หลินเฟิงมองดูคุณปู่หลี่ที่น่าสงสาร
ถึงแม้เขาสามารถยอมรับตัวเองได้ แต่ตระกูลหลี่ไม่สามารถยอมรับได้
การสมรสไม่ใช่เรื่องระหว่างคนสองคน แต่เป็นเรื่องระหว่างสองครอบครัว
“คุณปู่ ผมหมดวาสนากับตระกูลหลี่แล้ว ช่างเถอะครับ”
พูดจบ หลินเฟิงก็เดินจากไปอย่างไม่คิดจะหันหลังกลับ
หลี่ไห่ซานเดินโซเซสักพักหนึ่ง เกือบจะล้มลงกับพื้น
โชคดีที่หลี่ฮุ่ยหรานมองเห็นทัน และก้าวไปข้างหน้าจับเขาไว้ทัน
ดวงตาของหลี่ไห่ซานเสียสติ พึมพําอย่างต่อเนื่องในปากว่า "ตายแล้ว ตายแล้ว ตระกูลหลี่ต้องพังแล้ว"
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หลี่ฮุ่ยหรานรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ
“คุณปู่ นี่คุณพูดอะไรกัน”
“บอกจริงๆนะ วันนี้หวางเส้าหลงยังตั้งใจช่วยฉันในการสร้างความสัมพันธ์กับตระกูลถังด้วย”
“อีกไม่นาน ตระกูลหลี่ก็จะกลายเป็นตระกูลชั้นนําของเจียงโจว”
“ฮาฮา...”
คุณปู่หลี่หลังจากได้ยินก็หัวเราะอย่างเย็นชา “คุณหวางคนนั้นหน่ะเหรอ”
“ใช่ค่ะ”
“เมื่อเทียบกับหลินเฟิงแล้ว หวางเส้าหลงคนนั้นไม่มีอะไร”
คุณปู่หลลี่สะบัดแขนเสื้อ ไม่มีอารมณ์จะทานข้าวแล้ว กลับไปที่ห้องด้วยความโกรธ
หลี่ฮุ่ยหรานถอนหายใจยาว “ก็ไม่รู้ว่าทำไมคุณปู่ให้ความสำคัญกับหลินเฟิงมากขนาดนี้”
“ช่างมัน ยังไงคุณปู่ก็รู้เรื่องนี้แล้ว ต่อไปก็ไม่ต้องปิดบังอีก”
หลี่เหวินเชาภาคภูมิใจมาก
ไม่มีคุณปู่คอยคุ้มครอง ต่อไปเขาจะจัดการหลินเฟิงก็ไม่มีใครขัดขวางอีก
หลี่ฮุ่ยหรานมองน้องชายตัวเองและถามว่า “ผู้หญิงที่อยู่กับหลินเฟิงเป็นใคร”
หลี่เหวินเชาเกาหัว “ผมก็ไม่รู้”
“แต่ผู้หญิงนั้นสวยมาก สวยแบบที่ยากที่จะเห็นในโลกใบนี้”
หลี่ฮุ้ยหรานได้ยินแล้วขมวดคิ้ว “”สวยกว่าฉันไหม”
เมื่อเห็นน้องชายตัวเองพูดแบบนี้ เธอถูกกระตุ้นให้เกิดความชอบเอาชนะทันที
ในใจแล้วเธอยิ่งไม่หวังว่ามีผู้หญิงที่สวยกว่าตัวเองอยู่รอบข้างของหลินเฟิง
หลี่เหวินเชาอ้อมแอ้ม “ว่ายังไงนะ พี่สาวผมคือสวยเป็นธรรมชาติ ผู้หญิงนั้นคือสวยมาจากการแต่งหน้าเก่ง”
แต่ในใจกลับนึกถึงใบหน้าของถังหว่านตลอด ผู้หญิงคนนี้สวยกว่าเจ้าหญิงที่เขาเคยเห็นมาในไนต์คลับซะอีก
ยิ่งเกลียดชังในใจ คนกากๆอย่างหลินเฟิงทำไมถึงหาผู้หญิงที่สวยงามขนาดนี้ได้
พอได้ยินแบบนี้หลี่ฮุ่ยหรานก็อารมณ์ดีขึ่น
ค่ำคืน เมื่อหลินเฟิงกลับมาถึงโรงแรมเทียนหัว ก็เห็นมีรถโรลส์-รอยซ์คันหนึ่งจอดอยู่ที่หน้าประตู
ผู้หญิงคนหนึ่งที่สวมเสื้อกันลมกำลังพิงรถอยู่
หลินเฟิงมองอย่างตั้งใจ เขาก็คือเพื่อนและบอดี้การ์ดของถังหว่าน ฉินอิ๋ง
พอเห็นหลินเฟิง ฉินอิ๋งก็วิ่นมาอย่างเร็วๆ “คุณหลิน....”
“ฉินอิ๋งคุณนั้นเอง มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”
หลินเฟิงมองดูเธอแวบหนึ่ง ผมที่สีดําถูกลมเป่าจนยุ่งเหยิงเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเธอรออยู่ที่นี่มานานแล้ว
ฉินอิ๋งสูงประมาณหนึ่งเมตรหก ใบหน้ากลมเล็กๆ ดวงตาสีดำสดใส
เมื่อยืนอยู่ตรงหน้าเขาแล้วดูตัวเล็กไปเลย
ฉินอิ๋งสิบนิ้วไขว้กัน เล่นนิ้วอย่างไม่หยุด ก้มหน้าและอ้อมแอ้มไปสักพักใหญ่แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเลย
หลินเฟิงยิ้ม “คุณฉิน มีอะไรก็สามารถพูดตรงๆได้”
ฉินอิ๋งเงยหน้าขึ้นอย่างอึดอัด พูดว่า “คุณหลิน เทคนิคกังฟูที่คุณสอนพี่หว่านเอ๋อก่อนหน้านั้น สามารถสอนให้ฉันอีกรอบหนึ่งไหมคะ”
หลังจากที่ได้ต่อสู้กันกับหลิยเฟิง เธอก็รู้หัตถ์สายฟ้าที่ถูกเขาปรับปรุงนั้นเก่งแค่ไหน
และตอนนี้ถังหว่านหายป่วยแล้ว
งั้นก็พิสูจน์ได้ว่าหัตถ์สายฟ้าที่ตัวเองฝึกนั้นมีข้อเสียจริงๆ
เธอจึงอยากเรียนรู้
แต่น่าเสียดายว่าตัวเองไม่ใช่อัจฉริยะศิลปะการต่อสู้ ไม่ได้เก่งเท่าถังหว่าน ดูเพียงรอบหนึ่งไม่สามารถเรียนรู้ได้
“ที่แท้ก็คือเรื่องนี้นี่เอง”หลินเฟิงยิ้ม
ฉินอิ๋งเมื่อเห็นแบบนี้ก็รีบหยิบบัตรธนาคารใบหนึ่งออกมา “คุณหลิน ฉันไม่ได้เรียนฟรี ฉันมีเงิน”
“งั้นคุณ จะสอนเทคนิคกังฟูฉันเมื่อไหร่ล่ะ”
หลินเฟิงบอกว่า “ชี่จมในตันเถียน ดึงชี่ไปยังจุดเฟิงฝู่และหกเส้นเลือด”
ฉินอิ๋งได้ยินก็รับดำเนินชี่ตามวิธีที่เขาพูดอย่างไม่รอช้า
หลินเฟิงเปลี่ยนฝ่ามือเป็นนิ้ว เร็วเหมือนสายฟ้า จากจุดเสินเชวียขึ้นไปจนถึงที่บั่ยฮ่วยรวมทั้งหมดยี่สิบแปดจุด
ดึงชี่และเชื่อมต่อกันเป็นแผ่นเดียว
ทันใดนั้นฉินอิ๋งรู้สึกตันเถียนจุดชี่ไห่หมุนอย่างเร็ว
แปดเส้นเลือดเต็มไปด้วยลมปราณภายใน
และทุกครั้ง จุดที่ต้องผ่านในการดำเนินชี่ ก็ถูกจำไว้ในใจของเธออย่างลึกซึ้ง
ระหว่างการโบกมือดูเหมือนมีแรงมาก มีพลังมากกว่าเดิมไม่รู้กี่เท่า
“นี่คือเทคนิคในการดำเนินชี่ของหัตถ์สายฟ้าห่วาจิ้น จำได้หรือยัง”
มุมปากฉินอิ๋งยกขึ้นไปจนเกือบถึงท้องฟ้า กำหมัดและพูดว่า “จำได้แล้ว ขอบคุณคุณหลิน”
“ใช่แล้ว คุณหลิน เทคนิคกังฟูนี้สามารถให้สาวกคนอื่นๆของตระกูลฝึกได้ไหม”
ถ้าทุกคนในตระกูลฉินฝึกหัตถ์สายฟ้าห่วาจิ้น ความสามารถของตระกูลฉินก็จะขึ้นไปอีกหนึ่งระดับแน่
แต่หลินเฟิงส่ายหัว “หัตถ์สายฟ้าห่วาจิ้นคือเส้นเลือดหยินสาขาพื้นดิน หากผู้ชายฝึกนานไปจะเป็นอัมพาตติดเตียงเหมือนถังหว่าน”
“แต่ว่าผู้หญิงสามารถฝึกได้”
“อย่างนี้นี่เอง ขอบคุณที่แนะนำคุณหลิน ”
หลินเฟิงกำชับว่า “”หากไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ผมไปก่อนนะแล้วอย่าลืมช่วยผมหาคนๆนั้นล่ะ”
“คุณหลินวางใจ ฉันไม่ลืมแน่นอน”
ฉินอิ๋งพูดจบและดูเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้จึงเรียกหลินเฟิงกะทันหัน “ใช่แล้ว คุณหลิน ฉันยังมีเรื่องหนึ่งไม่รู้ว่าควรพูดหรือไม่”
“เรื่องอะไร”
“คุณหลินไม่ควรเข้าใกล้กับพี่หว่านเอ๋อมากเกิน”
หลินเฟิงไม่เข้าใจ “ทำไมเหรอ”
“พี่หว่านเอ๋อเกิดมาสูงส่ง ทั้งสวยงามมากและมีความสามารถด้วย และมีคนจีบเธอมากอย่างนับไม่ถ้วน”
ฉินอิ๋งเตือนอย่างใจดีว่า “ถ้าคุณหลินเข้าใกล้กับพี่หว่านเอ๋อมากเกินไป คงจะถูกคนอิจฉา”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี