Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 678

ตอนที่ 678 ประธานกรรมการบ้าไปแล้ว

สตาร์ไลท์

ในห้องทำงานประธานกรรมการ

หลินเยวียนยืนอยู่หน้าประตูและเคาะเบาๆ

เสียงทุ้มหนาดังมาจากด้านใน

“เชิญครับ”

หลินเยวียนผลักประตูเข้าไป

ชายร่างไม่สูงไม่เตี้ยคนหนึ่งนั่งอยู่บนโซฟาที่ฝั่งหนึ่งของห้องทำงาน คนคนนี้ก็คือหลี่ซ่งหวา ประธานกรรมการบริษัทสตาร์ไลท์

อา ยุอานามของหลี่ซ่งหวามากกว่าเหล่าโจวเล็กน้อย รูปร่างสูงปานกลาง ใบหน้าประดับด้วยหนวดเคราซึ่งผ่านการตัดเล็มเป็นอย่างดี แววตานิ่งสงบและสง่างาม แต่กลับให้ความรู้สึกน่าเกรงขาม

“สวัสดีครับ ประธานกรรมการ”

หลินเยวียนเอ่ยทักทายอย่างมีมารยาท

“ไม่ต้องเกรงใจ นั่งได้ตามสบาย”

หลี่ซ่งหวาอ่อนโยนและสุภาพ “ได้ยินว่าคุณชอบดื่มชา…”

ขณะที่เอ่ยปาก ประธานกรรมการคนนี้พลางรินน้ำชาให้หลินเยวียนด้วยตนเอง

“ลองดู?”

“ได้ครับ”

ท่ามกลางกลิ่นหอมของใบชาซึ่งอบอวลไปทั่วทั้งห้อง หลินเยวียนนั่งฝั่งตรงข้ามของหลี่ซ่งหวา จิบชาไปหนึ่งคำ อุณหภูมิกำลังดี

“อร่อยไหม”

“พอได้ครับ”

“…”

บรรยากาศเงียบงันลงทันตา

ดื่มชาต่อไป

หลังจากดื่มชาเสร็จ หลี่ซ่งหวาจึงเอ่ยปากอีกครั้ง

“อันที่จริงถ้าคุณไม่มาหาผม ผมก็จะไปคุยกับคุณอยู่ดี เรื่องหุ้นคุณยอมรับแล้ว คุณคิดจะเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการของบริษัทในอนาคตไหม?”

“ผมหาคนมาเข้าร่วมแทนได้ไหมครับ”

“คนอื่นไม่ได้ ถ้าเป็นคุณ ได้”

“ขอบคุณครับ”

“ผมบอกแล้วไงว่าไม่ต้องเกรงใจ คิดว่าสตาร์ไลท์เป็นบ้านของตัวเองก็พอ อยากพาสุนัขมาเดินเล่นในบริษัทก็พามาได้ อย่างเล่นก็โดดงานได้ บริษัทเรามีเอกสิทธิ์พิเศษสำหรับผู้มีความสามารถ เราจัดการอย่างมีมนุษยธรรม”

หลินเยวียนพยักหน้า

หลี่ซ่งหวาคล้ายว่าจะจับความบางอย่างได้จากความเงียบของหลินเยวียน และไม่ได้รังเกียจแต่อย่างใด

“หลังจากนี้ถ้ามีคำแนะนำที่เกี่ยวกับทิศทางในการพัฒนาบริษัทในอนาคต คุณสามารถพูดคุยกับที่ประชุมคณะกรรมการ หรือบอกกับผมได้โดยตรง”

“ครับ”

“ที่คุณมาในวันนี้มีอะไรจะคุยกับผมหรือเปล่า?”

“ครับ”

หลินเยวียนรู้ “คุณรู้จักฉู่ขวงไหม?”

หลี่ซ่งหวายิ้ม “เซี่ยนอวี๋ใต้ ฉู่ขวงเหนือ อีกฝ่ายเป็นคนที่มีชื่อเสียงพอๆ กับคุณ แน่นอนว่าผมรู้จัก ผมยังรู้ด้วยว่าพวกคุณสนิทสนมกับ ซีรีส์การเดินทางสู่ประจิมทิศมาอยู่ที่สตาร์ไลท์ก็เพราะความสัมพันธ์ของคุณกับเขา ทำไมจู่ๆ ถึงพูดถึงฉู่ขวงขึ้นมาล่ะ”

หลินเยวียนไม่ได้ตอบในทันที

เดิมทีเขาอยากเปิดเผยตัวตนอิ่งจือ แต่สำหรับสตาร์ไลท์ ความสำคัญของฉู่ขวงนั้นเห็นได้ชัดเจนว่า

เนื่องจากลิขสิทธิ์ผลงานของฉู่ขวงเป็นสิ่งที่บริษัทต้องการเป็นอย่างมาก

ถึงอย่างไรสตาร์ไลท์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ในปัจจุบันนี้กำลังเติบโตในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และโทรทัศน์

หลี่ซ่งหวาไม่ได้เร่งเร้า

เขาเปลี่ยนถ้วยน้ำร้อนและรินชาให้หลินเยวียนต่อไป เทคนิคของเขาเป็นมืออาชีพกว่าเหล่าโจวมาก

“ผมคือฉู่ขวง”

จู่ๆ หลินเยวียนก็เอ่ยขึ้น ขณะมองดูหลี่ซ่งหวารินชาอย่างช่ำชอง

จ๊อกๆๆ

น้ำชาไหลจากพวยกาลงในถ้วย

นอกจากน้ำชาซึ่งไหลริน ภาพทุกอย่างราวกับกำลังหยุดนิ่ง

มือของหลี่ซ่งหวาหยุดชะงักกลางคัน สีหน้าเต็มไปด้วยความสับสน

ท่ามกลางเสียงแผ่วเบา

น้ำชาซึ่งไหลจนเต็มถ้วย และล้นออกมาเป็นบริเวณกว้าง

น้ำชาซึ่งเป็นสีเขียวอ่อนเปียกชุ่มไปทั่วทั้งโต๊ะ ทั้งยังไหลกระจายไปยังรอบมุมอย่างรวดเร็ว

มีกลุ่มควันลอยอวลอยู่ระหว่างหลินเยวียนและหลี่ซ่งหวา

“อ๊าก!”

หลี่ซ่งหวาตกใจ รีบวางกาน้ำชาลง

หลินเยวียนขยับสองขาออกอย่างรวดเร็ว และดึงกระดาษทิชชูมาซับน้ำบนโต๊ะ

ในที่สุดภาพนิ่งก็กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

ทั้งสองคนไม่มีใครพูดอะไร

จนกระทั่งโต๊ะถูกทำความสะอาดเรียบร้อย หลี่ซ่งหวาจึงเอ่ยถามหลินเยวียนอีกครั้งด้วยน้ำเสียงสั่นเทา

“เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ…ผมเหมือนจะฟังไม่ถนัด”

“ผมคือฉู่ขวง”

หลินเยวียนพูดซ้ำคำพูดของตน

สุดท้ายแล้วเขายังเลือกที่จะเปิดไพ่ฉู่ขวงออกมา

เพราะหลินเยวียนรู้ดี ว่าเมื่อเทียบกับอิ่งจือ หลังจากนี้ฉู่ขวงจะมีปฏิสัมพันธ์กับสตาร์ไลท์เพิ่มขึ้นมากอย่างแน่นอน

เฮือก

หน้าจอค้างอีกครั้ง

หลังจากนั้น หลี่ซ่งหวาจึงลุกขึ้นจากที่นั่งของเขา

หลินเยวียนเงยหน้าขึ้นมองหลี่ซ่งหวา

ขณะที่สบตากัน อยู่ๆ หลี่ซ่งหวาก็ขยับตัว ราวกับชักกระตุก “นั่งนานแล้วปวดขา”

“อื้ม”

หลินเยวียนหยิบกาน้ำชา และรินชาให้หลี่ซ่งหวา

“คุณคือฉู่ขวง?”

หลี่ซ่งหวามองไปยังการกระทำของหลินเยวียน เอ่ยขึ้นขณะมุมปากกระตุก

“ใช่ครับ”

“คุณไม่ใช่เซี่ยนอวี๋”

“ทั้งสองมีอะไรที่ขัดแย้งกันเหรอครับ?”

“…”

เสียงกึกดังขึ้น

หลี่ซ่งหวาหย่อนบั้นท้ายกลับลงบนเก้าอี้ สีหน้าเปี่ยมไปด้วยความสงสัยในชีวิต

เขาอยากแสร้งทำเป็นเยือกเย็น แต่ครั้งนี้การเสแสร้งกลับล้มเหลว

หลี่ซ่งหวา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน