เข้าสู่ระบบผ่าน

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี นิยาย บท 657

“เรื่องนี้จริงๆ สามารถเข้าใจได้

“เพราะวันพรุ่งนี้ที่สดใสเป็นหนัง ส่วนดิ้นรนเป็นเกม บอสเผยสร้างทุก รายละเอียดอย่างพิถีพิถัน เพื่อที่ผู้ชมทุกคนและผู้เล่นทุกคนที่เข้ามาสัมผัสจะ ได้รับข้อความบางอย่างกลับไปบ้าง

“แต่ชีวิตจริงของทุกคนแตกต่างกัน บทเรียนที่ทุกคนได้จากชีวิตจริงเองก็ แตกต่างกัน

“บางคนเปลี่ยนชะตาชีวิตตัวเองได้ด้วยความพยายาม แต่บางคนไม่เป็นแบบ นั้น บางคนได้เห็นด้านที่อบอุ่นของโลก แต่บางคนเห็นแค่ด้านที่เย็นชา

“ดังนั้นจึงเป็นปกติที่มุมของพวกเขาต่อโลกความเป็นจริงจะแตกต่างกัน

“ผมอยากย้ำว่าบอสเผยได้สื่อสารมุมมองต่อโลกความเป็นจริงของบอสออก ไปแล้ว แค่คนส่วนใหญ่ไม่ทันสังเกตเห็น

“ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะ ดูชื่อคลิปสิครับ ผู้สื่อสารไร้เสียง

“บอสสื่อสารมุมมองตัวเองเงียบๆ แทนที่จะสื่อสารออกไปให้ยิ่งใหญ่ชัดเจน บอสเลือกที่จะบังคับให้ทุกคนวิเคราะห์ตีความด้วยตัวเอง

“โอเคครับ ต่อไป ช่วยคลิกลิงก์ที่สองใต้คลิปด้วย ช่วยอ่านดูว่าบอสบอกอะไร กับนักศึกษายากไร้ในมหาวิทยาลัยตัวเอง

“สาม สอง หนึ่ง

“ครับ ทุกคนน่าจะเข้าใจแล้ว บอสเผยบริจาคเงินสิบห้าล้านหยวนให้กับ นักศึกษายากไร้และจัดบรรยายเพื่อบอกให้พวกเขานำเงินไปใช้ให้เกิดประโยชน์

“ใช่ครับ บอสเผยไม่ได้บอกให้พวกเขาตระหนี่ แต่บอกให้มีสมาธิ

“จริงๆ แล้วก็ตรงกับมุมมองเรื่องความมั่งคั่งของบอสเผย บอสไม่เห็นด้วยกับ วัฒนธรรมบริโภคนิยม แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับการมองการตระหนี่เป็นเรื่องดี

“พอเป็นประเด็นเรื่องความมั่งคั่ง หลายคนก็ตกอยู่ในหลุมพรางความสุดโต่ง ไม่ด้านใดก็ด้านหนึ่ง

“แบบแรกคือมองว่าความพึงพอใจเดี๋ยวนั้นเป็นเรื่องสำคัญ พวกเขาจะใช้ เงินเดือนทันทีที่ได้มา รูดบัตรจนเต็มวงเงิน และซื้อของแพงเกินตัว

“แบบที่สองคือมองว่าการเก็บเงินเป็นเรื่องสำคัญ พวกเขาคอยคิดแต่จะหา วิธีการต่างๆ มากอบโกยกำไรแม้เพียงเล็กน้อย พวกเขามีเงิน แต่ใช้ชีวิตเหมือน ขอทานจนพลาดโอกาสหลายๆ อย่างไป

“ชัดเจนว่า ทั้งสองแนวคิดนี้ผิด

“บทบรรยายของบอสเผยบอกเราว่า สิ่งสำคัญที่สุดที่ทุกคนมีไม่ใช่เงิน แต่เป็น สมาธิ!

“ขอแค่เราใช้สมาธิเราให้ดี เราก็จะหาเงินเพิ่มได้มากมาย กลับกัน ถ้าเรามัว แต่ไล่ตามกำไรเล็กน้อยและเสียสมาธิไป เราจะยิ่งสูญเสียมากขึ้น

“ตอนนี้บางคนอาจตั้งคำถามว่า แล้วบทบรรยายนี้เกี่ยวอะไรกับเกมดิ้นรนที่ เป็นตีมของคลิปนี้

“แน่นอนว่าเกี่ยวข้องทุกด้าน

“เนื้อหาของการบรรยายและกิจการทั้งหมดของบอสเผยเติมเต็มสิ่งที่ไม่ได้ สื่อสารในเกมดิ้นรน เป็นตัวบอกให้เรารู้ว่าการดิ้นรนเป็นยังไงในชีวิตจริง

“เมื่อพูดถึงการดิ้นรน หลายคนมองคำนี้แตกต่างกันไปคนละขั้วเช่นกัน

“คนแบบแรกคิดว่าการดิ้นรนนั้นเปล่าประโยชน์ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลง อะไรได้ อะไรจะเกิดก็เกิด มีเหล้าวันนี้ก็กินให้เมาวันนี้ เรื่องวันพรุ่งนี้ก็ค่อยว่ากัน ใหม่พรุ่งนี้

“อีกแบบคือคนที่คิดว่าถ้าดิ้นรนมากพอก็จะมีชีวิตในแบบที่ต้องการได้ แต่ไม่ เคยถามตัวเองว่าวิธีดิ้นรนตอนนี้นั้นถูกรึเปล่า

“วิธีคิดทั้งสองแบบเป็นวิธีคิดที่ผิด

“ก่อนผมจะตอบคำถาม ผมขอพูด คุณเหออันระบุว่ามีอยู่สองเหตุผลหลักที่ ทำให้ตัวเอกคนจนในเกมดิ้นรนตกทุกข์ คือ วัฒนธรรมบริโภคนิยมกับการเสียค่า โง่ ตัวเอกคนจนไต่เต้าขึ้นมาอยู่ในชนชั้นกลาง แต่วัฒนธรรมบริโภคนิยมทำลาย ความมั่งคั่งและผลักเขาตกสู่วังวนแห่งความจน

“วัฒนธรรมบริโภคนิยมเข้าควบคุมสังคมทั้งหมดในเกมดิ้นรน ทำให้ตัวเอกคน จนไม่มีทางเลือก แต่วัฒนธรรมบริโภคนิยมในชีวิตจริงไม่ได้เป็นที่ยอมรับ กว้างขวางในสังคม ขอแค่เราสู้กับมัน ความมั่งคั่งของเราก็จะไม่โดนทำลายและ ย่อมสะสมความมั่งคั่งได้ประมาณหนึ่ง

“หลายคนตั้งคำถามเรื่องนี้เหมือนกัน เพราะคุณเหออันไม่ได้ขยายความว่า บริโภคนิยมคืออะไร “ตามความหมายทั่วไป บริโภคนิยมคือแนวทางที่สังคมส่วนใหญ่ปฏิบัติ เป็น การแสวงหาการบริโภคอันผิวเผินและต้องการกิจกรรมบันเทิงและความบันเทิง ทางวัตถุอันไม่มีที่สิ้นสุด แล้วยึดถือสิ่งเหล่านี้เป็นจุดมุ่งหมายและคุณค่าของชีวิต “แต่ผมเชื่อว่าทุกคนมีมุมมองต่อเรื่องบริโภคนิยมและการเสียค่าโง่ของตัวเอง “หลายครั้งที่เราเห็นว่าแนวคิดเรื่องบริโภคนิยมกับการเสียค่าโง่นั้นแตกต่าง กันไปตามแต่ละบุคคล “ยกตัวอย่างง่ายๆ ทิชชูสองห่อ ห่อนึงห้าหยวน อีกห่อยี่สิบหยวน ห่อที่ขาย ยี่สิบหยวนถือเป็นการเก็บค่าโง่รึเปล่า “หลายคนคิดแบบนั้น ก็ทิชชูเหมือนกัน แต่อันที่มีแบรนด์ติดราคาสูงกว่าถึงสี่ เท่า แบบนั้นมันดูถูกปัญญาคนซื้อเลยไม่ใช่เหรอ “ถ้าผมบอกว่าห่อยี่สิบหยวนนุ่มกว่า ละเอียดกว่า กระบวนการผลิตซับซ้อน กว่า ให้ความรู้สึกที่ดีกว่า คุณยังจะคิดว่าเป็นการเสียค่าโง่รึเปล่า “เหมือนกัน คนทั่วไปอาจจะคิดว่ากระเป๋าแบรนด์เนมราคาหลายหมื่นหยวน นั้นเก็บค่าโง่ แต่เศรษฐีพันล้านจะคิดเหมือนกันรึเปล่า “ผมว่าคนส่วนใหญ่ไม่เคยคิดถึงคำถามข้อนี้ “บางคนเลยเกลียดเรื่องบริโภคนิยม แต่บางคนไม่ได้ใส่ใจอะไร พวกเขาคิดว่า ถ้ามีเงินเหลือมากพอ จะซื้อกระเป๋าหรือรองเท้าแบรนด์เนมก็ได้ทั้งนั้น

บทที่ 657 วัฒนธรรมบริโภคนิยมกับการเสียค่าโง่ 1

บทที่ 657 วัฒนธรรมบริโภคนิยมกับการเสียค่าโง่ 2

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี