Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 751

ตอนที่ 751 ความร้ายกาจอันน่ายินดียิ่ง

บนหน้าจอ

เรื่องราวดำเนินต่อไป

เจียงอวี้เยี่ยนเข้ามาในตระกูลเซินถูในฐานะบุตรนอกสมรส ทว่าสิ่งที่รอนางอยู่กลับหาใช่เสื้อผ้าอาภรณ์และภักษาหารชั้นเลิศ หรือเกียรติยศและความมั่งคั่ง หากแต่เป็นความอัปยศอดสูของการตกเป็นทาสรับใช้…

ซักเสื้อผ้า

ล้างจาน

ทำอาหาร

กว่าจะได้อาหารกลางวันมาแสนยากเย็น ปรากฏว่าบ่าวรับใช้จอมโหดข้างกายนายหญิงกลับโยนชามบะหมี่เป ล่าลงบนพื้น และสายตามองลงมาที่นางซึ่งเอื้อมมือไปคว้าบะหมี่บนพื้นมากิน ว่ากันว่าสุภาพชนไม่รับอาหารจากโจร แต่นี่เป็นอาหารเพียงมื้อเดียวของนางตลอดทั้งวัน หากนางไม่กินเพียงเพื่อสิ่งที่เรียกว่าศักดิ์ศรี นางอาจอดตายได้

……

ลงโทษด้วยการคุกเข่า

ปล่อยให้หิวโหย

เนื่องด้วยความผิด นางถึงขั้นถูกนายหญิงจับขังในเล้าหมู ทนทุกข์กับความอับอายและการหัวเราะเยาะเย้ย อย่างไรก็ตาม เจียงอวี้เยี่ยนซึ่งอ้อนแอ้นอ่อนแอแต่กำเนิดนั้นไม่กล้าต่อต้านแม้แต่น้อย ความดื้อดึงเพียงข้อเดียวของนางคือการขอให้เซินถูไห่ผู้เป็นบิดา สร้างป้ายวิญญาณในศาลบรรพชนให้แก่มารดาของนาง

เซินถูไห่รับปาก

แต่ถึงกระนั้น เมื่อนายหญิงล่วงรู้เรื่องนี้เข้า กลับโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ โยนป้ายวิญญาณลงเบื้องหน้าของเจียงอวี้เยี่ยน พร้อมทั้งสั่งให้เจียงอวี้เยี่ยนผ่าป้ายวิญญาณของมารดาออกเป็นสองซีก

เจียงอวี้เยี่ยนคุกเข่าบนพื้น

ไม่ว่าจะอ้อนวอนขอความเมตตาเพียงใดก็ไร้ผล นางก้มหน้าลง น้ำตาหลั่งริน บิดายืนอยู่หน้าประตูไม่เอื้อนเอ่ยวาจาใด ในเวลานี้นางสาบานในใจว่า “เซินถูไห่ นางหลิว ความอัปยศในวันนี้ อวี้เยี่ยนจะไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต”

มีลมพัดมา

นางยกมีดขึ้นทันใด ผ่าป้ายวิญญาณของมารดาตนเองออกเป็นสองส่วน ฉากหมุนรอบตัวนางอย่างฉับพลัน เมื่อใบหน้าของนางปรากฏต่อหน้ากล้องในระยะใกล้ ดวงตากลมโตซึ่งเคยน่าสงสารกลับเอ่อท้นด้วยทุกข์ระทมและสิ้นหวังสลักลึกลงในใจ!

……

เนื้อเรื่องหนึ่งตอนใช้เวลาออกอากาศเกือบหนึ่งชั่วโมงเต็มๆ ทั้งหมดล้วนบรรยายเรื่องราวของเจียงอวี้เยี่ยน และในขณะนี้ผู้ชมโกรธจนตัวสั่น แทบอยากกระโจนเข้าไปในโทรทัศน์เพื่อฆ่าวายร้ายให้รู้แล้วรู้รอด!

‘อห แม่เจ้าโว้ย!’

‘ภรรยาของเซินถูไห่น่าขยะแขยงจริงๆ ถ้าผมเป็นเจียงอวี้เยี่ยนผมจะหยิบมีดขึ้นมาฆ่าแม่เลี้ยงเลย จะได้ตายกันไปข้างหนึ่ง!’

‘สงสารเจียงอวี้เยี่ยนมาก!’

‘เจียงอวี้เยี่ยนโหดมาก!’

‘ดูแล้วปวดใจมาก เซินถูไห่นี่มันไร้ประโยชน์ เป็นขยะชั้นดีในบรรดาวายร้าย ลูกสาวตัวเองถูกรังแกขนาดนี้ยังไม่กล้าพูดสักแอะ ไม่มีศักดิ์ศรีในฐานะลูกผู้ชายเลยสักนิด!’

‘เจียงอวี้เยี่ยนจะร้ายแล้ว!’

‘นักแสดงคนนี้ฝีมือก็สุดยอดมาก แววตาในตอนสุดท้ายน่าทึ่งจริงๆ เธอควรต่อต้านมาตั้งแต่แรกแล้ว ถ้าอ่อนแอก็มีแต่ถูกรังแก ฉันขอร้องละเจียงอวี้เยี่ยนร้ายสักทีเถอะ!’

……

ในบ้าน

หลินเซวียนก็โมโหจนควันออกหู หลังจากดูหนึ่งตอนจบลงไป ลำพังความอับอายสารพัดรูปแบบซึ่งเจียงอวี้เยี่ยนได้รับจากสกุลเซินถู บ่าวรับใช้ซึ่งมีหน้าที่กวาดพื้นยังกล้าล้อเลียนนางต่อหน้าด้วยซ้ำไป

“สารเลว!”

น้องสาวก่นด่า

แม้ชำเลืองมองต้าเหยาๆ สุดท้ายกลับไม่ได้ตำหนิที่ลูกสาวคนเล็กพูกคำด่าออกมา เธอเองก็โกรธจนอยากพนคำสบถออกมาเช่นกัน ตัวร้ายพวกนี้เลวจริงๆ พวกนางกำลังบีบบังคับให้เจียงอวี้เยี่ยนไปตายไม่ใช่หรือไง?

“เธอก็ด่าคนเป็นเหมือนกันเหรอ?”

หลินเซวียนมองน้องสาวด้วยสายตาประหลาดใจ ก่อนจะปรบมือเอ่ยชมเชย “ด่าได้ดี ตัวร้ายพวกนี้ไม่มีอะไรดี ฉากสุดท้ายน่าจะบอกใบ้ว่าเจียงอวี้เยี่ยนร้ายขึ้นมาแล้วใช่ไหม?”

“ชัดเจนมาก”

แม่มองไปยังแววตาที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงของเจียงอวี้เยี่ยนในโทรทัศน์ ฝีมือการแสดงของนักแสดงคนนี้ยอดเยี่ยมมาก เธอสัมผัสได้ถึงความเกลียดชังและอาฆาตพยาบาทในดวงตาคู่นั้น แม้จะมองผ่านหน้าจอก็ตาม

ไม่รู้ว่าทำไม

เมื่อเจียงอวี้เยี่ยนแสดงแววตานี้ ผู้ชมนับไม่ถ้วนรู้สึกหนาวสั่นถึงสันหลัง แต่กลับรู้ถึงความคาดหวังที่ไม่อาจบรรยายได้!

ต้องเข้าใจว่า!

ปกติเมื่อดูซีรีส์ สิ่งที่ทุกคนกลัวที่สุดคือเมื่อตัวละครร้ายขึ้นระหว่างทาง ทว่าเจียงอวี้เยี่ยนกลับเป็นข้อยกเว้น เพราะทุกคนถึงขั้นคาดหวังให้เจียงอวี้เยี่ยนร้ายขึ้นมา!

……

ฉากที่เจียงอวี้เยี่ยนร้ายขึ้นมานั้นสั้นมาก ทว่าเป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงในแววตาของนาง ทว่าหลังจากเธอเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคร ทิ้งภาพจำอันลึกซึ้งให้กับผู้ชม เพียงแต่นั่นก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่านางไร้พลัง

ตอนที่ 14 ออกอากาศ

เจียงอวี้เยี่ยนถูกนายหญิงขายให้หอคณิกา เห็นได้ชัดว่านางถูกทรมานต่อไปเรื่อยๆ หญิงสาวที่งามพริ้งเพราเช่นนี้ ขุนนางและชนชั้นสูงจึงอยากเชยชม แม้แต่แม่เล้าหอนางโลมจะไม่มองว่านางเป็นมนุษย์ด้วยซ้ำไป!

นางหนีออกจากห้อง

บ่าวในหอคณิกาไล่ตามนางไป เมื่ออับจนหนทาง นางตัดสินใจใช้ปิ่นปักผมซึ่งมารดามอบให้ปลิดชีพตนเอง ทว่าชั่วขณะนั้นฉินเทียนเกอซึ่งเป็นหนึ่งในตัวเอกชายก็กระโดดลงมาจากฟ้า และต่อสู้กับกำลังพลที่สามมาประหนึ่งวีรบุรุษช่วยเหลือโฉมงาม

“ชายคนนี้…”

ทันใดนั้นเจียงอวี้เยี่ยนไม่อยากตายอีกต่อไป

เธอหลงรักชายหนุ่มคนนี้

เมื่อกลับมาถึงเรือนสกุลเซินถู เจียงอวี้เยี่ยนวางตนต้อยต่ำและอ้อนวอนขอความคุ้มครองจากบิดา ทว่าสุดท้ายแล้วบิดาทำใจดีสู้เสืออย่างหาได้น้อยครั้งนัก และไม่ยอมให้นางกลับไปยังหอคณิกาอีก เพียงแต่เจียงอวี้เยี่ยนรู้อยู่เต็มอก ว่าบิดาคนนี้ทำเช่นนี้เพื่อชื่อเสียงของตนเอง

สามวันผ่านไป

ราชสำนักคัดเลือกสาวงามเข้าวัง คุณหนูใหญ่สกุลเซินถูก็เข้าร่วมเช่นกัน คุณหนูใหญ่สกุลเซินถูคือบุตรีที่นายหญิงให้กำเนิด นับว่าเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในสกุลเซินถูซึ่งดีต่อเจียงอวี้เยี่ยน อย่างไรก็ตาม ในคืนเดือนแรมลมโหมกระหน่ำ เจียงอวี้เยี่ยนกลับหยิบกริชขึ้นมาสังหารพี่สาวด้วยมือตนเอง นางต้องการเข้าแทนที่ในการร่วมคัดเลือกสนมในวังหลวง!

ในราตรีอันมืดมิด

แสงเทียนวูบวาบ เงาคนลุกโชน หญิงสาวซึ่งครั้งหนึ่งเคยอ่อนโยนประดุจดอกไม้ขาวดอกเล็กนั้นไม่มีอยู่อีกต่อไป และถูกแทนที่ด้วยหญิงสาวผู้พยาบาทซึ่งได้ดับมโนธรรมดวงสุดท้ายของตนไปเสียแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน