บทซีรีส์ ‘ชีวิตประจำวันของบอสเผย’ ซีซั่น 1 ตอน 1
ผมมองนาฬิกา Rolex ไม่ได้จะดูเวลา แต่แค่จะโชว์ให้คุณรู้ว่าผมรวย
วันนี้จู่ๆ ก็อยากออกมาข้างนอก ผมอยากสร้างเกมใหม่ เกมที่จะดูดเงินผู้เล่นให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ผมขาย Rolex ไปอย่างไม่คิดอะไร ได้เงินมาเป็นทุนสร้างเกมสองแสนหยวน
หนึ่งชั่วโมงต่อมา…ทุนลดลงเหลือสามในสี่หลังจากโยนงานไปให้เด็กฝึกงานคนใหม่ทำ
ผมดีใจเมื่อได้เห็นเว็ปไซต์ทรัพยากรกับรายการราคา ลูกน้องผมซื่อสัตย์มาก เพราะฉะนั้นทุนที่ให้เด็กฝึกงานไปเลยหดเหลือห้าหมื่นหยวน
พอได้ยินว่าจะต้องสร้างเกมด้วยเงินห้าหมื่นหยวน เขาก็ตกใจขึ้นมาทันที จากนั้นก็เริ่มรู้สึกคลางแคลงใจ ทุกข์ทรมาน… สุดท้ายก็ต้องยอมจำนนต่อโชคชะตา ผมรู้สึกสนุกดีที่ได้เห็นสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
ผมค่อนข้างดีใจ ในที่สุดตัวผมผู้ที่ได้ครอบครองอุตสาหกรรมเกมก็จะได้ลิ้มรสความพ่ายแพ้บ้างเสียที
แต่หารู้ไหมว่าเกมที่สร้างออกมาจะทำให้ชาวเกมเมอร์คลั่งไปกันหมด เจ้าเด็กฝึกงานสร้างเกมขับรถยาวแปดชั่วโมงที่แสนน่าเบื่อออกมา แต่มันกลับดังขึ้นเรื่อยๆ อย่างฉุดไม่อยู่ แค่สองสัปดาห์ยอดขายก็พุ่งทะลุไปถึงสองแสนหยวน
ผมพอใจมากก็เลยให้เจ้าเด็กฝึกงานหยุดงานแบบจ่ายค่าจ้างไปหนึ่งเดือนเพื่อให้ไปสำรวจสิ่งต่างๆภายในประเทศ และหาแรงบันดาลใจไว้สร้างเกมต่อไปในอนาคต
เห็นนักออกแบบดาวรุ่งดวงใหม่ถือกำเนิดขึ้นผมก็รู้สึกสบายใจ ผมทำเป้าหมายเล็กๆ อันแสนจะไม่สำคัญสำเร็จอีกแล้ว
เฮ้อ ชีวิตของนักออกแบบเกมขั้นเทพนี่มันช่างเรียบง่าย…และน่าเบื่อจริงๆ
…
เหมือนมีลมมาปัดเป่าเมฆหมอกให้หายไปในพริบตาเดียว จูเสี่ยวเช่อเขียนบทของตอนแรกเสร็จเรียบร้อย แต่ก็ยังมีอะไรเหลือให้เขียนอีกมาก
“เป็นไงบ้างครับพี่หวง!”
หวงซื่อปั๋วอ่านจนจบ “ดี! มีทั้งเนื้อเรื่องทั้งการหักมุมแล้วก็มุกตลกร้าย บทนี้ใช้ได้เลย!
“แถมยังอิงจากชีวิตจริงของบอสเผยด้วย!
“เราถ่ายที่ออฟฟิศได้เลย นักแสดงกับฉากก็มีพร้อมแล้ว อย่างมากก็น่าจะใช้เวลาสักประมาณครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมงเพื่อถ่ายทำหนึ่งตอน พอถ่ายทำไปสักพักเราก็จะปล่อยได้หนึ่งตอนทุกๆ สองวัน ผมว่าพอยิ่งกว่าพอ”
“แต่…ปัญหาคือ…บอสเผยวางแผนไว้แล้วว่าเกมจะต้องออกมาประสบความสำเร็จ ถ้าเราทำเหมือนเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดมาก่อน มันจะเหมาะหรือเปล่า
“จะกระทบกับภาพลักษณ์ของบอสเผยมั้ย”
จูเสี่ยวเช่อส่ายหน้า “ไม่หรอกครับ ศิลปะมาจากชีวิตแต่ก็มากกว่าชีวิต! ศิลปะคือสิ่งที่เราต้องปรับเสริมเพิ่มแต่ง ผมว่าบอสเผยไม่น่าจะว่าอะไรเพราะเป็นคนใจดี”
หวงซื่อปั๋วคิด “อืม ก็จริง!”
ทั้งสองตื่นเต้นขึ้นมาทันที
จูเสี่ยวเช่อเขียนบทตอนต่อไปต่อ มีหันมาถามหวงซื่อปั๋วเป็นพักๆ ถึงรายละเอียดชีวิตการทำงานในแต่ละวันของบอสเผย รวมถึงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่น่าสนใจระหว่างการพัฒนาเกม
หวงซื่อปั๋วเริ่มซื้ออุปกรณ์และหาโปรดิวเซอร์ คนตัดต่อ และอื่นๆ สำหรับขั้นตอนหลังการถ่ายทำ
ถ้าคืบหน้าไปแบบนี้ ภายในสองถึงสามวันพวกเขาน่าจะได้เริ่มเปิดกล้องอย่างเป็นทางการ
…
วันที่ 9 กุมภาพันธ์…
อีกสามวันจะถึงเทศกาลตรุษจีน…
ช่วงนี้เผยเชียนค่อนข้างยุ่ง
แบบร่างสุดท้ายของเกมนักออกแบบเกมเสร็จสมบูรณ์แล้ว หลังช่วงตรุษจีนไปน่าจะเริ่มขั้นตอนพัฒนาเกมได้อย่างเป็นทางการ
ด้านร้านอินเทอร์เน็ตก็เตรียมการในช่วงเริ่มแรกไปบ้างแล้ว หลังตรุษจีนไปจะเริ่มตกแต่งภายใน เขาวางแผนไว้ว่าจะปรับปรุงร้านให้เสร็จภายในหนึ่งเดือน พอเตรียมการทุกอย่างเสร็จก็จะได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ
ส่วนชื่อร้าน เผยเชียนคิดเอาไว้แล้ว
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู[1]!
เขาอยากให้พนักงานในร้านอู้งานกันทุกวันจะได้ขาดทุนเร็วๆ
ชื่อร้านนี้เต็มไปด้วยความหวังและความปรารถนาของเผยเชียน เหมือนชื่อของบริษัทเถิงต๋า
เรื่องสุดท้ายที่เขาต้องจัดการคือ ถ่ายซีรีส์ตอนสั้นเรื่อง ‘ชีวิตประจำวันของบอสเผย’
ผู้กำกับจู่เสี่ยวเช่อแจ้งเผยเชียนว่าอยากจะถ่ายทำตอนแรกให้เสร็จภายในวันนี้ จะได้เอาไปปล่อยช่วงตรุษจีน
เพื่อแสดงความจริงใจ จู่เสี่ยวเช่อโอนเงินค่าแรงของทั้งสามซีซั่นเข้าบัญชีของเผยเชียนเรียบร้อยแล้ว ยอดสุทธิสามหมื่นหยวน!
ยอดความมั่งคั่งส่วนบุคคลของเผยเชียนที่เขาสามารถใช้จ่ายได้ตามใจชอบพุ่งขึ้นไปอยู่ที่ห้าหมื่นหยวนแล้ว!
สำหรับบอสเผยที่ไม่เคยร่ำรวยมาก่อน ยอดเงินนี้ทำให้เขารู้สึกดีมากๆ!
ก็เหมือนคำพูดที่ว่า…เงินมา งานก็ไป
บอสเผยพร้อมออกหน้ากล้องแล้ว
ช่วงบ่าย จูเสี่ยวเช่อ หวงซื่อปั๋ว และลูกน้องอีกสองคนก็มาถึงตามเวลานัด
จากอุปกรณ์ที่เอามาทั้งหมด ของที่แพงที่สุดคือกล้อง DSLR ราคาห้าหมื่นหยวน ส่วนขาตั้ง รีเฟล็กเตอร์ และอุปกรณ์อื่นๆ รวมแล้วไม่ถึงหมื่นหยวน



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี