ตอนที่ 904 ฉู่ขวงดีขึ้นแล้ว
วันถัดมา!
ข่าวแพร่สะพัดไปทุกที่!
[ตัวอย่างซีรีส์ต้นแบบแห่งวงการกำลังภายใน: มังกรหยก!]
[มังกรหยกครองแชมป์เรตติงช่วงค่ำในดินแดนทั้งหกแห่งฉิน ฉี ฉู่ เยี่ยน หาน และจ้าว!]
[ยุคทองแห่งซีรีส์กำลังภายในเริ่มต้นแล้ว!]
[พิชิตพยัคฆ์พ่ายมังกรหยก ปู้ลั่วพ่ายแพ้สตาร์ไลท์ยับเยิน!]
[ผู้กำกับมังกรหยกให้สัมภาษณ์พิเศษ: คนที่มีความดีความชอบมากที่สุดคือฉู่ขวง รองลงมาก็คือตัวผมเอง หลายคนบอกว่าผมดังเพราะทำซีรีส์สายหดหู่ แต่ซีรีส์เรื่องนี้จะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า ถึงจะไม่ทำร้ายติดใจผู้ชม ผมก็สร้างซีรีส์คุณภาพได้!]
[สิบปีผ่านไป วรรณกรรมกำลังภายในกลับมาผงาดอีกครั้ง!]
ท่ามกลางความตกตะลึงของผู้คนจำนวนมาก ซีรีส์มังกรหยกก็ทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุด!
สิ่งที่ทำให้เหตุการณ์นี้น่าตกตะลึงไม่ใช่เพียงเพราะซีรีส์เรื่องนี้คว้าแชมป์เรตติงเท่านั้น…
ที่น่าตกใจที่สุดก็คือ…
นี่คือซีรีส์กำลังภายใน!
แม้ว่าซีรีส์กำลังภายในจะยังคงมีผู้ชมกลุ่มหนึ่งติดตามอยู่เสมอ
แม้ว่าความนิยมในวรรณกรรมกำลังภายในจะทำให้จำนวนแฟนคลับเพิ่มขึ้น
แม้ว่าบริษัทผลิตสื่อใหญ่ๆ ต่างยังคงมองตลาดซีรีส์กำลังภายในด้วยความหวัง
แต่การที่ซีรีส์กำลังภายในสามารถคว้าอันดับหนึ่งในช่วงเวลาที่มีผู้ชมมากที่สุดในหกทวีปนั้น เป็นสิ่งที่ไม่มีบริษัทใดกล้าคิดฝันถึง ยิ่งไปกว่านั้น ซีรีส์เรื่องนี้ยังเอาชนะคู่แข่งจากฉีโจวได้อีกด้วย!
กำลังภายในคืนชีพ!
ซีรีส์กำลังภายในอย่างมังกรหยก สามารถครองเรตติงอันดับหนึ่งได้สำเร็จ ถ้านี่ไม่ใช่การคืนชีพของกำลังภายในแล้วจะเรียกว่าอะไร?
เข้าใจแล้ว!
ทำซีรีส์กำลังภายใน!
ได้กำไรแน่นอน!
ในเวลานี้ บรรดาบริษัทผลิตภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ต่างหันมาให้ความสำคัญกับตลาดซีรีส์กำลังภายในมากยิ่งขึ้น
…
มังกรหยกดังระเบิด!
แต่หลิ่วเยี่ยเตาก็ดังด้วย!
พูดแบบนี้อาจดูแปลกไปสักหน่อย แต่ถ้าจะพูดให้ชัดเจนขึ้นก็คือ
คำพูดของหลิ่วเยี่ยเตาต่างหากที่โด่งดัง!
ในช่วงที่มังกรหยกถูกนำไปเปรียบเทียบกับพิชิตพยัคฆ์ หลิ่วเยี่ยเตาเคยกล่าวไว้ในงานแถลงข่าวว่า
“ผมกับฉู่ขวงสูสีห้าสิบห้าสิบ”
คำพูดนี้ตอนนี้กลายเป็นคำพูดยอดฮิตในโลกออนไลน์ไปแล้ว!
ถึงขั้นมีชาวเน็ตจอมกวนหลายคนบุกไปถล่มพื้นที่แสดงความคิดเห็นของหลิ่วเยี่ยเตาในปู้ลั่ว พร้อมกับเรียกเขาว่า ‘สูสีห้าสิบห้าสิบ!’ บางคนถึงกับไม่เรียกเขาว่า ‘สูสีห้าสิบห้าสิบ’ อีกต่อไป แต่กลับเรียกตรงๆ ว่า ‘พี่สูสี’
เมื่อหลิ่วเยี่ยเตาเห็นคอมเมนต์เหล่านี้ เขาก็หัวเสียจนอยากขว้างปาสิ่งของทิ้งให้รู้แล้วรู้รอด!
สูสีอะไรของพวกแกฟระ!
แต่สุดท้ายเขาจำต้องข่มกลั้นอารมณ์ไว้
เพราะเขาพบว่าหลิงคงนั้นโกรธยิ่งกว่าเขาเสียอีก
หลิงคงโกรธจัดจริงๆ !
เขาพบว่าตัวเองอาจเป็นคู่แข่งคนเดียวในบลูสตาร์ที่โดนสามสหาย สลับกันตบหน้า!
อิ่งจือตบเสร็จ เซี่ยนอวี๋ตบต่อ!
เซี่ยนอวี๋ตบเสร็จ ฉู่ขวงตบซ้ำอีก!
พวกนายคิดว่าฉันเป็นกระสอบทรายรึไง!
แต่สิ่งที่ทำให้หลิงคงแทบจะระเบิดความโกรธออกมาคือ
คนจากฝั่งฉีโจวยังมาด่าเขาอีก พวกนั้นบอกว่าที่วังจันทราล้มไม่เป็นท่าในตอนจบของซีรีส์ก็เพราะเขา!
นี่มันไม่สมเหตุสมผลเลยจริงๆ !
เหมือนกับทุกครั้งที่ปู้ลั่วโดนสามสหายรุมเล่นงาน คนก็พากันมาด่าฉันเหมือนเป็นความผิดฉันอย่างนั้นแหละ!
ความจริงแล้วเรื่องนี้มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลยแม้แต่นิดเดียว!
พวกคุณไปด่ามังกรหยกโน่นสิ ทำไมถึงต้องมารุมด่าฉันด้วย!?
นี่คิดว่าฉันเป็นเป้าหมายอ่อนที่สุดใช่ไหม
โยนความผิดกันมั่วซั่วชัดๆ !
สู้คู่แข่งไม่ได้ ก็หันมากล่าวโทษเพื่อนร่วมทีมแทนหรือยังไง?
โชคดีที่ครั้งนี้ฝั่งปู้ลั่วไม่ได้รุมด่าหลิงคง ยังพอมีความยุติธรรมอยู่บ้าง!
ถึงอย่างไรการที่พิชิตพยัคฆ์แพ้คู่แข่ง ไม่ใช่เพราะหลิงคงไม่เก่ง แต่เป็นเพราะคู่แข่งนั้นแข็งแกร่งเกินไป!
ถ้าดูเฉพาะตัวเลขเรตติงของพิชิตพยัคฆ์ ในฐานะซีรีส์แนวกำลังภายในที่ติดอันดับที่ห้าในช่วงซีรีส์ไพรม์ไทม์ของหกทวีป ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องน่าอับอายเลย!
#ฉู่ขวงเปลี่ยนไปในทางที่ดีแล้ว
หัวข้อนี้พุ่งทะยานขึ้นสู่ฮ็อตเสิร์ชอันดับหนึ่งอย่างรวดเร็ว!
นี่เป็นการถกเถียงที่เกิดขึ้นหลังจากนิยายและซีรีส์มังกรหยก กลายเป็นกระแสโด่งดังโดยมี ‘แอนตีแฟน’ จำนวนมากของฉู่ขวงเข้ามามีส่วนร่วมอย่างกระตือรือร้น!
‘นี่คือนิยายที่ฉู่ขวงเขียนจริงเหรอ?’
‘ฉันอ่านมังกรหยกจบด้วยใจระทึกไปตลอดทาง แต่จนถึงตอนจบ กลับพบว่าเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ไม่มีฉากบีบคั้นหัวใจให้รับไม่ได้เลย แบบนี้ดูซีรีส์ต่อได้อย่างสบายใจแล้ว!’
‘เจ้าแก่เปลี่ยนนิสัยไปแล้วเหรอ?’
‘พรรคพวก ฉู่ขวงเปลี่ยนไปในทางที่ดีแล้ว!’
‘การยอมรับผิดและปรับปรุงตัวได้นับเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ น่าชื่นชมมาก ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะกลับไปอ่านนิยายของเจ้าแก่อีก!’
‘ไม่ได้อ่านนิยายของเจ้าแก่มานาน พอได้กลับมาอ่านอีกที ก็พบว่ายังสนุกสะใจเหมือนเดิม นักเขียนคนอื่นให้ความรู้สึกแบบนี้ไม่ได้เลย!’
‘ด้วยฝีมือระดับนี้ของเจ้าแก่ฉู่ขวง ต่อไปถ้ามีฉากดราม่าบ้าง ฉันก็จะอดทนให้ได้!’
‘โดนตบหน้าจังๆ เลยนะ บอกไว้ว่าจะไม่อ่านนิยายของเจ้าแก่ฉู่ขวงอีกแล้ว แต่สุดท้ายก็โดนซีรีส์เรื่องเดียวทำลายกำแพง จนต้องกลับไปติดกับดักของเจ้าแก่ฉู่ขวงอีกจนได้ หวังว่าหัวข้อนี้จะเป็นจริง และเจ้าแก่ฉู่ขวงจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นจริงๆ !’
ในระหว่างการถกเถียงต่าง ๆ
มีผู้ใช้งานบางคนที่ชี้ประเด็นได้ตรงจุดว่า
‘แท้จริงแล้วในมังกรหยกก็ไม่ใช่ว่าไม่มีฉากดราม่าหรือสะเทือนใจ ถ้าเป็นนักเขียนคนอื่น เขียนแบบนี้พวกคุณก็คงหัวเสียเหมือนเดิม แต่ด้วยความที่พวกเรารู้ดีถึงสไตล์ของเจ้าแก่อย่างฉู่ขวง อ่านบ่อยจนสร้างภูมิคุ้มกันกันไปแล้ว ทุกวันนี้ต่อให้เจ้าแก่ฉู่ขวงจะเขียนอะไรที่สะเทือนใจกว่านี้ ผมก็คงได้แต่ยิ้มอ่อนเท่านั้นเอง”
…
ที่บ้าน
หลินเยวียนสังเกตเห็นความคึกคักซึ่งเกิดจากซีรีส์มังกรหยก อดไม่ได้ที่จะเรียกระบบออกมา
‘แนวกำลังภายในฟื้นฟูหรือยัง?’
การฟื้นฟูของนิยายกำลังภายในเป็นภารกิจที่เขาให้ความสำคัญที่สุดในตอนนี้
ระบบตอบว่า ‘นิยายกำลังภายในซบเซามานานเกินไป ผู้คนจำนวนมากยังคงมีมุมมองแบบเดิมๆ เกี่ยวกับนิยายประเภทนี้ ตอนนี้จึงถือว่าเป็นเพียงแค่ช่วงฟื้นตัวเท่านั้น’
การฟื้นตัว
การฟื้นฟู
คำแรกหมายถึงวงการนิยายกำลังเริ่มตื่นขึ้นจากความเงียบงัน แต่หากต้องการกลับไปสู่ยุครุ่งเรืองเหมือนในอดีต ยังมีหนทางอีกยาวไกล
“อ้อ”
หลินเยวียนมองไปด้วยความแน่วแน่
ได้เวลาแล้ว ‘ศึกเทพอภินิหารจ้าวอินทรี’!

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอน 837-839 ไม่มีข้อความเลยครับ...