ตอน ตอนที่ 670 กู้ซีมาแล้ว จาก Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 670 กู้ซีมาแล้ว คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายการเงิน Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
วันเวลาหลังจากนั้น ทั้งโลกออนไลน์ล้วนกำลังพูดถึงคอนเสิร์ตของเซี่ยนอวี๋ ในช่วงเวลานี้มีวิดีโอบางส่วนถูกเผยแพร่ ทว่าส่วนใหญ่พร่าเบลอ ทั้งยังสั่นอย่างรุนแรง ให้ประสบการณ์การรับชมที่แย่กว่าหนังซูมเสียอีก แม้จะไม่ได้โวยวาย แต่ทุกคนยังคงต้องการรับชมวิดีโอคอนเสิร์ตเวอร์ชันทางการ
ส่วนหลินเยวียน เขาเรียกนักร้องในราชวงศ์ปลามารวมตัวกันในบริษัท
บรรดาปลามาร่วมตัวในห้องทำงานของเซี่ยนอวี๋
ไม่มีใครรู้จุดประสงค์ของเซี่ยนอวี๋
ทุกคนมองดูเซี่ยนอวี๋อย่างกระตือรือร้น
“คือแบบนี้ครับ”
หลินเยวียนมองไปยังสมาชิกราชวงศ์ปลา ไม่ได้ลีลาให้มากความ
“ผมร้องเพลงใหม่ในคอนเสิร์ตทั้งหมดห้าเพลง ถ้ามีผลงานที่ตัวเองชอบก็ลองดูได้ว่าเข้ากันไหม ถ้าเข้ากันก็สามารถนำไปบันทึกเสียงแล้วปล่อยเพลงได้เลยครับ”
สมาชิกราชวงศ์ปลาตกตะลึง
นำเพลงใหม่ในคอนเสิร์ตไปใช้?
หลังจากนั้น!
สมาชิกราชวงศ์ปลาก็ตื่นเต้นขึ้นมาในทันใด!
“เพลงเวอร์ชันจากคอนเสิร์ตที่จะปล่อยอย่างเป็นทางการ นายไม่ได้คิดจะร้องด้วยตัวเองเหรอ?”
“ให้พวกเราร้อง?”
“ทำไมถึงทำแบบนี้ตลอดเลยล่ะคะ”
“คุณก็ร้องเองได้นี่!”
“ไม่จำเป็นต้องส่งต่อให้พวกเราทุกเรื่องก็ได้นะ”
“อีกอย่างพวกเราไม่ได้ร้องได้ดีแบบคุณ”
ซุนเย่าหั่ว เฉินจื้ออวี่ เจียงขุย จ้าวอิ๋งเก้อ เว่ยห่าวอวิ้น และซย่าฝานต่างคนต่างพูด
หลินเยวียนประหลาดใจ
เมื่อก่อนเขาให้เพลงกับทุกคน ทุกคนต่างรับไว้ด้วยความยินดี นึกไม่ถึงว่าครั้งนี้พวกเขาจะปฏิเสธ
เพราะเพลงไม่ดีหรือ?
เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่
เกิดความรู้สึกแปลกประหลาดขึ้นในใจของเขา สีหน้าของหลินเยวียนเรียบเฉยเหมือนปกติ เพียงแต่แววตากลับมองไปทางซุนเย่าหั่ว
เขาไม่สันทัดในการรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้ ทำได้เพียงส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากรุ่นพี่ซุนเย่าหั่ว
“เอาละ…”
ซุนเย่าหั่วก้าวออกจากแถว
เมื่อถูกล็อกด้วยสายตาของรุ่นน้อง เขาจึงรู้ว่าต่อจากนี้ต้องทำอะไรต่อไป
และไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่เขาสามารถเข้าใจแววตาของรุ่นน้อง
“เกินจริงเวอร์ชันภาษาฉี!”
ซุนเย่าหั่วตัดสินใจเลือกในทันที
“เพลงนี้ต่อให้นายไม่ให้ฉัน ฉันก็อยากลอง ครั้งแรกที่ได้ฟัง ฉันก็รู้สึกว่าเพลงนี้เหมาะกับฉัน ส่วนเพลงที่เหลือ ถ้าไม่มีใครเลือก ฉันก็จะไม่เกรงใจแล้วนะ…”
“ฉัน!”
เดิมทีทุกคนยังคงลังเลอยู่บ้าง แต่เมื่อเห็นซุนเย่าหั่วหน้าหนากว่ากำแพง พวกเขาจึงไม่ดึงดันอีกต่อไป ไม่อย่างนั้นจะเป็นการปล่อยให้ซุนเย่าหั่วได้เปรียบเพียงคนเดียว
“งั้นสามวันสามคืนแล้วกัน”
จ้าวอิ๋งเก้อสนอกสนใจเพลงซึ่งใช้เสียงสูง
เฉินจื้ออวี่ซึ่งอยู่ด้านข้างทำตาโต “ต้อง Beat It แล้ว!”
เขาชื่นชอบเพลงสไตล์ร็อกมาโดยตลอด
“ฉันร้องเพลง Lemon ได้ไหมคะ?” เจียงขุยลังเล
เธอชอบเพลงนี้ แต่ไม่มั่นใจว่าถ้าใช่เสียงผู้หญิงร้องเพลงนี้จะเหมาะสมหรือไม่ นอกจากนั้นการเรียนภาษาฉู่ก็เป็นปัญหาเช่นเดียวกัน
“ลองหน่อยแล้วกันครับ”
หลินเยวียนพยักหน้า มองไปทางซย่าฝาน “ร้องลูกโป่งสารภาพรักแล้วกัน”
ซย่าฝานส่ายหน้า “เพลงนี้เขียนจากมุมมองของผู้ชาย”
หลินเยวียนตอบ “งั้นเราต่างคนต่างปล่อยคนละเวอร์ชัน”
“ได้!”
ซย่าฝานพยักหน้า
เว่ยห่าวอวิ้นกล่าวกลั้วหัวเราะ “ฉันไม่เลือกแล้วกันค่ะ สไตล์ของฉันไม่เหมาะที่จะแย่งเพลงกับพวกคุณ”
หลินเยวียนตอบ “เดี๋ยวผมจะให้เพลงใหม่กับคุณ”
จะให้เพลงแด่อลิซกับเว่ยห่าวอวิ้นไม่ได้ นี่เป็นเพลงเปียโน
ทว่าเสียงและแนวเพลงของเว่ยห่าวอวิ้นนั้นกว้างมาก ในราชวงศ์ปลานับว่าเป็นสไตล์ที่หาได้ยาก หลินเยวียนมีแผนการที่เกี่ยวข้องในอนาคต
“ขอบคุณค่ะอาจารย์เซี่ยนอวี๋!”
เว่ยห่าวอวิ้นไม่ได้รู้สึกผิดหวังแม้แต่น้อย เธอเป็นคนใจกว้าง นอกจากนั้นอาจารย์เซี่ยนอวี๋ก็บอกแล้วว่าหลังจากนี้จะมีเพลงให้
……
หลังจากแบ่งเพลงเสร็จ
ทุกคนออกไป
เมื่อเข้าไปในลิฟต์ จู่ๆ จ้าวอิ๋งเก้อจึงเอ่ยขึ้น “ซุนเย่าหั่ว ทำไมคุณถึงต้องกระตือรือร้นขนาดนั้นอยู่ตลอดเวลาด้วย”
“นั่นสิ”
“ถึงจะชอบเพลง แต่ฉันคิดว่าเพลงพวกนั้นน่าจะให้อาจารย์เซี่ยนอวี๋ร้องเอง”
“เห็นอยู่ว่าเขาร้องได้ดีมาก”
ผู้คนใต้หล้าแยกจากกันเพราะผลประโยชน์
ยกเว้นซย่าฝาน บรรดานักร้องในราชวงศ์ปลาอาจมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันในการเข้าร่วมกับเซี่ยนอวี๋ในตอนแรก
ทว่าความคิดของทุกคนเปลี่ยนไปโดยไม่รู้ตัว
บางทีอาจจะนับว่าไม่รู้ตัวก็คงไม่ได้
การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดล้วนมีร่องรอยให้ติดตาม
และในห้องทำงาน
จู่ๆ เซี่ยนอวี๋ก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา กดต่อสาย
“มีเพลงเปียโนอยู่เพลงหนึ่ง อยากลองดูไหมครับ?”
ปลายสายที่เขาติดต่อไปคือกู้ซี
“ลองค่ะ!”
เสียงปลายสายร้อนรนขึ้นมาในทันที
“อีกประเดี๋ยวคอนเสิร์ตจะเริ่มแล้ว…”
มีเสียงที่สองดังขึ้นอย่างแผ่วเบา
“ยกเลิก!”
เสียงของกู้ตงตอบคนคนนั้นอย่างเด็ดขาด และหลังจากนั้นเธอก็กระซิบเบาๆ กับหลินเยวียน น้ำเสียงตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง
“อาจารย์เซี่ยนอวี๋ เราเจอกันที่ไหนดีคะ”
“คุณทำธุระของคุณก่อนก็ได้ครับ”
“ฉันไม่มีธุระให้ทำค่ะ…”
ทันทีที่คำพูดนี้จบ เสียงที่สามในโทรศัพท์ก็ดังขึ้น “บ่ายสองโมงมีงานสัมนาเปียโนที่ฉินฉีฉู่เยี่ยนหานร่วมกันจัดขึ้น?”
“ยกเลิก!”
กู้ซียกมือขึ้นปิดลำโพง
“พบอาจารย์หนิวนักเปียโนระดับปรมาจารย์ตอนสี่โมงเย็น…”
“ยกเลิก ยกเลิก ยกเลิกให้หมด…”
“ฉันว่า ฉันรู้แล้วว่าปลายสายท่านนี้เป็นใคร ใช่ไหม อาจารย์เซี่ยนอวี๋~ไม่พบกันนานเลยนะคะ!”
เสียงที่สามดังขึ้น กำลังพูดกับหลินเยวียน
ถ้าจำไม่ผิด เหมือนว่าจะเป็นญาติสักคนหนึ่งของกู้ซี ตอนนั้นเคยพบกับหลินเยวียนครั้งหนึ่ง
หลินเยวียนพูด “ไม่พบกันนานเลยครับ มาที่บริษัทสิครับ สตาร์ไลท์เอนเตอร์เทนเมนต์”
หลินเยวียนวางแผนว่าจะให้เพลงแด่อลิซกับกู้ซี
ในแง่ของทักษะการบรรเลงเปียโน กู้ซีเก่งกว่าหลินเยวียน และมีความเป็นมืออาชีพกว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอน 837-839 ไม่มีข้อความเลยครับ...