ฉางหยางเกมส์
ทุกคนกำลังตื่นเต้นกันยกใหญ่
ทุนโฆษณาสองล้านหยวนจากบอสเผยก็เป็นเหมือนยากระตุ้นหัวใจ!
หลังจากปล่อยเกมไป ยอดสถิติเกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดค่อนข้างแย่ ทุกคนเป็นกังวลกันหมดเมื่อได้เห็นสถิตินี้
ตอนแรกพวกเขาสับสนมาก โชคดีที่ผู้อำนวยการหลินตัดสินใจทำเกมเวอร์ชันมือถือ โดยที่ข้อมูลจะเชื่อมกับเวอร์ชันไคลแอนต์บนคอมพิวเตอร์ด้วย ในที่สุดพวกเขาก็มีทิศทางให้เดินหน้าต่อ
แต่พอปล่อยเวอร์ชันมือถือออกไปแล้วจะช่วยกอบกู้สถานการณ์ได้หรือไม่นั้น ไม่มีใครรู้เลย
จากสถานการณ์ในตอนนี้ ปัญหาใหญ่ที่สุดของการสร้างเวอร์ชันมือถือไม่ใช่เงินทุนแต่เป็นเวลา
ถ้าออกมาล้มเหลวก็เท่ากับเป็นการเอาเกลือมาถูบนแผล
แต่บอสเผยชื่นชมตัวเกมมาก ถึงขนาดให้ทุนโฆษณามาอีกสองล้าน แสดงให้เห็นว่าบอสมั่นใจในตัวทุกคนมากแค่ไหน!
กำลังใจของทุกคนพุ่งขึ้นพรวดพราด พวกเขาหมายมั่นปั้นมือว่าจะทำตัวเกมเวอร์ชันมือถือของเกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดออกมาให้สำเร็จ
พนักงานที่ได้รับมอบหมายจัดการติดต่อนักแสดงชาวฮ่องกงที่เผยเชียนส่งรายชื่อมาให้เรียบร้อยแล้ว
หวังเสี่ยวปินมองดูรายชื่อด้วยความทึ่ง “บอสเผยนี่เลือกคนเก่งจริงๆ รายชื่อนี้น่าจะมาจากการไตร่ตรองอย่างรอบคอบแล้ว
“จางจู่ถิงและนักแสดงในรายชื่อนี้เป็นดาราชาวฮ่องกงยุคก่อน หนังของพวกเขามีอิทธิพลต่อผู้เล่นวัยกลางคนมาก ซึ่งจะทำให้โฆษณาเจาะผู้เล่นกลุ่มเป้าหมายได้ดีขึ้น
“จางจู่ถิงมีค่าตัวแพงที่สุด เราจ้างเขามาถ่ายก่อน จากนั้นก็ใช้เงินจำนวนเท่ากันนี้ไปจ้างดาราฮ่องกงอีกสี่คนที่ค่าตัวถูกลงมาหน่อย นอกจากจะคุ้มต้นทุนแล้ว ยังสร้างผลกระทบในวงกว้าง ทำให้โฆษณามีประสิทธิภาพสูงสุดด้วย
“บอกเลยว่าบอสเผยช่างเฉียบแหลมจริงๆ ที่คิดแผนนี้ออกมา”
เยว่จือโจวที่ยืนอยู่ข้างๆ รู้สึกเห็นด้วยสุดๆ “ใช่ครับ บอสเผยเป็นอัจฉริยะเรื่องการโฆษณาจริงๆ ถือเป็นการวางมาตรฐานใหม่เรื่องการโฆษณาให้เกมภายในประเทศ
“เรื่องที่ผมรับไม่ได้และรู้สึกขายหน้ามากๆ คือ เกมของเราน่าจะทำออกมาได้ดีกว่านี้ สถานการณ์เกมของเราในตอนนี้ถือว่าแย่มาก ทั้งๆ ที่บอสเผยอุตส่าห์ทุ่มลงทุนกับการโฆษณาให้เราตั้งขนาดนี้”
หวังเสี่ยวปินปลอบใจ “ไม่เป็นไรน่า เราก็กำลังทำเกมเวอร์ชันมือถือแล้วนี่ พอปล่อยเวอร์ชันมือถือออกไป โฆษณานี้ต้องช่วยให้เกมเราดังเป็นพลุแตกได้แน่ๆ”
เยว่จือโจวพยักหน้ารัว “ใช่ ต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ! เราต้องตั้งใจทำงานกันให้เต็มที่ บอสเผยจะได้ไม่ผิดหวัง!”
…
…
วันเสาร์ที่ 11 กันยายน
เปาซวี่กลับมาเหยียบแผ่นดินจิงโจวอีกครั้งด้วยอารมณ์ที่สับสนปนเป
ในที่สุดก็กลับมาถึงแล้ว!
ช่วงหยุดพักร้อนหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เปาซวี่ได้ไปเที่ยวเมืองในยุโรปมาสี่ห้าเมือง เขาย้ายไปเที่ยวเมืองใหม่แทบจะทุกสัปดาห์
สรุปคือเรื่องมันยาวมาก!
เปาซวี่อยากจะลบภาพทิวทัศน์แปลกตาในหัวสมองออกไปให้หมด หนึ่งเดือนที่ผ่านมาไม่ต่างอะไรจากฝันร้ายสำหรับเขา
ฝันร้ายที่ว่าไม่ใช่เมืองใดๆ ที่ได้ไปมา สำหรับเปาซวี่ แค่ก้าวขาออกจากเมืองจิงโจวก็ถือเป็นฝันร้ายสำหรับเขาแล้วไม่ว่าเมืองที่ไปจะสวยสดงดงามแค่ไหนก็ตาม
โชคดีที่ถึงตอนเรียนมหาวิทยาลัยเปาซวี่จะติดเกมมาก แต่เขาก็สอบเข้าได้ด้วยความสามารถของตัวเอง ทักษะภาษาอังกฤษจึงอยู่ในระดับดี แถมเขายังพกเครื่องมือช่วยแปลไปด้วย ก็เลยปฏิบัติภารกิจท่องเที่ยวต่างประเทศได้สำเร็จ
แต่ยังไงเปาซวี่ก็ยังรู้สึกหมดอาลัยตายอยากอยู่ดี แม้การท่องเที่ยวพักร้อนจะจบลงแล้วก็ตาม
เขากลับมาถึงจิงโจวช่วงเช้า จากนั้นก็กลับอพาร์ตเม้นต์ไปงีบ เปาซวี่ตื่นมาตอนเที่ยงและตัดสินใจจะแวะไปเถิงต๋าในช่วงบ่าย
ระหว่างท่องเที่ยวเขาซื้อขนมและของฝากประจำถิ่นมาด้วย เลยตั้งใจจะเอาไปแจกจ่ายให้เพื่อนร่วมงานที่ออฟฟิศ
อีกอย่างเขาหยุดพักร้อนไปหนึ่งเดือนเต็ม จึงไม่รู้ว่าเกมกลับใจคือฟากฝั่งพัฒนาไปถึงไหนแล้ว หลี่หย่าต๋าเข้ามารับช่วงต่อเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนตอนพัฒนาเกมไปได้ครึ่งทาง เปาซวี่ไม่แน่ใจว่าเธอจะรับผิดชอบหน้าที่นี้ได้ดีหรือเปล่า
…
พอไปถึงบริษัทเขาก็เห็นว่าทุกคนกำลังยุ่งกันยกใหญ่
เมื่อเห็นเปาซวี่กลับมา ทุกคนก็ให้การต้อนรับกันอย่างอบอุ่น
“พี่เปากลับมาแล้ว!”
“ยุโรปเป็นไงบ้างพี่เปา”
“รอบนี้ผิวคล้ำลงนิดหน่อยนะ”
“นี่ผมยาวขึ้นรึเปล่า”
“ช่วงนี้ยุโรปน่าจะหนาวใช่มั้ยพี่”
เปาซวี่ทักทายทุกคนพร้อมกับแจกจ่ายของฝากที่ซื้อมา
หลี่หย่าต๋ากำลังขะมักเขม้นกับการแก้เอกสารอยู่ พอเห็นเปาซวี่กลับมา เธอก็รีบทักทันที “พี่เปา! กลับมาได้จังหวะพอดีเลยค่ะ หนูมีอะไรจะถามพี่”
เปาซวี่หน้าซีดทันใด “ผมเหนื่อยมาก! ไว้ค่อยคุยกันวันหลังนะ!”
“อ่า โอเคค่ะ” หลี่หย่าต๋าพยักหน้าด้วยความงุนงงเล็กน้อย
เปาซวี่ดูอ่อนล้ามาก เขาดูไร้เรี่ยวแรงหลังกลับมาจากทริปครั้งนี้
ก่อนหน้านี้ถ้าใครมีปัญหาอะไรเรื่องการออกแบบ หรือมีเรื่องอะไรจะปรึกษา เปาซวี่จะช่วยอย่างกระตือรือร้น
นอกจากนั้นเขายังทดสอบเกมที่กำลังพัฒนาอยู่ซ้ำๆ ถ้ามีคำแนะนำอยากให้ปรับปรุงอะไร ก็จะไปคุยกับนักออกแบบที่รับผิดชอบจุดนั้นโดยตรง
ตอนกลับจากหยุดพักร้อนครั้งแรก เปาซวี่ทดสอบเกมที่กำลังพัฒนาอยู่ในวันที่กลับมาถึงจิงโจวเลย และเข้าโหมดทำงานทันที
แต่วันนี้เปาซวี่ดูเหมือนไม่อยากทำงานสักเท่าไหร่
สักพักเปาซวี่ก็แจกจ่ายของฝากจนครบทุกคน รวมถึงบอสเผยที่กำลังทดสอบเกมอยู่ในห้องทำงานด้วย
หลังจากนั้นเขาก็กลับไปที่โต๊ะทำงาน เปิดเกม AAA ของต่างประเทศ หยิบหูฟังขึ้นมาสวมแล้วเปิดโหมดอู้งาน
เขาผุดไอเดียเรื่องนี้ขึ้นได้ระหว่างช่วงหนึ่งเดือนแห่งความทรมาน
หลังจากกลับมาถึงออฟฟิศ สิ่งแรกที่เขาจะทำคือปิดบังความสามารถของตัวเอง!
เปาซวี่รู้สึกไม่ค่อยพอใจทุกครั้งที่ต้องสื่อสารกับชาวต่างชาติในยุโรปด้วยภาษาอังกฤษกระท่อนกระแท่นของตัวเอง น้ำตาในตอนนั้นได้ไหลเข้าท่วมหัวจนทำให้เขาสมองทึบไปแล้ว!
พอนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เปาซวี่ก็ตระหนักได้ว่าที่เขาได้ที่สองในการคัดเลือกพนักงานดีเด่นนั้นไม่ใช่อะไรที่เกินความคาดหมายเลย แต่เป็นเรื่องที่เห็นได้ชัดว่าจะเกิดขึ้น
เขาควรเดาได้ว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้!
ลู่หมิงเหลียงเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนและทุ่มเทกับการทำเกมมากที่สุด แล้วรองลงมาจะเป็นใครได้
ก็ไม่พ้นเปาซวี่
เปาซวี่ทำงานหนักที่สุดในทีมออกแบบ ตั้งแต่เกมฐานทัพกลางทะเล เขาก็รับผิดชอบเรื่ององค์ประกอบสร้างสรรค์ต่างๆ ในเกม แถมยังคอยแนะนำเรื่องการปรับแก้ด้านอื่นๆ เช่น รูปแบบการเล่น รายละเอียดต่างๆ และสมดุลของเกม
เขาเป็นคนเด่นคนดังในทีมขนาดนี้ จะไม่ให้ทุกคนโหวตให้ได้ยังไง
หลังจากกลับมารอบนี้ เปาซวี่จึงไตร่ตรองอย่างหนัก ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป การคัดเลือกพนักงานดีเด่นครั้งหน้าจะมีความเป็นไปได้อยู่สองอย่างด้วยกัน
หนึ่งคือได้ออกจากบริษัทไปพร้อมกับทุนตามฝันหนึ่งล้านหยวนเหมือนลู่หมิงเหลียง
เปาซวี่ยอมรับเรื่องนี้ได้ แต่เขาก็ทำใจลาจากเพื่อนร่วมงานไม่ได้ถ้าต้องออกจากทีมออกแบบ
สองคือได้หยุดพักร้อนท่องเที่ยวอีกหนึ่งเดือนแบบได้เงินเดือน
นี่แหละคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด!
ถึงจะได้เที่ยวฟรีมาแล้วสองทริป แต่ก็ยังมีอีกหลายที่ในโลกรอให้เขาไปสำรวจอยู่ เปาซวี่ไม่คิดว่าการทรมานแบบนี้จะจบลงง่ายๆ
ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจว่าจะทำตัวเป็นคนอู้งาน!


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี