ตอนที่ 998 มหกรรมเพลงบลูสตาร์ (1)
จะโทษว่าซย่าฝานจะรู้สึกหวั่นใจก็คงไม่ได้
เดิมทีด้วยความสามารถของราชวงศ์ปลา การขึ้นเวทีสังเวียนดนตรีก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร
ทว่าตอนนี้บรรดาราชาราชินีเพลงจากทุกทวีปต่างหลั่งไหลมารวมตัวที่เว่ยโจว ทำให้ความดุเดือดของสังเวียนพุ่งสูงขึ้นมาก จนแม้แต่หลินเยวียนเองก็ยังต้องรับมืออย่างระมัดระวัง
อย่างไรก็ตาม หลินเยวียนกลับไม่มองว่านี่เป็นเรื่องแย่
ยิ่งเจอคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งมากเท่าไหร่ คุณภาพของเวทีก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น อีกอย่างเขาเองก็ได้วางแผนเตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว
หลินเยวียนรู้จักสไตล์ของสมาชิกแต่ละคนในราชวงศ์ปลาเป็นอย่างดี ใครเหมาะจะร้องเพลงแบบไหน เขาเข้าล้วนกระจ่างกว่าใคร
“เรื่องซ้อมน่ะแน่นอนอยู่แล้ว…”
ซย่าฝานกระพริบตาใส่หลินเยวียน “แต่ก่อนอื่น เราต้องเลือกเพลงกันก่อนใช่ไหม?”
ทุกคนพากันหัวเราะ
เฉินจื้ออวี่แซวว่า “นี่มันเรียกว่ากลยุทธ์ถอยหนึ่งก้าวเพื่อรุกสองก้าวชัดๆ ”
ความกลัวของซย่าฝานเมื่อครู่ เธอแค่แกล้งทำก็เท่านั้น
ที่จริงเธอรอให้หลินเยวียนจัดเพลงให้อยู่
แม้คู่แข่งจะเป็นราชาราชินีเพลงที่น่าเกรงขาม
แต่ถ้าพวกเขาได้ร้องเพลงใหม่จากเซี่ยนอวี๋ละก็ ใครจะชนะใคร ยังพูดไม่ได้เต็มปากนัก
“มีเพลงอยู่แล้ว”
หลินเยวียนพูด “แต่จะชนะได้ไหม ก็ขึ้นอยู่กับทุกคนว่าจะถ่ายทอดมันได้ดีแค่ไหน คู่แข่งก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน”
เพลงจะดีแค่ไหน ก็ต้องดูคนร้องด้วย
เพราะเพลงเดียวกัน ถ้าร้องโดยคนที่ต่างกัน ผลลัพธ์ที่ออกมาย่อมไม่เหมือนกัน เรื่องนี้ทุกคนเข้าใจกันดี
“ไม่มีอะไรให้กลัวหรอก”
เจียงขุยพูดด้วยสายตาเปล่งประกาย “ขอร้องละ เก็บอาจารย์ซูอวี๋ไว้ให้ฉันนะ”
จ้าวอิ๋งเก้อหัวเราะ “ใครจะกล้าไปแย่งหงส์ขาวจากเธอล่ะ!”
ซย่าฝานก็อดแซวไม่ได้ “ดูท่าการที่แพ้หงส์ขาวในรายการเพลงของเรานี่จะกลายเป็นบาดแผลในใจของเสี่ยวขุยเข้าแล้วสิ”
ตอนนั้น ราชวงศ์ปลาไปออกรายการเพลงของเรา เจียงขุยทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ แต่สุดท้ายพ่ายให้กับหงส์ขาว และร้องไห้ไปยกใหญ่
สิ่งที่ทำให้เธอจำฝังใจยิ่งกว่าก็คือ ตอนนั้น หลินเยวียนแทนที่จะปลอบใจเธอ กลับพูดว่าหงส์ขาวร้องได้ดีกว่าเธอจริงๆ
เรื่องนี้กลายเป็นปมในใจของเจียงขุย เป็นความขื่นขมที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เธอรอโอกาสที่จะได้ล้างตาและเอาชนะหงส์ขาวอย่างสง่าผ่าเผยมาโดยตลอด!
เธออยากพิสูจน์ให้ตัวแทนเห็นว่า เธอนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน!
ซุนเย่าหั่วเอ่ยขึ้น “ถ้าสมมติว่าหงส์ขาวชิงสังเวียนแล้วพลาดล่ะ?”
เจียงขุยส่ายหน้า “นายคิดมากไปแล้ว ถึงแม้บนเวทีจะเต็มไปด้วยยอดฝีมือ แต่ด้วยความสามารถของอาจารย์ซูอวี๋ ไม่มีทางที่เธอจะพลาดหรอก”
แม้จะเป็นคู่แข่งในใจ แต่เจียงขุยก็เชื่อมั่นในฝีมือของหงส์ขาวอย่างไม่มีข้อกังขา
“ดี!”
ซุนเย่าหั่วพูดเสียงดังฟังชัด “จะได้ใช้เวทีนี้ให้วงการดนตรีได้เห็นพลังของราชวงศ์ปลา!”
เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนี้ต่างก็พยักหน้าหนักแน่น
การที่เจียงขุยเจอคู่แข่งอย่างหงส์ขาวตั้งแต่แรก จึงกลายเป็นแรงกระตุ้นชั้นดีให้ทุกคนฮึกเหิมมากยิ่งขึ้น!
ราชวงศ์ปลาขึ้นนั้นเลื่องชื่อ ไม่มีใครอยากทำให้ชื่อนี้มัวหมอง นี่แหละคือพลังของความสามัคคีในทีม
หลินเยวียนมองดูทุกคนที่เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณของนักสู้ ความรู้สึกบางอย่างผุดขึ้นใจใจ เขายิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ครั้งนี้คู่แข่งเราเก่งกันทั้งนั้น ถ้าใครต้องการเพลงแบบไหน ก็มาบอกผมได้เลย”
ทุกคนชะงักไปครู่หนึ่ง “ตัวแทนหมายความว่า…”
สายตาของหลินเยวียนฉายแววแปลกใจ “ทุกคนสามารถสั่งแต่งเพลงกับผมได้ตามใจชอบ จะระบุรายละเอียดให้มากแค่ไหนก็ได้”
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา หลินเยวียนใช้ระบบในการแต่งเพลงให้ตัวเองตามต้องการ
แต่วันนี้ เขาตัดสินใจจะเป็นระบบให้กับสมาชิกราชวงศ์ปลา และเปิดโอกาสให้พวกเขาได้สั่งผลิตเพลงออกมาอย่างอิสระตามสไตล์ของแต่ละคน!
ทุกคนอึ้งไปชั่วครู่
“แต่งเพลงตามสั่งกับตัวแทนงั้นหรือ?”
เว่ยห่าวอวิ๋นเป็นคนแรกที่ลองพูดขึ้นมา “ฉันชอบเพลง ขอเราคงอยู่ชั่วนิรันดร์ของเจียงขุยมากเลยค่ะ…”
หลินเยวียน “…”
พี่ห่าวอวิ้นเปิดมาก็เล่นโจทย์ยากเลยนะ?
เขาอดไม่ได้ต้องกระแอมหนึ่งที “ถึงจะบอกว่าให้สั่งแต่งได้ตามใจ แต่ก็ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมของสไตล์กับเสียงของคุณด้วย เพลงนั้นเมโลดีและสไตล์การร้องไม่ค่อยเข้ากับเสียงของคุณสักเท่าไหร่”
เว่ยห่าวอวิ๋นรีบโบกมือ
“ไม่ใช่ความหมายแบบนั้นค่ะ ฉันหมายถึง ฉันชอบเนื้อเพลงแบบทำนองวารีมากเลยค่ะ แนวกวีนิพนธ์โบราณที่จับมาเรียบเรียงกับดนตรีแบบนั้น…”
ตอนพูดประโยคหลัง น้ำเสียงของเธอก็ค่อยๆ เบาลง “…หรือว่าฉันขอมากไป…”
เธอเริ่มไม่มั่นใจขึ้นมา
แต่หลินเยวียนกลับถามขึ้นว่า “งั้นคุณว่าเพลงเชิญร่ำสุราเป็นยังไง”
เว่ยห่าวอวิ๋นตาเป็นประกายทันที!
เธอเริ่มร่ายกลอนเสียงดังด้วยความตื่นเต้น “ท่านไม่เห็นหรือ แม่น้ำเหลืองไหลรินจากฟากฟ้า ลงสู่มหาสมุทรไม่ย้อนกลับ ท่านไม่เห็นหรือ กระจกเงาในหอสูงสะท้อนข้าผู้จาบัลย์ เรือนผมดำยามเช้าขาวราวดั่งหิมะเมื่อสายัณห์…ฉันชอบบทนี้มากจริงๆ !”
หลินเยวียนเคยประพันธ์บทกวีมามากมายตอนเข้าร่วมในงานประชันกวีนิพนธ์บลูสตาร์
บทกวีเหล่านั้น ตอนนี้ก็เป็นที่รู้จักของสาธารณชนอย่างแพร่หลาย
ในบรรดานั้น บทเชิญร่ำสุราถือเป็นบทกลอนที่ได้รับการกล่าวขวัญและชื่นชมมากที่สุด
เว่ยห่าวอวิ๋นไม่ได้เป็นนักเรียน ไม่ได้มีใครบังคับให้ท่องบทนี้ แต่เธอกลับสามารถท่องได้ทั้งหมดอย่างคล่องแคล่ว แสดงให้เห็นว่าเธอชื่นชอบบทกลอนนี้จริงๆ
“ชอบก็พอแล้ว”


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอน 837-839 ไม่มีข้อความเลยครับ...