ในช่วงเวลานั้น ชินี เยลส์ รู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอผ่านมาในคืนนี้ไม่มีสิ่งใดน่ากลัวเท่ากับผู้ชายคนนี้
เขาเป็นฝันร้ายของเธอ ข้อตกลงสกปรกนั่น!
เมื่อไหร่ก็ตามที่เธอนึกถึงผู้ชายคนนี้ เธอจะนึกถึงความเจ็บปวดราวร่างกายของเธอจะฉีกขาดในคืนนั้น เธอยังนึกถึงสิ่งที่ตระกูลเยลส์บอกกับเธอด้วยว่าพวกเขามีลูกสาวเพียงคนเดียว
ทันใดนั้น ศีรษะของชินีก็สั่นเบลอและเธอรู้สึกราวกับว่าเธอถูกโยนเข้าไปในความโกลาหล
ถ้าตระกูลเยลส์รู้ว่าเธอยังอยู่ในซิตี้เอส พวกเขาจะทำอะไรกับแม่ของเธอ...?
"คุณเป็นใคร?" ชายคนนั้นถาม เสียงของเขาไม่เย็นชาอีกต่อไป
ชีนี่ไม่กล้าตอบ เหงื่อเย็นๆ ผุดขึ้นมาบนฝ่ามือและแผ่นหลังของเธอก็เริ่มชื้นเหงื่อ
มีเสียงบ่นอยู่รอบ ๆ แต่ชายคนนั้นไม่ได้ใส่ใจเลย เขายังคงรอคำตอบและกดดันเธอ "ตอบผมเดี่ยวนี้!"
เขาโน้มตัวลงและลมหายใจเขาอยู่ใกล้ใบหูเธอ บังคับให้เธอพูด
เธอรู้สึกรวกับว่าถ้าเธอไม่พูดเขาจะแยกเธอออกเป็นชิ้นๆ
"ฉันควรทำอย่างไรดี?" ชินีคิดอย่างกังวล
แล้วเธอจะทำอะไรได้อีก?
ตอนนี้เธอจะหนีไปได้ยังไง?
"กริ๊ง-กริ๊ง--" โทรศัพท์ของเธอดังขึ้นได้เหมาะเจาะพอดี
ชินีไม่พูดอะไร เธอรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วพูดว่า "ที่รัก คุณอยู่ที่นี่แล้วเหรอ ฉันขอโทษ รออีกหน่อย ลิฟต์มันติดน่ะแล้วตอนนี้ฉันก็ออกไปไหนไม่ได้เลย"
ชินีสัมผัสได้ว่ามือที่เอวของเธอค่อยๆ คลายลง ความร้อนที่ข้างหูของก็เธอค่อยๆ หายไป
เธอถอนใจด้วยความโล่งอก
“ชินี พูดเรื่องอะไรน่ะ” คนที่อยู่ปลายสายถามด้วยความสงสัย
ชินีตั้งใจที่จะแกล้งทำจนจบ แม้ว่าเหงื่อจะซึมออกมาจากหน้าผากของเธอแล้วก็ตาม แต่เธอก็ยังพูดต่อไปว่า “ไม่ต้องห่วงนะคะคุณสามี ฉันจะไปถึงที่นั่นเร็วๆ นี้แหละ”
จากนั้นเธอก็วางสาย
“ติ๊ง—” ขณะเดียวกันประตูลิฟต์ก็เปิดออก
ชินีไม่มีเวลามาสนใจว่าดวงตาของเธอปรับเข้ากับแสงที่ส่องเข้ามาอย่างกะทันหันได้หรือไม่ เธอทนแสงสว่างที่แสบตา จับหน้ากากแน่นแล้วรีบออกจากลิฟต์
เมื่อชาร์ลส์ แฮงคส์แยกออกมาจากฝูงชน เขาก็มองไม่เห็นหญิงสาวผู้สวมหน้ากากอีกต่อไป
เขาขมวดคิ้วและสำรวจไปรอบ ๆ
“ผู้อำนวยการแฮงคส์ กำลังมองหาอะไรหรือครับ” แชนนอน เกตส์ถาม แต่เขาไม่ได้ตอบอะไร
ผู้จัดการวิลส์กลัวจนแทบร้องไห้ “คุณแฮงคส์ ผมไม่ทราบจริงๆ ว่าทำไมจู่ๆ ลิฟต์ถึง...”
เขาคิดว่าเขาจะต้องเดือดร้อนเพราะปล่อยให้บุคคลสำคัญติดอยู่ในลิฟต์ ยิ่งกว่านั้นทั้งมันมืดและแออัดมาก เขาเหงื่อออกไม่หยุด
สาวน้อยคนนี้คือซันนี่ ฟิลด์ เธอตัวเล็กและอวบเล็กน้อย เธอมีใบหน้ากลมและไว้ผมบ๊อบ เธอดูน่ารักน่าเอ็นดู
เธอเป็นเพื่อนที่ดีของชินี และเธอมักจะมาที่โรงพยาบาลเพื่อดูแลแม่ของชินี
“เธอทำให้ฉันกลัวนะ” ชีนีพูดแล้วสงบสติอารมณ์ลง เธอตบหลังเพื่อนเบาๆ แล้วอธิบายด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันบังเอิญเจอคนประหลาดในลิฟต์น่ะ ฉันเลยใช้เธอเป็นไม้กันหมา”
“มีผู้ชายคนหนึ่งที่เพ้อฝันถึงเธอและต้องการจะจีบเธอล่ะสิ” ซันนี่พูดพร้อมรอยยิ้มล้อเลียน
แม้ว่าชินีจะแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าธรรมดา แต่เธอก็ยังดูงดงาม เธอดูมีเสน่ห์แม้ว่าเธอจะไม่ได้แต่งหน้าก็ตาม
ซันนี่คิดว่าถ้าเธอเป็นผู้ชาย เธอจะพยายามให้ดีที่สุดที่จะไล่ตามชินีจนกว่าจะได้เธอมาครอง
เฮ้อ น่าเสียดายที่ชินีไม่สนใจผู้ชาย
แน่นอนว่าเธอก็ไม่สนใจผู้หญิงเช่นกัน
ชีวิตของชินีมีแต่เรื่องแม่ของเธอซึ่งป่วยหนักในขณะนี้
“เธอนี่ล้อฉันเล่นตลอดเลย” ชินีพูดขณะที่เธอก้มหน้าอย่างเขินอาย เธอสะกิดซันนี่ แล้วจู่ๆ เธอก็นึกถึงอะไรบางอย่างได้ขึ้นมา
เธอยกแขนแล้วขยับเข้าไปใกล้ซันนี่ “ซันนี่ เธอได้กลิ่นอะไรแปลกๆ บนตัวฉันไหม” เธอถาม
นี่เป็นครั้งที่สองที่ชายคนนั้นบอกว่าเธอมีกลิ่นที่หอมหวานติดตัว แต่เธอไม่ได้กลิ่นเลย
"ฉันได้กลิ่นมันนะ" ซันนี่สูดลมหายใจเต็มปอดแล้วพูดพร้อมรอยยิ้มว่า “มันเป็นกลิ่นของหญิงสาวบริสุทธิ์ไงล่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณคือคนพิเศษเพียงคนเดียว