริงคนที่ไม่มีโสตประสาทระดับมืออาชีพแบบหวงเปิ่นอวี่ย่อมไม่มีทางฟังออกว่าเทคนิคของหลินเยวียนนั้นมีชั้นเชิงมากขนาดไหน นักศึกษาในชั้นเรียนเพียงแค่ได้ข้อสรุปที่คล้ายคลึงกันว่า
หลินเยวียนเล่นเปียโนเก่งมาก
ทว่าหลังจากที่หลินเยวียนโชว์เดี่ยวเพลงเปียโนจบ หวงเปิ่นอวี่ก็ไม่ได้เอ่ยคำพูดประเภทไม่ต่างกับการว่ากล่าวโดยรวม อย่าง ‘ผมไม่ได้เพ่งเล็งใคร ผมกำลังพูดถึงทุกคนที่นั่งอยู่ที่นี่’ อีกต่อไป
ในคาบเรียนเปียโนหลังจากนั้น คำพูดของหวงเปิ่นอวี่จะมีประโยคหนึ่งซึ่งใช้เป็นประจำ
‘ยกเว้นหลินเยวียน ความรู้พวกนี้พวกคุณต้องจำเอาไว้’
‘ยกเว้นหลินเยวียน ผมเชื่อว่าคนอื่นๆ คงไม่รู้ว่าทำไมตรงนี้ทำแบบนี้’
‘ยกเว้นหลินเยวียน ทุกคนต้องไปฝึกเพลงนี้หลังจากจบคลาส โดยเฉพาะท่อนสุดท้าย’
‘ยกเว้นหลินเยวียน…’
อย่างไรเสีย ตั้งแต่คาบนั้นเป็นต้นไป วลีว่า ‘ยกเว้นหลินเยวียน’ ก็แทบจะกลายเป็นคำพูดติดปากของหวงเปิ่นอวี่ไปแล้ว
ในใจของหวงเปิ่นอวี่ก็หวังว่า ทางที่ดีหลินเยวียนจะไม่เข้าเรียนวิชาเปียโนเหมือนกับกู้ซี
เขายินดีให้คะแนนไปเลย!
ถึงอย่างนั้นชีวิตอันสงบสุขของหลินเยวียนก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเพราะเขาโชว์ฝีมือในคาบเรียนเปียโนไปครั้งหนึ่งหรอก
ถ้าจะถามว่ามีอะไรที่เปลี่ยนไปก็น่าจะเป็นเรื่องที่เขาได้รับความสนใจในชั้นเรียนมากขึ้น
ก็จริง
ร่างกายอ่อนแอ นิสัยดี หน้าตาดี ตั้งใจเรียน แถมยังเล่นเปียโนก่งอีก เพื่อนร่วมชั้นที่เก่งและนิสัยดีแบบนี้ก็ยากนักที่คนจะเกลียดชัง
อันที่จริง
ตอนที่หลินเยวียนเพิ่งย้ายมายังสาขาประพันธ์เพลง เพื่อนในชั้นคิดมาตลอดว่าหลินเยวียนเย็นชา แต่หลังจากที่ได้รู้จักกันแล้ว ก็ไม่มีใครคิดว่าหลินเยวียนเย็นชาอีก
พูดน้อยกับเย็นชาเป็นคนละเรื่องกัน ผู้ชายคนนี้แค่ไม่ชอบพูดก็เท่านั้น
วันเวลาหลังจากนั้น
หลินเยวียนก็ยังคงไม่พูดเยอะเหมือนเดิม และยังคงตั้งใจเรียนเหมือนเดิม ผลคะแนนวิชาสาขาของเขาจึงก้าวหน้าไปมาก จนไม่ได้รับผลกระทบจากการโอนย้ายสาขาในปีสองอย่างกะทันหัน
และในวันเวลาอันสงบสุขของเขาเช่นนี้ เดือนมีนาคมก็เวียนมาถึงโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว
ในช่วงเวลาซึ่งยังคาบเกี่ยวกับฤดูหนาว อากาศของเดือนสามก็ยังคงเย็นเฉียบจนพลอยให้ผู้คนไม่อยากลุกออกจากใต้ผ้าห่มง่ายๆ
กลิ่นอายของการเฉลิมฉลองตรุษจีนค่อยๆ จางไป
ปรินซ์ออฟเทนนิสเล่มล่าสุดก็ยังทำยอดขายได้ชวนชุ่มชื่นหัวใจดังเคย
และในวันที่หนึ่งมีนาคมเช่นเดียวกันนั้น ผลงานใหม่ของฉู่ขวงก็ยังได้รับการตีพิมพ์ในนิตยสารอ่านสนุก
เรื่องสั้นชื่อว่าของขวัญแห่งเมไจ
ในวันนี้หลินเยวียนยังได้รับนิตยสารตัวอย่างซึ่งคลังหนังสือซิลเวอร์บลูส่งมาให้ฟรีๆ
นิตยสารตัวอย่างก็คือนิตยการซึ่งกองบรรณาธิการมอบให้นักเขียนหลักที่ผลงานถูกเผยแพร่ ในนิตยสารก็มีผลงานของนักเขียนคนนั้น และการมอบนิตยสารตัวอย่างก็เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบที่สำนักพิมพ์มีต่อนักเขียน
เมื่อได้รับนิตยสารตัวอย่างอ่านสนุกแล้ว
หลินเยวียนก็เห็นว่าของขวัญแห่งเมไจถูกจัดวางไว้ในตำแหน่งโปรโมตที่สะดุดตาที่สุดของนิตยสาร คำว่า ‘ผลงานใหม่ของฉู่ขวง’ ก็เด่นหราปรากฏแก่สายตา
นี่หมายความว่าบรรณาธิการให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก
อย่างไรก็ดี ข้อความโปรโมตว่า ‘ผลงานใหม่ของฉู่ขวง’ อันที่จริงก็ไม่ได้มีประสิทธิผลมากนัก เพราะกลุ่มผู้ที่ชอบซื้อนิตยสารอ่านสนุก กับกลุ่มนักอ่านที่ชื่นชอบนิยายแนวแฟนตาซีเยาวชนนั้นไม่ได้ซ้อนทับกันมากนัก
ถึงอย่างไรฉู่ขวงก็โด่งดังมาจากนิยายแฟนตาซีเยาวชน
ถ้าหากไม่สนใจนิยายแฟนตาซีเยาวชน ผู้ซื้อนิตยสารอ่านสนุกบางคนก็คงไม่รู้ว่าฉู่ขวงเป็นใคร แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อเห็นข้อความโปรโมตบนหน้าปก ผู้คนจำนวนมากก็อาจเกิดความคาดหวังกับเรื่องที่โปรโมตบนหน้าปก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน