ทางด้านของเจอรัลด์ แวกเนอร์เรียกให้เขาไปหา เพื่อจะได้เดินทางไปพบกับเจ้าแห่งวิญญาณด้วยกันที่โบสถ์แลงเวิร์น ซึ่งตั้งอยู่บนภูเขาแลงเวิร์นตามที่แวกเนอร์ได้ทำการนัดหมายไว้เมื่อวันก่อน
ในอดีต เจอรัลด์ไม่ค่อยเชื่อในสิ่งที่เรียกว่า ‘นักทำนายดวงชะตา’ สักเท่าไร เขามองคนเหล่านี้เป็นเพียงเป็นนักต้มตุ๋นชั้นยอดเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขาได้ค้นพบเรื่องราวเกี่ยวกับขอทานชราในภาพจิตรกรรมฝาผนัง มุมมองของเขาเกี่ยวกับนักพยากรณ์เหล่านี้ก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
นอกเหนือจากเหตุการณ์อันลึกลึบมากมายที่เขาได้เผชิญมากับตัวเองแล้ว เจอรัลด์ก็ยังมีเหตุผลบางประการที่ทำให้เขาเชื่อว่าเจ้าแห่งวิญญาณผู้นี้ คือผู้หยั่งรู้ที่แท้จริง เนื่องจากเขาสามารถทำนายสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับอลิซ แวกเนอร์ และตระกูลมินแชลได้แม่นยำอย่างเหลือเชื่อ
ในเมื่อเจ้าแห่งวิญญาณสามารถคาดการณ์เรื่องที่เขาและแวกเนอร์จะพบกันได้แล้ว เจอรัลด์จึงคิดว่า มีความเป็นไปได้ที่เขาจะรู้ว่ามิล่ากับลุงของเขาอยู่ที่ไหนในตอนนี้
เมื่อคิดเช่นนั้น เจอรัลด์ก็เกิดรู้สึกมีความมุ่งมั่นที่อยากจะเจอเจ้าแห่งวิญญาณมากขึ้นกว่าเดิม
ภูเขาแลงเวิร์นตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองฮาลิมาร์ค มันถูกล้อมรอบไปด้วยหน้าผา และต้นไพน์เก่าแก่มากมาย หากใครได้ไปยืนอยู่บนยอดเขา ก็จะสามารถมองเห็นเมืองฮาลิมาร์คได้ทั้งเมือง เนื่องด้วยมันเป็นเมืองที่ค่อนข้างใหญ่ ใครที่ได้มองมันจากยอดเขาก็จะเห็นอาณาบริเวณของเมืองที่ไกลจนสุดลูกหูลูกตา บางทีก็อาจจะเห็นสุดเขตของเมืองที่มีลักษณะเหมือนกำลังบรรจบกับขอบฟ้า
เวลาที่เรามองลงไปจากที่สูง เราก็มักจะเห็นพื้นที่ที่กว้างใหญ่ไพศาลมีขนาดเล็กเท่ากับกล่องไม้ขีดไฟ คนที่ได้เห็นภาพภาพนั้นอาจจะรู้สึกได้ว่า มนุษย์เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ เมื่อเทียบกับความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ
บางครั้งพื้นที่เชิงเขาก็จะคราคร่ำไปด้วยผู้คนมากมาย บางคนเดินทางมาที่ภูเขาแลงเวิร์นเพื่อที่จะอธิฐาน และอีกหลายคนก็เดินทางมาที่นี่เพื่อเยี่ยมเยียนเจ้าแห่งวิญญาณ ด้วยความหวังที่จะให้ท่านทำนายดวงชะตาให้
สำหรับโบสถ์แลงเวิร์นนั้น ก็เป็นเพียงโบสถ์ธรรมดาที่ดูเก่าแก่ เมื่อมองจากระยะไกล มันดูเป็นโบสถ์ที่ไม่ได้ใหญ่จนเกินไปนัก ในขณะที่โบสถ์ส่วนมากในปัจจุบันมักจะถูกตกแต่งให้ออกมาดูสวยงามและหรูหรา แต่สำหรับโบสถ์แลงเวิร์นแล้ว กำแพงของมันถูกสร้างจากก้อนดินสีเทา ที่ถูกตกแต่งด้วยอิฐและกระเบื้องสีแดง ซึ่งมีให้พบเห็นทั่วทั้งบริเวณของโบสถ์
นอกจากผู้คนมากมายจะชอบเดินทางมาที่นี่เพื่ออธิฐานและพบกับเจ้าแห่งวิญญาณแล้ว มันยังเป็นที่รู้จักในเรื่องของการคงความเรียบง่าย และละเอียดอ่อนเอาไว้ได้อย่างดี จึงทำให้มันมีความแตกต่าง ไม่เหมือนกับโบสถ์อื่น ๆ
กลับมาที่เจอรัลด์และแวกเนอร์ พวกเขาทั้งสองเพิ่งเดินทางมาถึงเชิงเขา ขณะนี้เส้นทางที่จะใช้เดินขึ้นไปสู่ยอดเขาเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย
เมื่อมองไปรอบ ๆ เจอรัลด์ก็ต้องหยุดนิ่งไปชั่วครู่ เขาไม่ค่อยแน่ใจว่าเขาคิดไปเองหรือไม่ แต่เขารู้สึกเหมือนเห็นผู้หญิงที่ดูงดงามมากคนหนึ่งยืนห่างจากเขาไปไม่ไกลนัก หรืออย่างน้อย เธอก็ดูงดงามมากจากที่เจอรัลด์มองเห็นจากด้านหลัง
เขามองเห็นคนรับใช้กำลังพาเธอขึ้นรถ แต่เขาไม่สามารถมองเห็นแม้แต่เสี้ยวของใบหน้าเธอได้เลย เพราะคนรับใช้ของเธอกำลังถือร่มกันแดดบังอยู่ ซึ่งร่มคันนั้นได้บดบังเธอทั้งตัว ขณะที่กำลังก้าวขึ้นรถ
ดวงตาของเขาเบิกโพลง ขณะที่กลืนน้ำลายลงคอ เขาได้แต่มองรถของเธอขับออกไปช้าๆ
‘...เธอ…เธอช่างดูคล้าย…!’
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน