ตอนที่ 64 ว่าด้วยผลงานคลาสสิก
หลังจากตะลึงงันไปนับสิบวินาที ในที่สุดฮั่นจี้เหม่ยก็ตั้งสติได้
เธอนึกไม่ถึงแม้แต่นิดเดียวว่าตอนจบจะเป็นแบบนี้…
ภรรยาขายเส้นผมยาวสลวยไปทั้งศีรษะ เพื่อซื้อสายคล้องนาฬิกาทองคำให้สามี ส่วนสามีก็ขายนาฬิกาทองคำของรักของหวง เพื่อซื้อชุดหวีที่ภรรยาปรารถนามาเนิ่นนาน
พวกเขายอมสละทรัพย์สมบัติอันล้ำค่าที่สุดในครอบครัวเพื่อกันและกัน แต่ของขวัญที่มอบให้กันก็สูญเสียคุณค่าดั้งเดิมไปในเวลาเดียวกัน
ตอนจบแบบนี้จะบอกว่าโหดร้ายก็ออกจะมากเกินไปหน่อย ถึงอย่างนั้นก็ยังทำให้คนร้องไห้ไม่ได้หัวเราะไม่ออก
และท่ามกลางความย้อนแย้งอันน่าขันนี้ ความรักของสามีกับภรรยาถูกร้อยเรียงสู่หน้ากระดาษ ถ่ายทอดได้อย่างแจ่มชัด!
ชวนให้คนอยากมีความรักจริงๆ เลย
ฮั่นจี้เหม่ยปิดนิตยสารอย่างใจลอยราวกับกำลังใช้ความคิด
ทันใดนั้นเธอก็นึกขึ้นมาได้
เรื่องราวดีๆ เช่นนี้เดิมทีควรปรากฏในเซกชันวรรณกรรมของปู้ลั่ว เฉกเช่นเดียวกับเรื่องโฉมงามประดิษฐ์ของฉู่ขวง
“ทำไมสุดท้ายแล้วถึงพลาดฉู่ขวงไปได้กัน”
ทั้งที่แรกเริ่มเดิมทีเขาเลือกแพลตฟอร์มของพวกเรา
แววตาของฮั่นจี้เหม่ยสว่างวาบ กดลงบนปุ่มสีเขียวทางด้านซ้ายของโต๊ะทำงาน “อีกห้านาทีประชุมหัวหน้าบ.ก.ทั้งหมด”
ทำไมเซกชันวรรณกรรมของปู้ลั่วถึงไม่รู้ร้อนรู้หนาวกันเลยน่ะหรือ
ก็เพราะคุณภาพของผลงานในเซกชันวรรณกรรมสู้นิตยสารในท้องตลาดไม่ได้น่ะสิ
และเมื่อใคร่ครวญถึงเหตุผลสำคัญที่สุด ก็เป็นเพราะเซกชันวรรณกรรมของปู้ลั่วนั้นไม่มีแรงดึงดูดนักเขียนฝีมือดีมามากพอน่ะสิ!
ตนจะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์นี้ยังไงดีล่ะ
ง่ายมาก ก็ต้องไปช่วงชิงผลงานมา ช่วงชิงนักเขียน!
นักเขียนที่ยอดเยี่ยมอย่างฉู่ขวง ก็ควรค่าให้เซกชันวรรณกรรมของปู้ลั่วไปแย่งชิงมา ฮั่นจี้เหม่ยเชื่อว่าสุดท้ายแล้วตนเองก็จะโน้มน้าวนักเขียนมือดีเช่นฉู่ขวงได้
ฉั่นจี้เหม่ยเปิดประชุมหัวหน้าบรรณาธิการพร้อมกับความคิดนี้
เธอเอ่ยถึงปัญหานี้ในการประชุม “ทำไมปู้ลั่วถึงไม่เป็นแพลตฟอร์มอันดับหนึ่งที่นักเขียนเลือก”
อันที่จริงนี่เป็นปัญหาที่สำคัญที่สุด
หัวหน้าบรรณาธิการซึ่งอยู่ด้านขวาหัวเราะ “นอกจากเซกชันวรรณกรรมซึ่งเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ซึ่งค่อนข้างพิเศษสำหรับการเผยแพร่ผลงานแล้ว เหตุผลสำคัญที่สุดก็คือพวกเราไม่ได้จ่ายโบนัสที่มากพอแก่นักเขียน”
นักเขียนเองก็ต้องกินข้าวเหมือนกัน
ลำพังแค่ยอดถูกใจของแพลตฟอร์มออนไลน์เห็นจะไม่พอ
ฮั่นจี้เหม่ยหยัดกายลุกขึ้นยืน สองมือกดลงบนโต๊ะ โน้มตัวลงเล็กน้อย “ฉันจะทำเรื่องของบกับเบื้องบน พวกคุณรู้ใช่มั้ยว่าควรทำอะไร”
“ดึงตัวคนมา!”
เหล่าหัวหน้าบรรณาธิการฮึกเหิมขึ้นมา
ฮั่นจี้เหม่ยยิ้มบางๆ “เย็นนี้ฉันจะส่งรายชื่อเป้าหมายให้พวกคุณ จำนวนนักเขียนกลุ่มแรกต้องไม่น้อยกว่าสามสิบ พวกเราต้องทำการใหญ่กันแล้ว”
“ดูท่าพวกเราจะไปแย่งนักเขียนกับนิตยสารรายใหญ่แล้ว”
เหล่าบรรณาธิการผุดรอยยิ้ม เส้นสายนักเขียนของพวกเขาก็ไม่ได้ขาดแคลน ถ้าหากมีงบพอ อยากจะดึงนักเขียนมือทองมาก็ไม่ใช่เรื่องยาก
“ดีมาก”
ฮั่นจี้เหม่ยเหยียดตัวตรง “ดูท่าพวกคุณก็ล้วนมีเป้าหมายที่อยากไปดึงตัว ก่อนอื่นฉันขอแนะนำหนึ่งในเป้าหมายจากรายชื่อที่พวกคุณต้องไปดึงตัวมา”
“ใครเหรอ”
“ฉู่ขวง”
เหล่าบรรณาธิการอึ้งไป คิดว่าฮั่นจี้เหม่ยเข้าใจอะไรผิด “คนนี้คงไม่นับเป็นนักเขียนนิยายขนาดสั้นชื่อดังหรอกมั้ง เขาเขียนนิยายแฟนตาซีเยาวชน โฉมงามประดิษฐ์ในครั้งก่อนก็เป็นนิยายสั้นที่เขาเขียนขึ้นมาชั่วครั้งคราว ถึงแม้จะไม่เลวเลย…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน