อ่านสรุป ตอนที่ 802 ฉู่ขวงเขียนเรื่องไหนกันแน่ จาก Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน โดย Internet
บทที่ ตอนที่ 802 ฉู่ขวงเขียนเรื่องไหนกันแน่ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายการเงิน Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ตอนที่ 802 ฉู่ขวงเขียนเรื่องไหนกันแน่
ก่อนหน้านี้หลายคนคาดเดาด้วยจิตใจอันหาญกล้าว่าผลงานสามเรื่องก่อนหน้าที่ของบล็อกนั้นมาจากปลายปากกาของเซี่ยนอวี๋
อย่างไรก็ตาม
เมื่อผลงานอีกสี่ชิ้นซึ่งไม่ได้เป็นสองรองจากผลงานของสามเรื่องแรก จึงไม่มีใครกล้าคาดเดาเช่นนี้อีก ชาวเน็ตต่างรู้สึกว่าความเข้าใจที่พวกเขามีต่อเรื่องสั้นนั้นถูกทำลายลงเสียแล้ว
ผลงานระดับสุดยอดทั้งเจ็ดเรื่อง!
จะเป็นเรื่องที่ฉู่ขวงเขียนทั้งหมดก็คงไม่ได้ล่ะมั้ง!
บล็อกจะต้องแอบเชิญกองหนุนจากภายนอกมาอย่างแน่นอน!
นอกจากนั้นยังไม่ได้เชิญมาแค่คนเดียว!
ใช่แล้ว
ชาวเน็ตทยอยอ่านนิยายอีกสี่เรื่องจบแล้ว!
หลังจากอ่านผลงานซึ่งบล็อกโพสต์ติดต่อกันทั้งสี่เรื่อง ผู้อ่านทุกคนต่างตกตะลึงเป็นอย่างมาก!
……
เรื่องสั้นเรื่องแรกจุดกระแสความบ้าคลั่งก็คือ ‘มหาเศรษฐี[1]’ เพราะนี่เป็นเรื่องแรกที่ปล่อยออกมาในบรรดาเรื่องสั้นทั้งสี่เรื่อง
ในแง่ของลำดับ ผลงานเรื่องนี้แทบจะปล่อยมาตรงกับคนตีระฆังเลย!
อย่าลืมว่าผลงานซึ่งมีชื่อว่า ‘คนตีระฆัง’ นี้ ถูกชาวเน็ตนับไม่ถ้วนเชื่อว่าเป็นผลงานของเฟยหงซึ่งเป็นหนึ่งในสามอาชาไนยแห่งฉินโจว!
อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้อ่านกลุ่มแรกอ่าน ‘มหาเศรษฐี’ จบ พื้นที่แสดงความคิดเห็นก็ระเบิดขึ้นมาทันตาเห็น~
‘แม่เจ้า!’
‘ตะลึงมาก!’
‘ทำไมถึงมีผลงานระดับนี้โผล่ออกมาอีกแล้วล่ะ!’
‘ผมคิดว่าปู้ลั่วเอาชนะรอบนี้ได้เพราะเฟยหง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าใครแพ้ใครชนะจะบอกไมได้ง่ายๆ แล้ว!’
‘ใช่เรื่องตลกเพื่อเสียดสี เหนือชั้นสุดๆ !’
‘การบูชาเงินทองในสังคมทุนนิยมถูกถ่ายทอดออกมาอย่างชัดเจนในเรื่องนี้!’
‘นี่เป็นผลงานของยอดฝีมือคนไหนอีกเนี่ย!’
เรื่องสั้นเรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของคนรวยสองคนซึ่งอยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคนจนหลังจากที่เขาได้รับธนบัตรมูลค่ามหาศาลไป ปรากฏว่าสิ่งที่เหนือความคาดหมายของคนรวยทั้งสองคือ ผู้คนพยายามอย่างเต็มที่ที่จะพิชิตใจคนจนซึ่งรวยขึ้นมาอย่างกะทันหัน ไม่ว่าจะกินฟรี ซื้อเสื้อผ้าฟรี ตลอดจนที่พักฟรี ใครๆ ก็เข้าไปพะเน้าพะนอเขาประหนึ่งขอทาน พร้อมทั้งยกระดับสถานะทางสังคมของเขาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ชายหนุ่มผู้โชคดียังแต่งงานกับภรรยาที่ดี มีดอกเบี้ยในธนาคารที่สูงลิบ และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขนับตั้งแต่นั้นมา!
ทั้งตลก ทั้งเสียดสี ผลงาน ชิ้นนี้ได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลาม!
……
ผลงานเรื่องที่สองซึ่งระเบิดความบ้าคลั่งของผู้อ่านคือ ‘ชายในคดี[2]’!
ตัวเอกเป็นคนแปลกพิลึก เขาสวมรองเท้าบูตกันฝนและกางร่มในวันที่ท้องฟ้าสดใส บนเตียงมีมุ้ง เขามักจะเก็บทุกอย่างไว้ภายใต้สิ่งปกคลุม และกังวลราวกับเป็นคนประสาทเสียว่าตนเองจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น มีคนพยายามหาคู่ให้เขา แต่ทันทีที่นึกถึงการแต่งงาน เขาก็อดไม่ได้ที่จะครุ่นคิดถึงภาระและความรับผิดชอบที่ตามมา จนภายหลังการแต่งงานล้มเหลว เขาจึงเริ่มกลัวว่าผู้คนจะหัวเราะเยาะเขา จนสุดท้ายจึงเป็นโรคซึมเศร้าและจากโลกนี้ไป
‘สุดยอด!’
‘เรื่องนี้ให้แง่คิดดีมาก!’
‘ฉันเห็นเงาของตัวเองจากตัวเอก มุมมองในการใช้ชีวิตของเขามีแต่ด้านลบมากเกินไป เขามักจะนึกถึงเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเสมอ สุดท้ายเขาจึงพลาดโอกาสไปนับไม่ถ้วน ผู้เขียนทำให้ฉันตระหนักถึงข้อบกพร่องของตัวเองด้วยวิธีที่เกินจริงที่สุด!’
‘ออกแบบบตัวละครได้เกินจริงและสมเหตุสมผลในเวลาเดียวกัน!’
‘สรุปว่าบล็อกจ้างยอดฝีมือมากี่คน!’
‘เทียบกับเรื่องก่อนหน้านี้ ระดับของเรื่องนี้ไม่ได้ลดลงเลย!’
‘ถึงว่าสิ บล็อกถึงมีท่าทีแข็งกร้าวขนาดนั้น พวกเขาต้องเชิญปีศาจที่ฝีมือไม่ได้ด้อยไปกว่าฉู่ขวงมาออกโรงหลายคนแน่เลย!’
……
หลังจากอ่านเรื่องที่สองจบ ชาวเน็ตคลิกเรื่อง ‘ตำรวจกับบทเพลงสรรเสริญ’ อย่างอดใจรอไม่ไหว!
นี่คือเรื่องที่ทำให้ผู้คนระเบิดหัวเราะ เพราะตัวเอกทนใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกไม่ไหว อยากเข้า คุกกินข้าวฟรี มีที่อยู่ฟรี แต่ไม่ว่าเขาจะทำความผิดอย่างไร ตำรวจก็ปฏิเสธที่จะจับเขาไป แต่ขณะที่เขากำลังซาบซึ้งกับบทเพลงสรรเสริญและเตรียมตัวจะเริ่มต้นใช้ชีวิตอีกครั้ง กลับถูกตำรวจจับด้วยข้อหาที่ชวนให้ผู้คนกลั้นขำไม่อยู่
‘โอ๊ยยย!’
‘ขำปอดโยก!’
‘เรื่องนี้ต ลกกว่ามหาเศรษฐีอีก แถมยังเต็มไปด้วยการเสียดสีเหมือนกันด้วย!’
‘จะต้องเป็นฝีมือระดับปรมาจารย์อย่างแน่นอน!’
‘ตั้งแต่ต้นจนจบมีแต่การเสียดสี ฉันคิดถึงตอนจบอยู่ตลอด ว่าทำไมตำรวจถึงไม่จับคนที่ก่อเรื่องไปมา บางทีที่อาจสะท้อนถึงการไร้ความสามารถและน่าขันของตำรวจในสังคมตอนนั้นก็ได้!’
‘เรื่องนี้น่าสนใจมาก!’
‘คนเขียนเรื่องนี้ก็เป็นยอดฝีมือ และเป็นยอดฝีมือด้านการเขียนเรื่องสั้นด้วย!’
‘นี่เป็นใครอีกล่ะ!’
……
ครั้งนี้บล็อกเผยแพร่ผลงานสี่เรื่องติดต่อกัน และคุณภาพของสามเรื่องที่ผ่านมาก็ทำให้ผู้อ่านพึงพอใจอย่างยิ่ง!
เรื่องที่สี่ก็ไม่ทำให้ผู้อ่านผิดหวังเช่นเดียวกัน!
เรื่องสั้นเรื่องนี้มีชื่อว่า ‘อาจูลส์ของผม[3]’
อันที่จริงแนวคิดหลักของเรื่องคือธรรมชาติของมนุษย์ เมื่อครอบครัวของตัวเอกได้ยินว่าอาของเขาทำเงินได้มากมาย พวกเขาจึงยกย่องอาจูลส์ และชื่นชมราวกับว่าอาจูลส์เป็นดอกไม้ที่เบ่งบาน แต่เมื่อบังเอิญเจอกับอาจูลส์ และพบว่าเขากำลังยากจนข้นแค้น ท่าทีจึงเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ และเริ่มดูถูกอาจูลส์ต่างๆ นานา…
‘เป็นเรื่องที่ทำให้รู้สึกสะท้อนใจ!’
‘ยามตกยาก แม้ในโลกที่วุ่นวายก็ไม่มีใครมาเหลียวแล ยามมั่งมี แม้อยู่ในหุบเขาลึก ก็ยังมีญาติห่างไกลตามไปเยี่ยม!’
‘อ่านเรื่องนี้แล้วอยากกินหอยนางรม!’
‘โลกนี้ช่างน่าขัน ความเป็นจริงช่างอัศจรรย์ คุณอาจคิดว่านี่เป็นการเสียดสี แต่แท้จริงแล้วมันคือความจริง!’
‘ตอนมีเงินเป็นอา ตอนไม่มีเงินเป็นคนแปลกหน้า พ่อแม่พวกนี้ไม่คิดว่าค่านิยมของตัวเองจะมีผลประทบกับลูกขนาดไหน อย่างน้อยก็ให้เด็กกินหอยนางรมสักคำก็ได้!’
‘สำหรับฉันเรื่องนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าบอลไขแพะ!’
‘ในเจ็ดเรื่องนี้ ต่อให้สุ่มหยิบขึ้นมาสักเรื่องหนึ่งก็ไม่มีเรื่องที่ด้อยกว่าผลงานของเฝิงหวากับเฟยหงเลย!’
‘บ้าไปแล้ว ทำไมบล็อกถึงมีผลงานดีๆ เยอะขนาดนี้ พวกเขาดึงเอายอดฝีมือในวงการเรื่องสั้นที่ยังไม่ได้ร่วมงานกับปู้ลั่วไปร่วมทัพแล้วหรือ?’
……
เรื่องสั้นระดับสุดยอดเจ็ดเรื่อง!
เรื่องราวซึ่งชวนให้ผู้คนต้องตกตะลึง
ผลงานทั้งเจ็ดซึ่งบล็อกเปิดตัวไปนี้ทำให้วงการเรื่องสั้นเกิดการกลับตาลปัตรและโกลาหลไปหมด!
ทางปู้ลั่ว
บรรดานักเขียนเรื่องสั้นระดับมืออาชีพต่างไม่รู้แล้วว่าจะสรรหาคำใดมาบรรยายความตกตะลึงในใจ!
“โผล่มาจากไหนกันฟระเนี่ย!”
“ผลงานระดับสูงเจ็ดเรื่อง บล็อกไปเชิญปีศาจแบบนี้มาจากไหนกัน!”
“ฉันทำไม่ได้เลยสักเรื่อง!”
“ไหนบอกว่าบล็อกมีแค่ฉู่ขวงคนเดียวที่ลงมือได้ไง ตอนนี้ผมบอกไม่ได้เลยว่าฉู่ขวงเขียนเรื่องไหน ทุกเรื่องเป็นผลงานระดับคลาสสิกอย่างแท้จริง!”
‘ไม่ใช่ผม!’
‘จะพูดจาซี้ซั้วไม่ได้นะ!’
‘ก่อนหน้านี้ผมก็บอกพวกคุณสองคนไปแล้ว ว่าไม่มีแรงบันดาลใจ!’
‘พวกเราเพิ่งคุยกันว่าเรื่องสั้นเจ็ดเรื่องของบล็อก เป็นของยอดฝีมือท่านไหนกันกันแน่’
‘เรื่องสั้นเจ็ดเรื่องนี้น่าทึ่งจริงๆ สองเรื่องในนั้นทำให้ฉันรู้สึกละอายใจมาก!’
‘บ้าจริง พวกเพี้ยนโผล่มาจากไหนเยอะแยะขนาดนี้ ตอนนี้แฟนคลับหลายคนถามว่าผมแอบไปช่วยบล็อกหรือเปล่า แถมยังบอกว่าเรื่องบอลไขแพะเป็นของผม ถ้าผมเขียนได้คงหัวเราะจนตื่นจากฝันเลยละ!’
‘ที่ผมอยากรู้ก็คือ ฉู่ขวงเขียนเรื่องไหนกันแน่’
‘…’
นักเขียนทางปู้ลั่วล้วนตกตะลึง
“ไม่ใช่พวกคุณ?”
เรื่องสั้นคลาสสิกทั้งเจ็ดเรื่องโผล่มากลางอากาศหรือย่างไร?
เฝิงหวาและเฟยหงสับสนเช่นกัน
ในฐานะนักเขียนเรื่องสั้นชั้นนำ ทั้งสองรู้จักนิสัยของคนเหล่านี้ค่อนข้างดี
เมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้ ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะปฏิเสธ แต่กลับถูกสงสัยว่าดูแคลนพวกเขาทั้งสองอีก
แต่ถ้าไม่ใช่พวกเขา แล้วจะเป็นใครอีก?
หรือว่าในวงการจะมีดาวรุ่งกลุ่มใหม่โผล่มาอีก?
อย่ามาล้อเล่น!
ชั้นเชิงที่ปรากฏผ่านเรื่องสั้นทั้งเจ็ดเรื่อง จะมาจากปลายปากกาของเด็กใหม่ได้อย่างไร
สามนาทีผ่านไป
เฟยหงพูดคุยกับเฝิงหวาเป็นการส่วนตัว “ผมโทรหาทีละคนเพื่อยืนยันแล้ว ไม่ใช่พวกเขาจริงๆ ”
เฝิงหวาสะดุ้งโหยง ตอบกลับไปตามสัญชาตญาณ “ถ้าไม่ใช่พวกเขา หรือว่าผลงานทั้งเจ็ดเรื่อง ฉู่ขวงจะเป็นคนเขียนทั้งหมด”
เอ๊ะ?
เอ๊ะๆๆ ?
หลังจากตอบกลับ จู่ๆ เปลือกตาของเฝิงหวาก็กระตุกตุบๆ
ขณะเดียวกัน
เฟยหงซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ดูเหมือนจะกระจ่างขึ้นมาเช่นกัน รอยย่นรอบริมฝีปากของเขาสั่นเล็กน้อย
เฟยหง ‘คงไม่ใช่…’
เฝิงหวา ‘…ล่ะมั้ง?’
เฟยหง ‘…’
เฝิงหวา ‘…’
ในช่องแช็ต ทั้งสองต่างคนต่างส่งจุดไข่ปลาหากัน
[1] มหาเศรษฐี หรือ ธนบัตรล้านปอนด์ (The Million Pound Bank Note) โดยมาร์ค ทเวน นักเขียนชาวอเมริกัน เผยแพร่ในปีค.ศ.1893
[2] ชายในคดี (The Man in the Case) โดยอันตอน เชคอฟ นักเขียนชาวรัสเซีย เผยแพร่ในปีค.ศ.1898
[3] อาจูลส์ของผม (Mon Oncle Jules) หรือ My Uncle Jules โดยกีย์ เดอ โมปัสซองต์ เผยแพร่ในปีค.ศ.1883 เรื่องราวเกี่ยวกับโจเซฟซึ่งนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตและเล่าย้อนถึงเรื่องราวของอาจูลส์น้องชายของพ่อ ซึ่งย้ายจากเมืองเลออาฟวร์ไปตั้งถิ่นฐานในนิวยอร์ก ขณะที่ครอบครัวของโจเซฟในเวลานั้นค่อนข้างขัดสน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอน 837-839 ไม่มีข้อความเลยครับ...