Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 734

สรุปบท ตอนที่ 734 ยังมีอีก: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

สรุปตอน ตอนที่ 734 ยังมีอีก – จากเรื่อง Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน โดย Internet

ตอน ตอนที่ 734 ยังมีอีก ของนิยายการเงินเรื่องดัง Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ตอนที่ 734 ยังมีอีก

ฉินโจว ฉีโจว และเยี่ยนโจวต่างฟาดฟันกันบนการจัดอันดับฤดูกาลเพลง ชาวเน็ตฉู่โจวและหานโจวแม้ว่าจะกังวล แต่ก็จนปัญญา ทำได้เพียงหาความบันเทิงด้วยตนเอง

ว่างก็ว่างเถอะ

แหล่งความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขาในเวลานี้ก็คือหวงตงเจิ้ง!

‘เอาสิ บินสูงยิ่งกว่าเป็นเพลงที่สี่แล้ว ผู้เฒ่าเจ้าอารมณ์บางคนจากเยี่ยนโจวคงไม่ได้ตั้งใจฟังด้วยซ้ำ ก็เริ่มร้องเรียกเพื่อนมาช่วยปั่นชาร์ตแล้ว!’

‘หวงตงเจิ้งหล่นลงไปที่ห้า’

‘ทีนี้แม้แต่ก้นหม้อยังไม่ได้เลีย!’

‘พวกคุณแย่มาก ตอนแรกชี้ชวนให้หวงตงเจิ้งกินน้ำแกง หลังจากนั้นก็ปลอบใจเขาว่าให้กินกระดูก ถึงขั้นที่คิดมุกเลียก้นหม้อออกมาได้เล่นด้วยซ้ำ ตอนนี้แม้แต่ก้นหม้อก็ไม่ได้เลีย พวกคุณยังคิดจะเล่นต่อไปอีกไหม?’

‘ฉัน…เล่นต่อไปไม่ได้แล้ว’

‘เล่นต่อไม่ไหวแล้ว ให้เขาขัดหม้อชามตะเกียบแล้วกัน อย่างน้อยก็ยังติดคราบน้ำมันนิดหน่อย’

‘จุก!’

‘ผมยอมแล้ว!’

‘ขัดชามขัดหม้อก็ได้เหรอ?’

‘ชาวเน็ตกวนประสาทพวกนี้มองดูก็รู้ว่ามาจากหานโจวเรา!’

‘พวกคุณคนหานโจวชอบอ้างความสัมพันธ์ไปเรื่อยเปื่อยล่ะ ผมว่าพี่ชายจอมกวนประสาทคนนี้คือคนฉู่โจวของเรามากกว่า มีแค่คนฉู่โจวเท่านั้นแหละที่จะยิงมุกแพรวพราวได้ขนาดนี้’

‘เรื่องแบบนี้จะตีกันไปทำไม ไม่ได้ปั่นชาร์ตเพลงสักหน่อย ถามไปก็สิ้นเรื่อง พี่ชายคุณเป็นคนที่ไหน?’

ผมคนฉินโจว’’

ฉู่โจว “…”

หานโจว “…”

แล้วคุณยังไม่รีบไสหัวไปปั่นชาร์ตเพลงอีก?

……

เรื่องความบันเทิงของฉู่โจวและหานโจวเอาไว้ทีหลัง

ขณะนี้หวงตงเจิ้งบล็อกข่าวทั้งหมดซึ่งเกี่ยวข้องกับบลูเกมส์ไปตั้งแต่เมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว

ทุกคนรู้เหตุผลดี

อย่างไรก็ตาม เมื่อหวงตงเจิ้งกินอาหารกลางวันเสร็จ จู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าในบ้านมีหนังสือเล่มหนึ่ง ซึ่งกล่าวถึงการจัดอันดับต่างๆ

ข้อความหนึ่งซึ่งหวงตงเจิ้งอ่านแล้วตื่นเต้นมากกล่าวไว้ว่า

อันดับที่หนึ่งเรียกว่ารางวัลชนะเลิศ อันดับที่สองเรียกว่ารางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง อันดับที่สามเรียกว่ารองชนะเลิศอันดับสอง

และอันดับที่สี่ เรียกว่ารองชนะเลิศอันดับสาม!

ถูกต้อง อันดับที่สี่เองก็มีวิธีเรียกเช่นเดียวกัน

หลังจากนี้อย่าเรียกอันดับสี่ว่า ‘อันดับสี่’ เพราะมันดูหยาบโลนเกินไป!

ให้เรียกว่ารองชนะเลิศอันดับสาม!!!

ไม่ต้องพูด แบบนี้เขาเรียกว่าวิธีแบบนี้สิถึงจะไพเราะสักหน่อย!

ฟังดูแล้วไม่ได้ด้อยไปกว่ารองชนะเลิศอันดับอื่นๆ สักเท่าไหร่!

ไม่รู้ว่าทำไม

เมื่อเห็นวิธีเรียกเช่นนี้ จู่ๆ หวงตงเจิ้งก็รู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องยากที่จะยอมรับอันดับที่สี่

“พี่คือรองชนะเลิศอันดับสาม!”

หวงตงเจิ้งพิสูจน์ความจริงข้อหนึ่งอย่างลึกซึ้ง นั่นคือความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของคนเรานั้นน่ากลัวเพียงใด!

บางทีสิ่งที่เรียกว่าขีดจำกัดล่างจะถูกทำลายลงครั้งแล้วครั้งเล่า

อย่างไรก็ตามหวงตงเจิ้งไม่คิดเช่นนั้น

ผู้ที่รู้จักพอย่อมพบกับความสุข!

คนเราต้องรู้จักพอ รู้จักทะนุถนอม ไม่เช่นนั้นสิ่งที่ถืออยู่ในมือ ก็อาจเล็ดลอดหลุดมือไปได้เช่นกัน!

เขาปล่อยวางแล้ว!

หลังจากปล่อยวางได้ หวงตงเจิ้งจึงตัดสินใจไม่บล็อกข่าวสารที่เกี่ยวข้องอีกต่อไป

เขาชื่นชอบบลูเกมส์มาตั้งแต่เด็ก ไม่มีทางเลิกดูบลูเกมส์ในครั้งนี้เพียงเพราะเพลงหรอก

หวงตงเจิ้งหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา

เริ่มท่องอินเทอร์เน็ตและอ่านข่าวเกี่ยวกับศึกบลูเกมส์ของทวีปต่างๆ

หลายนาทีผ่านไป

มีเสียงเพลงดังขึ้นจากโทรศัพท์ของหวงตงเจิ้ง

“โบยบินขึ้นไป ตามหาต่อไปโดยไม่พบสิ่งใด ถ้าอยากเป็นอิสระสักครั้งต้องตัดสิ่งลวงใจนี้ให้ได้เสียก่อน ปรารถนาชีวิตที่รุ่งโรจน์ยิ่งกว่า ปรารถนาความสดใสของท้องฟ้า ฉันรู้ว่าความสุขที่เฝ้าเสาะหาอยู่บนผืนฟ้าที่สูงขึ้นไป ฉันจะ…โบยบินให้สูงยิ่งกว่า!”

อ้อ

เขาเป็นอันดับที่ห้าแล้ว

ราวกับไร้ซึ่งปฏิกิริยาตอบสนอง

หวงตงเจิ้งกดปิดโทรศัพท์มือถืออย่างเหม่อลอย

ภรรยาเพิ่งกลับมาจากจ่ายตลาดข้างนอก เมื่อเห็นหวงตงเจิ้งจึงเอ่ยว่า “ที่รัก ประเดี๋ยวคุณช่วยงานฉันอย่างหนึ่งสิคะ”

“งานอะไร”

“เมื่อเช้าลืมขัดหม้อ คุณช่วยฉันขัดหน่อย”

“ได้”

หวงตงเจิ้งลุกขึ้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ เดินไปได้เพียงสองก้าว เขาก็หันกลับมาถามภรรยา

“ผมขัดหม้อได้จริงหรือ?”

……

หวงตงเจิ้งไม่มีมุกใดเหลือให้ขุดมาเล่นอีกแล้ว

อีกฝ่ายพูดจาด้วยท่าทีเกรงอกเกรงใจออกมามากมาย ทว่าสารัตถะซึ่งกรองออกมาได้มีเพียง

อาจารย์เซี่ยนอวี๋!

ถ้ายังเค้นสมองออกมาไม่หมด พวกเราชาวฉู่ก็อยากบินได้เหมือนกัน!

“ได้ครับ”

หลินเยวียนตอบรับ

ไม่ใช่เพราะค่าตอบแทนซึ่งอีกฝ่ายสัญญาไว้นั้นมากมายอะไร ถึงแม้ค่าตอบแทนจะยั่วยวนใจ แต่ผลประโยชน์จากบลูเกมส์นั้นยั่วยวนใจยิ่งกว่า!

เขายังกอบโกยได้ไม่เพียงพอ!

จนถึงตอนนี้ ชาวฉู่ซึ่งอยู่ปลายสายคิดว่าบทสนทนาได้จบลงแล้ว แต่นึกไม่ถึงว่าจู่ๆ เซี่ยนอวี๋จะเอ่ยขึ้นว่า

“ส่งเพลงไปแล้วครับ รีบปั่นชาร์ตเพลงได้เลย”

อีกฝ่ายตกตะลึง

หลังจากวงสายด้วยความสับสน อีกฝ่ายกดเปิดอีเมลก็พบกับเพลงเพลงหนึ่ง

เพลงมีชื่อว่า ‘ก้าวข้ามความฝัน[1]’

ใช่แล้ว

เพลงนี้หลินเยวียนเตรียมไว้ล่วงหน้า นี่คือสิ่งที่ทำให้ช่วงนี้เขายุ่งงานยุ่งตัวเป็นเกลียวอยู่ในเป้ยจิง

ทุกคนบินไปพร้อมกัน!

มีเพียงหานโจวที่ตกขบวน

ฉินฉีฉู่เยี่ยนล้วนมากันหมด มีเพียงหานโจวซึ่งยังไม่มีเคาะประตู ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็มีท่าทีที่ไม่ไว้วางใจในบทเพลงชุดนี้ของตน ทั้งที่ตนยังเหลือเพลงอยู่ก็ตาม

“ออกตัวบุกเองเลยดีไหมนะ?”

หลินเยวียนกลัวว่าถ้ายังรีรอต่อไปหานโจวจะไม่มีโอกาสไต่ชาร์ตเพลง อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นโพสต์บนปู้ลั่วของทางหานโจว หลินเยวียนจึงทำได้เพียงส่ายหน้าเบาๆ

เขาไม่มีแอปพลิเคชันปู้ลั่วในโทรศัพท์

ปู้ลั่วถูกหลินเยวียนกำจัดด้วยความเคืองแค้นไปนานแล้ว และบัญชีผู้ใช้ทั้งหมดถูกยกเลิก รวมไปถึงฉู่ขวงและบัญชีของตัวตนเล็กๆ ซึ่งเพิ่งถูกใช้ไปเพียงครั้งเดียวอย่างอิ่งจือด้วย

เป็นเช่นนี้

จนกระทั่งห้านาทีผ่านไป

เพลงชื่อว่าก้าวข้ามความฝัน ก็ขึ้นไปไต่ชาร์ตเพลงบนแพลตฟอร์มฟังเพลงแต่ละแห่ง

ขณะเดียวกัน ข้อความโปรโมตของฉู่โจวก็แพร่สะพัดออกไปอย่างรวดเร็ว!

ทุกทวีปต่างตกตะลึง…

ความรู้สึกนี้เหมือนกับกำลังเล่นตุ๊กตาแม่ลูกดกของเยี่ยนโจว

ทั้งที่เปิดออกมาตั้งหลายชั้น และตุ๊กตาด้านในก็เล็กลงเรื่อยๆ ทุกครั้งที่พวกเขาคิดว่านี่เป็นชั้นสุดท้าย ผลปรากฏว่าพวกเขาต้องตกใจเมื่อพบว่าตุ๊กตาตัวนี้คล้ายกับเป็นตุ๊กตาแม่ลูกดกที่ไม่มีวันสิ้นสุด

ยังมีอีก!!!

[1] ก้าวข้ามความฝัน ขับร้องโดยวังเจิ้งเจิ้ง คำร้องโดยหานเป่าและหูเจิง ทำนองโดยหวังเสี่ยวเฟิง เผยแพร่ครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์ 1998

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน