“...เธอ...ไม่รู้ว่าความรักคืออะไรอย่างนั้นเหรอ...? ...นี่คือเหตุผลว่าทำไมเธอถึงทำเกินกว่าเหตุเมื่อเธอต้องจัดการกับปัญหา! ...ดูเอาเถอะ ฉันจะทำให้เธอรู้ว่าชื่อเสียงและความร่ำรวยก็เป็นเพียงภาพลวงตา ที่สร้างความสุขให้กับผู้คนเท่านั้น... ไม่ว่าเธอจะได้รับมากมายเท่าไร เธอจะไม่มีวันมีความสุขที่แท้จริง หากไม่รู้ว่าความรักคืออะไร! สุดท้ายแล้ว ด้วยหัวใจอันว่างเปล่า เธอจะรักษาสิ่งที่เธอรักเอาไว้ไม่ได้... และเธอจะต้องทนทุกข์ทรมานต่อไปจนกระทั่งวันตาย นอกจากเธอจะทำความเข้าใจกับมัน!” แจสมินอธิบาย
ถึงเธอจะไม่รู้ว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเธอนั้นเป็นใคร แต่นั่นไม่ใช่สิ่งสำคัญในตอนนี้ สิ่งที่สำคัญคือ แม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะแข็งแกร่งมากเพียงใด แต่เธอก็มีจุดอ่อน
ดูเหมือนว่าเธอได้รับความเจ็บปวดจากความรักมาอย่างแสนนสาหัส
ควีนน่าเองก็อดไม่ได้ที่จะมองแจสมินด้วยความแปลกใจ หลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด ในตอนแรกควีนน่าคิดจะฆ่าแจสมิน หลังจากได้สร้างความหวาดกลัวอย่างมหันต์ให้กับหญิงสาว จนแสดงสีหน้าหวาดกลัวสุดขีดออกมา แต่ในตอนนี้เธอรู้สึกราวกับว่าเธอได้พ่ายแพ้ให้กับแจสมินเสียแล้ว
ถึงอย่างไรก็ตาม หญิงสาวก็ไม่ได้สนใจคำพูดข่มขู่ของเธอแม้แต่น้อย ยิ่งทำให้ควีนน่ารู้สึกพ่ายแพ้
“...ฉันยอมรับเลยว่าเธอฉลาด... ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เธอทำให้ฉันซาบซึ้งใจมาก... เอาล่ะ ช่วยฟังฉันหน่อย เดี๋ยวฉันจะเล่านิทานให้เธอฟัง และหลังจากที่ได้ฟังแล้ว ฉันอยากให้เธอช่วยตัดสินว่าผู้หญิงสองคนในนิทานเรื่องนี้ ใครเป็นคนผิด! ถ้าเธอให้คำตอบที่ชัดเจนกับฉันได้ ฉันจะลองคิดเรื่องที่จะปล่อยเธอไป” ควีนน่าตอบ ขณะที่ขยับไปนั่งข้าง ๆ
แจสมินไม่ได้เอ่ยตอบ แต่ทำเพียงจ้องมองไปยังหญิงสาวที่นั่งอยู่เท่านั้น
เมื่อเห็นเช่นนั้น ควีนน่าจึงเริ่งเล่านิทานของเธอ
“กาลครั้งหนึ่ง มีพี่น้องฝาแฝดอยู่คู่หนึ่ง อันที่จริงแล้วเธอทั้งคู่เหมือนกันจนแยกไม่ออก พี่สาวคนโตชื่อโคลอี้ ส่วนคนน้องชื่ออินดิโก้ สองพี่น้องรักใคร่ผูกพันกันมาตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก พวกเธอมีความสุขกับสิ่งต่าง ๆ ร่วมกันมาโดยตลอด แต่ยังต้องอดทนต่อความยากลำบากที่เกิดขึ้นกับพวกเธออีกด้วย”
“ทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินต่อไป จนกระทั่งพวกเธอได้พบกับชายคนหนึ่งเมื่ออายุได้สิบหกปี ชายคนนี้ไม่เพียงแต่ขยันขันแข็ง แต่ยังเป็นคนที่มีพรสวรรค์ตั้งแต่อายุยังน้อย นอกจากนั้นเขายังเป็นคนที่หล่อเหลามาก! ราวกับว่าเขาเป็นคนเก่งไปเสียทุกด้าน! ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสองพี่น้องนี้ต่างก็ตกหลุมรักเขาพร้อมกัน...”
แต่ความรักที่พวกเธอมีให้กับเขานั้น คล้ายคลึงกับความรักที่แจสมินเคยอธิบายเอาไว้ก่อนหน้านี้ แม้ว่าเธอทั้งคู่จะเพิ่งมาเข้าใจในภายหลัง
ชายผู้มีพรสวรรค์นั้นตกหลุมรักโคลอี้ ซึ่งเป็นแฝดคนพี่ ในขณะที่พวกเขาทั้งสามคนจูงมือกันเพลิดเพลินไปกับความงดงามของแสงอาทิตย์ยามอัสดง และแสงอาทิตย์ยามอรุณรุ่งอยู่ด้วยกันนั้นเอง ในที่สุดโคลอี้ก็เริ่มรู้สึกไม่พอใจขึ้นมา
เธอไม่เพียงต้องการให้เขาเป็นของเธอแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น แต่เธอยังรู้สึกสังหรณ์ใจว่า ในอนาคตน้องสาวจะทำลายความสัมพันธ์ของเธอกับเขา
นี่ไม่ใช่การคิดไปเองโดยไม่มีเหตุผลเหมือนกัน เพราะเธอทั้งคู่ถูกนำไปเปรียบเทียบกันมาตลอดนับตั้งแต่พวกเธอยังเด็ก ขณะที่น้องสาวขึ้นชื่อว่าเฉลียวฉลาด ว่านอนสอนง่าย และเป็นมิตร แต่กลับไม่มีใครชื่นชมโคลอี้เลย
ถึงแม้ในตอนแรกเธอจะทำใจยอมรับได้ แต่ตอนนี้ชายผู้มีพรสวรรค์ได้ตกหลุมรักเธอแล้ว เธอจึงเริ่มจริงจังมายิ่งขึ้น ยิ่งรู้ว่าน้องสาวเก่งกว่ามาก เมื่อเทียบกับเธอ เธอจึงรู้ดีว่าคนอื่น ๆ จะเห็นความสามารถ และนิสัยที่ดีกว่าของอินดิโก้ได้ง่ายกว่า รวมถึงชายผู้มีพรสวรรค์ด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน