“ว้าย… เสี่ย… อย่า… ”
หลินร้องห้าม ทำท่าตกใจ ก็ไม่ใช่ว่าเสี่ยไม่เคยทำอะไรแบบนี้
“วันนี้ลื้อจะออกไปข้างนอกกับเสี่ยมั้ย”
ปากชวน มือยังตะล่อมขยำสองเต้าเบาๆ
“ไม่ดีกว่า… หลินต้องปิดบัญชีของเดือนนี้ค่ะ”
จับมือเสี่ยออกจากสองเต้าที่กำลังโดนบีบ ขืนกายออกมาเสียก่อนที่ใครจะมาเห็น
“ตามใจลื้อนะ… งั้นเดี๋ยวตอนกลับเสี่ยจะซื้อขนมมาฝากนะจ๊ะ”
เสี่ยอนันต์เจ้าชู้ ปากหวาน และยังเป็นผู้ชายช่างเอาอกเอาใจ ไม่แปลกที่หลินจะแอบมีใจให้เสี่ยใหญ่เจ้าของบ้านคนนี้ เพราะว่าหล่อนเองก็เป็นแม่ม่าย ย่อมว้าเหว่เป็นธรรมดา แต่ที่ผ่านๆ มาก็ยังไม่เคยมีอะไรลึกซึ้งกับเสี่ย เพราะว่าหลินไม่ยอม ให้แค่บีบบ้างจับบ้าง แต่ยังไม่เคยเกินเลยถึงขั้นสอดใส่ร่วมเพศ
ตอนที่เสี่ยอนันต์รับหล่อนเข้ามาทำงานใหม่ๆ หลินมองปราดเดียวก็รู้ว่าอีตาคนนี้หัวงูและเจ้าชู้แค่ไหน นับเป็นข้อดีที่บ้านหลังนี้มีลูกสาวของเสี่ยอยู่ด้วย ทำให้หลินยังรอดปากเหยี่ยวปากกามาจนถึงทุกวันนี้ ทั้งที่รู้ว่าเสี่ยอนันต์พยายามหาโอกาสอยู่บ่อยครั้ง
“เสี่ยค่ะ… อย่าลืมนะว่าสิ้นปีนี้เสี่ยสัญญาว่าจะขึ้นเงินเดือนให้หลิน”
หญิงสาวรีบทวงเมื่อสบโอกาส
“ไม่ลืม… สิ้นปีอั๊วขึ้นเงินเดือนให้ลื้อแน่ๆ แต่ถ้าลื้ออยากได้เร็วกว่านั้น… ก็ควรจะมีอะไรมาแลกเปลี่ยน”
เสี่ยอนันต์เจ้าเล่ห์ เพราะของฟรีไม่มีในโลก แกกล่าวพลางจ้องมองสองเต้าอวบใหญ่ของหลินตาเป็นมัน
“แลกเปลี่ยน… เอ่อ เสี่ยหมายความว่า… ”
แค่มองหน้าก็เห็นดวงตาหื่นกามของเสี่ยอนันต์
“ใช่… ลองบอกมาสิว่าลื้อมีสิ่งแลกเปลี่ยนน่าสนใจพอที่จะเอามาเป็นข้อแลกเปลี่ยนหรือเปล่า”
เสี่ยหื่นเดินมาทรุดร่างสูงใหญ่ลงนั่งบนเก้าอี้หนังซึ่งเป็นโต๊ะทำงานของตน ตั้งอยู่อีกมุม ลึกเข้ามาด้านใน ไม่ห่างกันนักกับโต๊ะของหลิน
หลินรู้สึกว่าตัวเองกำลังโดนท้าทาย หล่อนขยับลุกขึ้นจากเก้าอี้ ก้าวเนิบช้าเข้ามาหาเสี่ยอนันต์ หยุดยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานของเขา สืบเท้าเข้ามาใกล้ทีละนิด เมื่อถึงระยะมือเอื้อม เสี่ยอนันต์ก็รวบเอวหล่อนมานั่งลงบนตัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กรรมกรสอนสวาทคุณหนู