ตอนที่ 767 นี่มันภาพยนตร์เชิงศิลปะ (2)
……….
บนหน้าจอขนาดยักษ์
ไฮยีนาไม่สามารถโจมตีพายซึ่งอยู่ที่หัวเรือได้ มันจึงหันไปกัดม้าลาย!
“ไม่นะ!”
พายผูกพันกับสัตว์มาตั้งแต่เด็ก เมื่อเห็นฉากนี้ก็ดวงตาแดงก่ำขึ้นมาทันที ส่วนลิงอุรังอุตังชื่อว่าเฉิงจือก็ตะบี้จะบันทุบตีไฮยีนาเพื่อปกป้องม้าลาย
ทันทีเสียงร้องดังขึ้น ม้าลายก็ถูกไฮยีนากัดตาย
ขณะเดียวกัน
ไฮยีนาก็ถูกลิงอุรังอุตังทุบตีจนหมดสติไป
อย่างไรก็ตาม
ไฮยีนาหมดสติไปได้เพียงไม่กี่นาที ก็ฟื้นขึ้นมาและเริ่มกัดลิงอุรังอุตัง!
ลิงอุรังอุตังตายเช่นกัน
ผู้ชมกังวลใจเหลือเกิน
ไฮยีนาตัวนี้โหดร้ายมาก!
ในเวลานั้นเอง
เสียงคำรามดังขึ้น
เสือตัวนั้นซึ่งมีชื่อว่าปาร์คเกอร์กระโจนออกมา ขย้ำไฮยีนาในครั้งเดียวจนตาย ก่อนจะหันไปหาพาย!
พายรีบถอยกลับไป
เสือไม่สามารถทำได้ดังใจ จึงคำรามใส่พาย ผู้ชมถูกคำรามใส่จนขนลุกซู่เช่นกัน!
รูปแบบการอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิดหมดไป!
ม้าลาย ลิงอุรังอุตัง และไฮยีนาตายไปหมดแล้ว!
บนเรือเหลือเพียงเสือและพายซึ่งเป็นตัวเอก!
ชีวิตอัศจรรย์ของพาย เริ่มต้นขึ้นอย่างแท้จริงในวินาทีนี้เอง!
……
ดวงตาของผู้ชมเบิกกว้าง ถูกเรื่องราวดึงดูดโดยสมบูรณ์!
ความโหดร้ายของการเอาชีวิตรอดในความเวิ้งว้างได้ปรากฏแก่สายตาของผู้ชมอย่างแจ่มชัด!
ไม่มีการแก้ไขปัญหาที่น่าทึ่ง ตัวเอกไม่ได้ฝึกไฮยีนาและเสือให้เชื่อง จากนั้นจึงดิ้นรนเอาชีวิตรอดไปพร้อมกับสัตว์ต่างๆ มีเพียงกฎเกณฑ์อันโหดร้าย ซึ่งผู้แข็งแกร่งจะล่าผู้ที่อ่อนแอกว่า!
ไฮยีนาหิวโหย!
มันกินคนไม่ได้!
เพราะฉะนั้นมันจึงคิดจะกินม้าลายและลิงอุรังอุตัง!
เสือก็หิวเช่นกัน ดังนั้นมันจึงกัดไฮยีนาตาย!
“เสือไม่ได้มีความรู้สึก ไม่ว่าจะเป็นไฮยีนา ลิงอุรังอุตัง หรือม้าลายล้วนกลายเป็ นอาหารของมัน พายเองก็เป็นอาหารสำรองเหมือนกัน กินสัตว์หมดเมื่อไหร่ มันจะหาวิธีกินคน!”
“ตอนเด็กๆ พายเชื่อมาตลอดว่าสัตว์มีความรู้สึก”
“บอกไม่ได้ว่าสัตว์ป่าพวกนี้มีความรู้สึกหรือเปล่า แต่การเอาตัวรอดในทะเลมีความโหดร้ายเป็นปกติ เสือกินสัตว์อื่นเพื่อความอยู่รอดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ด้านหน้ามีการปูเรื่องมาตั้งสามสิบนาทีแล้ว พ่อของพายพูดถูกว่าสัตว์ก็เป็นสัตว์วันยันย่ำ ส่วนมนุษย์ก็มีกฎเกณฑ์ของมนุษย์ ดังนั้งเมื่อสัตว์หิวจึงกินสัตว์อื่นเป็นอาหาร แต่เมื่อมนุษย์หิวจะไม่กินมนุษย์ด้วยกันเอง”
“อยากรู้เรื่องหลังจากนี้มาก พายจะสู้กับเสือยังไง”
“ในข้อความโปรโมตบอกว่าพายจะอยู่ร่วมกับเสือเกินสองร้อยวัน สองร้อยกว่าวันนี้เสือจะไม่กินเขาจนเหลือแต่กระดูกเลยหรือ?”
“สาวน้อย รู้จักพลังของตัวเอกไหม”
“ดูต่อจากนี้ดีกว่า เซี่ยนอวี๋จะอธิบายเรื่องราวให้สมเหตุสมผลได้ยังไง”
“…”
ตอนนี้ผู้ชมกำลังรับชมอย่างเพลิดเพลินใจ ผ่านการเกริ่นเรื่องอันแสนน่าเบื่อเมื่อครึ่งชั่วโมงแรกไป โครงเรื่องในตอนนี้นับว่าน่าสนใจมาก และความคาดหวังที่มีต่อโครงเรื่องก็ยังแข็งแกร่งมาก
มนุษย์และเสืออยู่ร่วมกับเสือสองร้อยกว่าวันได้อย่างไร
ในใจของทุกคนเกิดความสงสัยครั้งใหญ่
……
ขณะที่ภาพยนตร์กำลังฉาย อันซวี่ก็กำลังขบคิด แต่เขาคิดมากกว่าผู้ชมทั่วไป!
เขาไม่ใช่คนโง่เขลา!
รับชมภาพยนตร์มาประมาณหนึ่งชั่วโมงแล้ว ถ้ายังคิดว่านี่คือภาพยนตร์เชิงพาณิชย์อีก จะต้องโง่บรมขนาดไหนกัน!
ไม่ใช่ว่าอันซวี่ตอบสนองช้า
อันที่จริง การเกริ่นเรื่องอันน่าเบื่อในช่วงสามสิบนาทีแรกทำให้อันซวี่ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับภาพยนตร์เรื่องนี้
เขาได้กลิ่นบางอย่าง!
กลิ่นของภาพยนตร์เชิงศิลปะ!
ภาพยนตร์เชิงศิลปะ?
เงินลงทุนนับร้อยล้าน มาตรฐานการถ่ายทำระดับสูงสุด แต่เซี่ยนอวี๋กลับสร้างออกมาเป็นภาพยนตร์เชิงศิลปะเนี่ยนะ
อันซวี่รู้สึกว่าความเข้าใจที่เขามีต่อภาพยนตร์เชิงศิลปะถูกโจมตีอย่างรุนแรง!
นี่คือเหตุผลที่อันซวี่ไม่กล้าฟันธงในตอนนี้!
ต้องกล้าหาญขนาดไหนถึงกล้าเล่นแบบนี้!
ทุ่มเงินหลายร้อยล้าน เพื่อเดิมพันกับการทำกำไรของภาพยนตร์เชิงศิลปะ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน