Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 714

สรุปบท ตอนที่ 714 เขาจะขึ้นครองบัลลังก์: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

สรุปตอน ตอนที่ 714 เขาจะขึ้นครองบัลลังก์ – จากเรื่อง Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน โดย Internet

ตอน ตอนที่ 714 เขาจะขึ้นครองบัลลังก์ ของนิยายการเงินเรื่องดัง Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ตอนที่ 714 เขาจะขึ้นครองบัลลังก์

“คุณเชื่อ…”

“ผมเชื่อในแสง!”

“ปา…”

“ปาฏิหาริย์จะต้องเกิดขึ้น!”

ถ้ามีคนพูดกับจินมู่เช่นนี้ เขาจะต้องตอบแบบเดียวกับบทสนทนาข้างต้นโดยไม่ลังเลอย่างแน่นอน!

คุณจะถามว่าทำไม?

ก็เพราะเขาได้เห็นปาฏิหาริย์กับตาตัวเองน่ะสิ!

พวกหลินเยวียนลุยงานเต็มสูบเชียวนะ!

คนอื่นอาจวาดการ์ตูนเป็นงาน แต่เมื่อพวกเขาวาดการ์ตูนขึ้นมา ถึงกับถวายชีวิต!

จินมู่สาบาน

ว่านี่ไม่ใช่ปัญหาเรื่องอายุ!

สมัยเขายังเป็นวัยรุ่น อยากเก่งที่สุดเหมือนว่าจะเจ็ดรอบในคืนเดียว?

แต่แม้ว่าในเวลานั้น ก็เทียบไม่ได้กับภาพที่เขาได้เห็นเป็นประจักษ์พยานในช่วงเวลาไม่กี่วันนี้เลย!

หนึ่งวัน!

สองวัน!

สามวัน!

หลินเยวียนและผู้ช่วยนอกจากกินข้าวแล้ว…

ได้นอนซะที่ไหน!

พวกเขาไม่ได้นอนเลย!

พวกเขากินแล้ววาดวาดแล้วกิน วนไปเช่นนี้!

นอกจากกินข้าว ในสายตาของพวกเขาเหลือเพียงการ์ตูน!

วันที่สาม

จินมู่ชักจะกลัวแล้ว!

เขาเริ่มรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาแล้วจริงๆ !

ร่างกายของคนพวกนี้ไม่มีปัญหากันบ้างเลยหรือ?

ถ้าคนคนหนึ่งไม่นอนเป็นเวลาสามวันยังพอเข้าใจได้

การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ชี้ให้เห็นว่าคนเราสามารถไม่นอนได้หลายวันจริงๆ

กราวิจัทยางวิยทาศาสร์ตยัรงะบุว่า ากรเรีงยลำดับตัวอัรกษไม่จำเป็นต้งอส่ผลงต่กอารอ่าน กยตัอวย่างเช่ปนระโยคนี้ที่ตัวอัษรกยุ่งเยหิงไหปมด

แต่ไม่ใช่เรื่องปกติแล้วที่คนกลุ่มนี้ไม่นอนสามวันสาม!

ต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลสักหน่อย!

จินมู่เสนอแนะ ปรากฏว่าถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย ทุกคนอยู่ในสภาวะที่ดีอย่างที่ไม่เคยเกิดมาก่อน ทุกคนตบหน้าอกเพื่อบอกว่าสุขภาพของพวกเขายังแข็งแรงดี!

อย่างไรก็ตาม…

ทุกคนก็รู้สึกว่าแปลกเช่นกัน

ไม่ง่วงเลยก็ไม่เข้าท่านะ

ต้องนอนสักพักจริงๆ

ไม่อย่างนั้นต้องเป็นเรื่องแน่ๆ

ดังนั้น ทุกคนจึงพยายามนอนหลับ

มหัศจรรย์มาก

ทุกคนผลอยหลับในทันที

นี่คือความมหัศจรรย์ของยาชูกำลัง

ของแบบนี้จะทำให้คนเรากะปรี้กะเปร่า แต่ไม่สามารถทำให้คนตื่นตัวจนนอนไม่หลับ อยากนอนก็สามารถนอนได้

นอนหลับไปหลายชั่วโมง อยากตื่นก็สามารถตื่นได้

เพียงแต่การทำเช่นนี้จะสิ้นเปลืองผลลัพธ์ของยาชูกำลัง

“เห็นได้ชัดว่าไม่มีปัญหาอะไร”

ทุกคนวางใจ และลงมือทำงานต่อไป

หลินเยวียนไม่กล้าให้ทุกคนอดหลับอดนอนเจ็ดวันจริงๆ สิ้นเปลืองผลลัพธ์ของยาชูพลังก็ช่างเถอะ

เขาถึงขั้นบังคับให้ทุกคนนอนสักพัก

เมื่อรู้สึกนอนไปเพียงพอแล้ว ค่อยเรียกพวกเขาตื่นขึ้นมาวาดรูปต่อ

ทุกคนผลัดกันไปนอน โดยทั่วไปแล้วจะเริ่มสับเปลี่ยนกันตั้งแต่เช้ามืด

ถึงแม้ยาชูกำลังจะไม่มีปัญหา แต่ถ้าคนกลุ่มนี้ยังมีกำลังวังชาโดยที่ไม่นอนเป็นเวลาเจ็ดวัน ก็ออกจะเหมือนเวทมนตร์เกินไปสักหน่อย

ไม่รู้ว่าการ์ตูนเรื่องใหม่ดุเดือดเกินไปหรือเปล่า เพราะในเวลานี้คนกลุ่มนี้ดุดันเหลือเกิน

คำพูดที่เปล่งออกมาล้วนแต่รุนแรง

บ้างก็ ‘บำเพ็ญเซียนจงเจริญ’

บ้างก็ ‘นอนทำไมฟระ ต้องลุกขึ้นมาลุย’

บ้างก็ ‘ข้าคือบุรุษ/สตรีที่ทรงพลังที่สุดในค่ำคืนนี้’

มิหนำซ้ำยังมีการเล่นปรัชญา เช่น ‘ไยต้องนอนยาวยามมีชีวิต ตายไปก็ได้นอนยาวแล้ว’

สรุปได้เป็นความหมายเดียว

คนจริงใครเขานอนกัน

หนึ่งในสามของเวลาชีวิตคนเราใช้ไปกับการนอน

นั่นก็เพียงพอแล้ว

หลินเยวียนเองก็งีบหลับให้พอเป็นพิธีเช่นกัน

ตราบใดที่เขายังสามารถทำงานเสร็จ เขาไม่อยากเลือกที่จะกลับไปนอนสามวันสามคืน

……

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาซึ่งสมาชิกในสตูดิโอลุยวาดการ์ตูน จินมู่ก็ถูกหลายฝ่ายรุมเร้าอย่างต่อเนื่อง

ทั้งจากสตาร์ไลท์ จากเว็บไซต์ และจากบล็อก

เหตุผลนั้นง่ายดายเหลือเกิน

เมื่อวันเวลาขยับเข้ามาใกล้ขึ้น ทุกคนต่างก็อยากรู้ว่าอิ่งจือจะหาทางลงจากคำคุยโวบนบล็อกในครั้งนั้นได้อย่างไร

……

จนกระทั่งวันที่สี่

การรุมเร้านี้จึงน้อยลงในที่สุด

อยากทำยังไงก็ทำเถอะ

ไม่มีทางลงแล้วละ

ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีใครเชื่อ

เชื่อกับผีสิ!

ชาวเน็ตล้วนคิดว่าอิ่งจือบ้าไปแล้ว

ขณะเดียวกันทุกคนก็แสดงความเข้าอกเข้าใจ

ภายใต้แรงกระตุ้มมหาศาลเช่นนั้น อิ่งจือจะพูดจาเหลวไหลออกมาบ้างย่อมเข้าใจได้

ชาวเน็ตเห็นใจอิ่งจือ ท่าทีของพวกเขาจึงค่อนข้างเปิดกว้างและอดทน

ไม่มีใครเยาะเย้ยคำคุยโวของอิ่งจือ

และไม่มีใครพูดว่า ประเดี๋ยวอิ่งจือคงถูกตบหน้าหัน…

ไม่จำเป็นต้องเอ่ยถึงเรื่องที่จะถูกตบหน้าหัน เมื่อเทียบกับความเจ็บปวดจากการถูกตบหน้า การตัดไฟตั้งแต่ต้นลมของปู้ลั่วในครั้งนี้ต่างหากคือหายนะที่แท้จริง!

ราคาที่ต้องจ่ายปรากฏขึ้นแล้ว

ปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์เหลียนเหมิงลดลงทุกวัน และลดลงอย่างเห็นได้ชัด

ในทุกๆ วัน เมื่อนักเรียนประถมแห่งความตายมีการอัปเดต ปริมาณการเข้าชมจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

เธอไม่มีหน้าจะอยู่ในเหลียนเหมิงต่อไปหรอก

การตลบหลังของเยี่ยเซินเฉินกับเทียนเหมินเกิดจากการทำงานที่ผิดพลาดของหานจี้เหม่ย หากเธอระมัดระวังมากกว่านี้ในการเซ็นสัญญา บางทีอาจไม่เกิดปัญหานี้ขึ้น

เป็นความผิดพลาดร้ายแรง!

เมื่อถูกหลิงคงผลักลงขุมนรกด้วยวิธีทางธุรกิจที่ไร้ซึ่งหลักการ ทัศนคติและท่าทีที่หานจี้เหม่ยมีต่องานจึงเปลี่ยนแปลงไปอย่างพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน

น่าเสียดายที่การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้คล้ายว่าจะสายเกินไป

เธอทำไม่สำเร็จ

ถึงแม้หานจี้เหม่ยจะสนิทสนมกับคนเหล่านี้ เธอก็ไม่สามารถโน้มน้าวให้ใครเข้าร่วมกับเหลียนเหมิงได้เลย

ได้กับการปฏิเสธอย่างอ้อมค้อมนับว่าดีมากแล้ว

บางคนวางสายทันทีที่รับสาย

บางคนถึงขั้นไม่รับโทรศัพท์ ราวกับกลัวว่าจะเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับหานจี้เหม่ยและเหลียนเหมิง

มาถึงทางตันแล้ว

คิดทุกวิถีทางที่คิดออกแล้ว

ไร้ประโยชน์

ไร้ประโยชน์สิ้นดี

……

จนกระทั่งช่วงค่ำของวันที่เจ็ด

หานจี้เหม่ยกดโทรศัพท์หาจินมู่พร้อมกับรอยยิ้มขมขื่น ถึงเวลาที่อาชีพของเธอจะต้องจบลง

อย่างไรก็ตาม

สิ่งที่ทำให้หานจี้เหม่ยประหลาดใจคือ ผู้ที่รับสายไม่ใช่จินมู่ แต่เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง

“เขาหลับไปแล้วค่ะ ฉันคือหลัวเวย”

ต่อให้เป็นหานจี้เหม่ยซึ่งสิ้นหวังประหนึ่งน้ำนิ่งในบ่อ ทันทีที่ได้ยินคำพูดนี้ ในใจกลับปั่นป่วนขึ้นมา

รู้สึกว่าเคยประสบกับสถานการณ์แบบนี้มาก่อน

“ขอโทษนะคะ พวกคุณ…”

“อ๊า!”

หลัวเวยชะงัก กรีดร้องเสียงแหลม ก่อนจะพูดอย่างไม่สบอารมณ์

“หลายวันมานี้ ทุกคนนอนในสตูดิโอกันหมดเลยค่ะ อาจินก็อยู่เป็นเพื่อนพวกเราจนดึก คนแก่ร่างกายทนไม่ค่อยไหว!”

ผู้หญิงคนนี้คิดอะไรอยู่!

หานจี้เหม่ยรีบขอโทษ “ขอโทษนะคะ คือว่า ช่วงนี้พวกคุณโต้รุ่งกันหรือ?”

หานจี้เหม่ยตะลึง

หลัวเวยไม่ได้ใส่ใจ เพียงแต่เอ่ยอย่างสะท้อนใจ “ใช่ค่ะ โต้รุ่ง และผลลัพธ์ก็ออกมาแล้ว!”

“การ์ตูนเรื่องใหม่…สองเรื่อง?”

หานจี้เหม่ยรู้สึกว่าสมองของเธอลัดวงจร จนลืมจุดประสงค์ในการโทรไปเสียแล้ว

“ค่ะ!”

หลัวเวยยกยิ้มมุมปาก “อาจารย์อิ่งจือเปิดสามเรื่อง!”

“สามเรื่อง”

“คุณแจ้งกับฝ่ายเทคนิคหน่อยนะคะ ให้เตรียมพร้อมสำหรับกิจกรรมเปิดตัววันพรุ่งนี้ ไม่ว่ายังไงก็ทัน”

“คือว่า…”

“ฉันรู้ว่าคุณสงสัยเกี่ยวกับคุณภาพของการ์ตูนมากกว่า แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ รอดูผลงานดีกว่า”

หลัวเวยเอ่ยตัดบทอีกฝ่าย

รอยยิ้มของเธอเบ่งบาน “พรุ่งนี้แปดโมงเช้า จะต้องมีสักขีพยานในการขึ้นครองราชย์ของอาจารย์ พวกเราจะทำให้ทั่วทั้งวงการการ์ตูนต้องยอมสวามิภักดิ์!”

เขาจะ

ขึ้นครองบัลลังก์!!!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน