เข้าสู่ระบบผ่าน

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี นิยาย บท 680

พอคิดได้แบบนั้น เผยเชียนก็ไตร่ตรองความเป็นไปได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน
เขาได้บทเรียนมาสามบทเรียน
บทเรียนแรกได้มาจากการร่วมงานกับหร่วนกวางเจี่ยน
การร่วมงานกับหร่วนกวางเจี่ยนเหมือนจะค่อนข้างล้มเหลว เพราะหร่วน
กวางเจี่ยนเป็นคนวางมาตรฐานคุณภาพงานคอนเซ็ปต์ในเกมของเถิงต๋ามาตั้งแต่
เกมแม่ทัพผี
ความสำเร็จของหลายๆ เกมมาจากคุณภาพอันดีเยี่ยมของงานคอนเซ็ปต์
อาร์ตซึ่งดึงดูดใจผู้เล่นได้ตั้งแต่มองแวบแรก งานภาพที่เข้ากับเนื้อหาของเกมได้
อย่างสมบูรณ์แบบกลายเป็นจุดเชื่อมโยงสู่งานศิลป์ในเกม
เผยเชียนนึกย้อนกลับไปตอนร่วมงานกับหร่วนกวางเจี่ยนและรู้สึกว่าสาเหตุ
หลักมาจากดวงมหาเฮงของตัวเอง
ว่ากันตามตรง ตอนนั้นเขาหานักวาดที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียง ซึ่งโอกาสเจอเพชรใน
ตมย่อมมีน้อยนิด
แต่เขาก็ยังเจอเข้าเม็ดหนึ่งอยู่ดี!
จะโทษใครได้
เพราะงั้นเผยเชียนจึงรู้สึกว่าต้องหว่านแหให้กว้างรอบนี้ถ้ามุ่งลงทุนแค่หนึ่งหรือสองบริษัทก็อาจพลาดซ้ำรอยเดิมอีก ต้องขยาย
ขอบเขตลงทุนไปให้กว้างขึ้น
ยิ่งมีกลุ่มตัวอย่างเยอะ ความน่าเชื่อถือก็จะแม่นยำมากขึ้นและอิทธิพลของ
โชคก็จะน้อยลง
บทเรียนที่สองได้มาจากตอนเข้าซื้อฉางหยางเกมส์
เผยเชียนจำได้ว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นมากตอนซื้อฉางหยางเกมส์มา
ใหม่ๆ แต่ทั้งหมดก็ดิ่งลงเหวเพราะเขาไม่ห้ามตัวเอง เขาอยากให้ฉางหยางเกมส์
ขาดทุนให้ได้มากขึ้น จึงเปลี่ยนโมเดลการเก็บเงินผู้เล่นของเกม
ผลกลายเป็นว่า เกมเพลงรบโลหิตกลายเป็นเกมที่เป็นมิตรต่อผู้เล่นและสร้าง
ชื่อเสียงที่ดี หลังรีเมกเกมใหม่และเปลี่ยนให้เป็นเกมมือถือ เกมก็ดังขึ้นมาทันที
เพราะงั้น รอบนี้เผยเชียนจะไม่เปลี่ยนแนวทางดั้งเดิมของบริษัทที่จะลงทุน
เขาจะไม่ปรายตาดูเลยด้วยซ้ำ
เพราะทุกอย่างมักจะเปลี่ยนไปพอบอสเผยเข้าไปสังเกตการณ์
แม้ว่า ‘พลังการสังเกตการณ์’ จะเกิดในทุกแง่มุมของชีวิต แต่เผยเชียนก็คิดว่า
พลังนี้โดดเด่นเกินไปในชีวิตเขา ต้องพยายามหาทางเลี่ยง
บทเรียนสุดท้ายมาจากบริษัทลงทุนหยวนเมิ่ง
บริษัทลงทุนหยวนเมิ่งลงทุนใน IOI แอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ เครื่องทะเลาะ
อัตโนมัติ และอื่นๆ ซึ่งประสบความสำเร็จทุกโปรเจ็กต์ปัจจัยที่โปรเจ็กต์เหล่านี้ประสบความสำเร็จแตกต่างกันออกไป แต่เผยเชียน
คิดอยู่นานก็พบว่าปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือ ‘ความสนใจ’
เผยเชียนมักจะเลือกโปรเจ็กต์พิลึกพิลั่น อย่างตู้โทรศัพท์ให้เช่ากับเครื่อง
ทะเลาะอัตโนมัติเพราะอยากผลาญเงินมากเกินไป
แต่โปรเจ็กต์ประเภทนี้กลายเป็นหัวข้อพูดคุยได้ง่าย และเรียกความสนใจได้
อย่างล้นหลามเพราะมันแปลกเกินไป
แถมกิจการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเถิงต๋ายังได้รับความสนใจสุดๆ
เมื่อบวกกับดวงมหาเฮงของบอสเผย พอมีคนสนใจเมื่อไหร่ คนก็จะแห่มาซื้อ
กันเสมอ
ดังนั้นเผยเชียนจึงคิดว่าเขาควรเลือกโปรเจ็กต์ธรรมดาๆ ไม่แปลกเกินไป เพื่อ
ลดโอกาสทำกำไรก้อนโต
ถึงโปรเจ็กต์พวกนี้จะประสบความสำเร็จขึ้นมา ก็ทำกำไรได้แค่เล็กน้อย ถ้า
หว่านแหได้กว้างพอ โปรเจ็กต์ล้มเหลวอื่นๆ จะช่วยชดเชยกำไรที่ได้มา กำไรที่ได้ก็
จะไม่มากเกินไป
ประสบการณ์พลาดพลั้งหลายครั้งทำให้เผยเชียนเจอหนทางใหม่
เขาต้องหว่านแหให้กว้างๆ ยิ่งลงทุนหลายบริษัท อิทธิพลจากโชคก็จะยิ่ง
น้อยลง โอกาสขาดทุนย่อมเพิ่มขึ้นภายใต้สมมติฐานที่ว่าเกมสแตนด์อโลนจีนมี
โอกาสล้มเหลวสูงเผยเชียนต้องไม่เข้าไปยุ่งกับการจัดการบริหารของบริษัทที่ลงทุน หรือกระทั่ง
ไม่ต้องรับรู้เลยว่าพวกเขาทำโปรเจ็กต์อะไรกันอยู่เพื่อลดทอน ‘พลังสังเกตการณ์’
ถ้าเลือกโปรเจ็กต์ธรรมดาๆ ที่ไม่มีจุดเด่นมากมายก็จะดีมาก เพราะย่อมไม่ได้
รับอิทธิพลจากชื่อเสียงของเถิงต๋าจนทำกำไรขึ้นมาเป็นกอบเป็นกำแบบไม่มีปี่ไม่มี
ขลุ่ย
เผยเชียนคิดอยู่นาน แล้วรู้สึกว่าแนวทางรอบนี้ดูเชื่อถือได้มากๆ
รอบนี้เขาน่าจะขาดทุนได้สำเร็จ หลังจากสั่งสมประสบการณ์ความผิดพลาด
มาหลายหน
ดังนั้นคำถามต่อไปคือ ครั้งนี้จะให้ใครรับผิดชอบดี
เขาพิจารณาดูแล้วก็พบว่าไม่มีใครใช้การได้เลย
ฝ่ายเกมเถิงต๋ากับฉางหยางเกมส์มีพนักงานที่เข้าใจเรื่องเกมเยอะ เจ้าพวกนี้
ไม่ปลอดภัย
เพราะสมองพวกเขาติดพิษร้ายมากเกินไป!
ลักษณะทั่วไปของพนักงานเถิงต๋าคือมักตีความจุดประสงค์ของบอสเผยไป
ผิดๆ แล้วหาวิธีที่จะทำกำไรได้มากที่สุด ขณะเดียวกัน ความเข้าใจเรื่องเกมของ
พวกเขาก็นำพาฝ่ายเกมเถิงต๋าไปสู่ความสำเร็จ
เผยเชียนคิดว่าถึงจะสุ่มเลือกคนจากกิจการอื่นมาดูแลเรื่องนี้ ใครคนนั้นก็อาจ
ทำแผนของเขาพังได้ความพยายามในการ ‘ให้พนักงานเปลี่ยนไปจับอุตสาหกรรมอื่น’ ของเขา
ล้มเหลว
ดูเหมือนว่าไม่ว่าย้ายไปไหน พนักงานทุกคนก็ประสบความสำเร็จได้หมด
หรือจะให้หม่าหยางดูแล?
ไม่ได้ บทเรียนที่ได้จาก IOI ทำให้เขาไว้ใจไอ้หม่าไม่ได้อีก
ลู่หมิงเหลียง?
หนักกว่าเก่า ลู่หมิงเหลียงเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผน มีความเข้าใจใน
อุตสาหกรรมเกมเป็นอย่างดี อีกอย่าง ตอนนี้นี่เฟิงโลจิสติกส์ก็กำลังไปได้สวย ถ้า
ย้ายหมอนั่นไปดูแลโปรเจ็กต์อื่นแล้วจู่ๆ นี่เฟิงโลจิสติกส์พลิกมาทำกำไรได้จะทำ
ยังไง
เสียหายหลายแสนเลยนะนั่น
หลังจากไตร่ตรองดู เผยเชียนก็คิดว่าต้องหาคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับเถิงต๋าคอร์
เปอเรชันมาจัดการเรื่องนี้
จะดีมากถ้าคนคนนั้นรู้จักเรื่องเกมสแตนด์อโลนนิดหน่อย แต่ก็ไม่มาก
จนเกินไป
คนที่ไม่เข้าใจเรื่องเกมสแตนด์อโลนเลยจะจ้างที่ปรึกษามืออาชีพมาช่วย ซึ่ง
ถือเป็นภัยแอบแฝง คนที่รู้เยอะเกินไปก็จะทำทุกอย่างถูกต้องแม่นยำไปหมด
ตอนนั้นเองเผยเชียนก็นึกถึงคนที่เหมาะกับตำแหน่งนี้ได้ชิวหง!
เผยเชียนเข้าใจภาพรวมของชิวหงจากคลาสเรียน อีกฝ่ายเพิ่งล้มเหลวจากการ
ทำเกมมือถือเน้นระบบเติมเงิน เลยแวะมาจิงโจวเพื่อติวและพักผ่อน
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ผู้พัฒนาที่ประสบความสำเร็จจะหาเงินลงทุนสักก้อน แล้ว
นับประสาอะไรกับผู้พัฒนาที่เพิ่งล้มเหลวมา
ยิ่งไปกว่านั้น ชิวหงเพิ่งเปิดกิจการของตัวเอง เขาไม่มีทางยอมก้มหัวสมัคร
งานในบริษัททั่วไปในช่วงนี้แน่ เพราะไม่มีความกดดันทางการเงิน
ซึ่งก็หมายความว่าชิวหงน่าจะยังหาอะไรทำไม่ได้ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา
ถึงชิวหงจะผ่านประสบการณ์ความสำเร็จมาบ้าง แต่ก็ล้วนเป็นเกมที่เน้น
ระบบเติมเงิน เขาเคยทำเกมสแตนด์อโลน แต่นั่นก็ตั้งแต่ตอนเข้าวงการใหม่ๆ ซึ่ง
เกมสแตนด์อโลนเกมนั้นก็พังไม่เป็นท่า
เผยเชียนคิดว่าชิวหงน่าจะเชี่ยวชาญเรื่องเกมที่เน้นระบบเติมเงิน กับเกมส
แตนด์อโลนเขาอาจจะไม่เชี่ยวชาญก็ได้
ส่วนที่ชิวหงบอกว่าจะไม่แตะต้องเกมสแตนด์อโลนอีก…
อันดับแรก จริงๆ ชิวหงไม่ได้ปฏิเสธเกมสแตนด์อโลน แต่เขาโดนทำให้ปวดใจ
ตอนเข้าวงการใหม่ๆ ตอนนี้ก็เลยต่อต้าน
สอง เผยเชียนไม่ได้ตั้งใจจะพูดเรื่องความฝันหรือหลักการอันยิ่งใหญ่ แค่จะ
พิจารณาถึงผลประโยชน์ตามความเป็นจริงเหตุผลที่ชิวหงหันหลังให้เกมสแตนด์อโลนก็เพราะอยากทำเงินให้ได้มากขึ้น
และมีชีวิตที่ดีขึ้น
เพราะงั้นประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่าเป็นเกมสแตนด์อโลนหรือเกมออนไลน์ แต่อยู่
ที่ว่าจะมอบผลประโยชน์ให้ชิวหงได้มากเท่าไหร่
ผู้พัฒนาเกมเน้นระบบเติมเงินเป็นคนประเภทที่อยู่กับความเป็นจริงสุดๆ พวก
เขาทำเกมแบบนี้ก็เพราะตลาดบอกว่าจะทำกำไรให้ได้มากที่สุด
ในกรณีนี้ถ้าเผยเชียนเสนอเงินให้มากกว่า ก็ย่อมต้องดึงตัวชิวหงมาได้แน่นอน
ยิ่งคิดเผยเชียนก็ยิ่งรู้สึกว่าชิวหงเป็นคนที่เหมาะที่สุด
ปัญหาคือ จะคุยกับอีกฝ่ายยังไงดี…
จนถึงตอนนี้ ชิวหงก็ยังคิดว่าเขาคือหม่าหยาง
หรือจะคุยกับเขาในฐานะหม่าหยางต่อไปดี มอบหมายงานให้ชิวหงในฐานะ
ผู้จัดการบริษัทลงทุนหยวนเมิ่งงี้
ก็เป็นวิธีที่ดี แต่การหลอกลวงคนอื่นเป็นเรื่องไม่ดี
อีกอย่าง ชิวหงจะมีปฏิสัมพันธ์กับพนักงานเถิงต๋ามากขึ้นในอนาคต ไม่ช้าก็
เร็ว เรื่องนี้ก็ต้องแดงขึ้นมา ไม่มีทางเก็บเป็นความลับไปได้ตลอดหรอก
เพราะงั้นก็ต้องเปิดเผยตัวตนไปเลย
แต่จะทำยังไงให้ชิวหงยอมรับได้ง่ายขึ้นบอกความจริงไปเลยตรงๆ ไม่ได้แน่นอน ถึงเผยเชียนจะอยากบอกความจริง
ขนาดไหน ชิวหงก็คงไม่น่าจะยอมเชื่อแม้เขาจะเสี่ยงโดนระบบตักเตือน
ชิวหงอาจจะคิดว่าเขาจองหองและกลับออกไปเลย
เพราะงั้นเผยเชียนจึงต้องโกหกด้วยความปรารถนาดีอีกครั้ง
บอกชิวหงว่าใช้ตัวตนของหม่าหยางเพื่อเรียนรู้ประสบการณ์ล้มเหลวจากอีก
ฝ่าย แต่จริงๆ แล้วเป็นการแลกเปลี่ยนและถกประเด็นกันระหว่างนักออกแบบ
เกม แถมยังได้ทำความรู้จักกัน ถ้าเข้าใจกันมากขึ้นก็สามารถร่วมงานกันได้ ถือว่า
สมเหตุสมผลที่จะโยนกิ่งมะกอก
พอหาเหตุผลได้ เผยเชียนก็โทรหาชิวหง เขาชวนอีกฝ่ายให้แวะมาจิงโจวสัก
สองสามวันเพื่อคุยเรื่องสำคัญกัน


วันพุธที่ 12 ตุลาคม
หวังเสี่ยวปินเค้นหัวคิดวางแผนการพัฒนา DLC ให้เกมเก่าๆ
เกมเก่ามีเยอะเกินไป เป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำ DLC ให้ทุกเกมภายในเวลาสี่
เดือน หมายความว่าเขาเลือกทำเท่าที่ทำได้เท่านั้น
แถมเขายังต้องพิจารณาเรื่องความคุ้มค่าต่อราคาของ DLC ด้วยDLC ของผู้พัฒนาบางเจ้าเป็นเนื้อหาแยกขนาดใหญ่ ราคาแพง และใช้เวลา
พัฒนานาน
แต่บอสเผยให้เวลาพวกเขาแค่สี่เดือน เป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำให้ได้ถึงระดับ
นั้น
ถึงบอสเผยจะไม่งกเรื่องเงิน แต่เงินก็ซื้อเวลาไม่ได้
เพราะงั้นก็เลยยังยากมากอยู่ดี หวังเสี่ยวปินเองก็ไม่มีประสบการณ์ในด้านนี้
จึงรู้สึกกดดันมาก
“ทำโหมดเล่นหลายคนให้เกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายดีมั้ย ให้ขับ
รถกับผู้เล่นคนอื่น จะได้ไม่ต้องโดดเดี่ยวกลางทะเลทรายอีกต่อไป
“หรือจะเพิ่มโหมด ‘เก่งนักก็เลือกเองเซ่’ ให้เกมนักออกแบบเกม ให้เสียง
พากย์เป็นคนเลือกเส้นทางต่างๆ เองแล้วให้ผู้เล่นเยาะเย้ยเสียงพากย์แทน
“ปล่อยเนื้อเรื่องเพิ่มเติมให้เกมฐานทัพกลางทะเลดีมั้ย แต่ก็ดูไม่จำเป็น
เท่าไหร่ หรือจะเพิ่มอาวุธระดับตำนาน? บอสเผยน่าจะเห็นด้วยกับอย่างแรก
มากกว่า
“ส่วนเกมกลับใจคือฟากฝั่ง ดูเหมือนผู้เล่นหลายคนจะเริ่มเบื่อหลังเล่นเกมจบ
ไปได้หลายสัปดาห์ ถึงจะมีผู้เล่นใหม่หลงเข้ามาเล่นบ้าง แต่ความเหนียวแน่นของ
ผู้เล่นเก่าก็หายไปแล้ว เราทำโหมดท้าทายขึ้นมาให้ผู้เล่นเก่ามีอะไรทำดีรึเปล่า
“อืม…
“เนื้อหาพวกนี้ดูเรียบง่ายเกินไป ผู้เล่นจะซื้อกันอยู่เหรอ”หวังเสี่ยวปินพอคิดไอเดียออกบ้าง แต่ก็ไม่มั่นใจในตัวเองมากนัก
การอัปเดตทั่วไปบางอย่าง เช่น เพิ่มแม่ทัพในเกมแม่ทัพผี ปล่อยอาวุธระดับ
ตำนานเพิ่มในเกมฐานทัพกลางทะเลดูน่าเบื่อ แต่ไอเดียที่เขาคิดยังเล็กเกินไป ก็
เลยกลัวว่าจะตั้งราคา DLC ได้ไม่สูงมาก ซึ่งก็อาจจะขาดทุนได้
“แบบแรกปลอดภัยแต่ไม่น่าสนใจ แบบหลังน่าสนใจแต่ก็แอบเสี่ยง…
“ถ้าเป็นบอสเผยจะเลือกแบบไหนนะ
“บอสเผยต้องเลือกแบบหลังอยู่แล้ว
“ในเมื่อบอสเผยมอบภารกิจสำคัญขนาดนี้มาให้ ฉันก็ต้องไม่กลัวที่จะถูก
ตำหนิ ต้องคิดอะไรที่มันสร้างสรรค์ออกมาให้ได้!”
หวังเสี่ยวปินครุ่นคิดเรื่องแผนงานต่อ


วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม
จูเสี่ยวเช่อมาถึงโรงแรมที่ลู่จือเหยาพักอยู่
ผ่านมาแล้วสามวันตั้งแต่ลู่จือเหยามาถึงจิงโจวและได้รับโน้ตบุ๊กให้มา ‘ทำ
ความเข้าใจบท’
จูเสี่ยวเช่อคิดว่าถึงเวลาแวะมาเช็กดูแล้วที่เขามาไม่ได้มีเหตุผลอื่น แต่หลักๆ เป็นเพราะต้องทำบทให้เสร็จภายในสอง
วันนี้ จะล่าช้าออกไปอีกไม่ได้แล้ว
จูเสี่ยวเช่อคิดอะไรไม่ออก จึงแวะมาดูว่าลู่จือเหยาได้ไอเดียอะไรดีๆ บ้างรึ
เปล่า
เขาเคาะประตูห้องลู่จือเหยาเบาๆ
ผ่านไปสองนาที ประตูก็เปิด
จูเสี่ยวเช่อตกใจเมื่อได้เห็นสภาพของลู่จือเหยา
นักแสดงผู้หล่อเหลาและเปล่งประกายที่มาหาเขาเมื่อสามวันก่อนหายไปแล้ว
ที่คางมีตอหนวดขึ้น ใต้ตาหมองคล้ำ ดวงตาเลื่อนลอย
จูเสี่ยวเช่อผงะไป “เกิดอะไรขึ้นครับเนี่ย ผมให้มาเล่นเกม ทำไมดูโทรมขนาด
นี้”
ลู่จือเหยาแสนอับจนหนทาง “ผู้กำกับจู วิธีของคุณใช้ไม่ได้ผลเลย!
“สองสามวันที่ผ่านมา ผมเล่นเกมเป็นบ้าเป็นหลัง ไม่ได้กินไม่ได้นอน แต่กลับ
ไม่รู้สึกอะไร
“ผมขอยอมแพ้”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี