มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน นิยาย บท 1292

เมื่อก้าวเท้าออกจากห้องโถงใหญ่ ผู้หญิงสองสามคนก็เข้ามาล้อมรอบเจอรัลด์อย่างตื่นเต้นทันที พวกเธอเห็นว่าเขาเป็นคนที่ดูแข็งแกร่ง และน่าดึงดูดมากในขณะนี้ พวกเธอบางคนยังกระตือรือร้นที่จะสอบถามข้อมูลส่วนตัวของเขา เพื่อที่จะได้ทำความรู้จักเขาให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

“คุณแข็งแกร่งมากเลย เจอรัลด์!”

"จริงด้วย! เจอรัลด์ คุณคือคุณคลอฟอร์ดในตำนานจากเมืองเมย์เบอร์รี่จริง ๆ เหรอ…? เอเดนไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้เราฟังเลย!”

“แล้วถ้าผมเป็นจริง ๆ ล่ะ? มันสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ?” เจอรัลด์ถามอย่างเป็นกันเอง

เมื่อได้ยินเช่นนั้น พวกผู้หญิงก็เม้มปากด้วยความผิดหวังทันที เห็นได้ชัดว่าเจอรัลด์ไม่ได้สนใจพวกเธอเลยแม้แต่น้อย

เฟอร์นันโดเองก็กลายเป็นคนพิการครึ่งตัวไปแล้ว เนื่องจากการเตะเพียงครั้งเดียว กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ทันทีที่เขาตื่นขึ้น เขาพบว่าเขาไม่สามารถใช้แรงแขนของเขาได้อีกต่อไปแล้ว

เนื่องจากตระกูลดอว์สันและตระกูลไซมส์มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาหลายชั่วอายุคน เหตุการณ์ดังกล่าวจึงทำให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ในหมู่สมาชิกตระกูลไซมส์ ท้ายที่สุด เฟอร์นันโดไม่เพียงแต่เป็นดาวรุ่งในสมาคมศิลปะการต่อสู้เท่านั้น แต่เขายังเป็นผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้ารับการฝึกฝนพิเศษจากพวกกันเทอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในตระกูลลับที่สำคัญอีกด้วย

เขาวางแผนที่จะเข้าร่วมการฝึกทดลองในวันรุ่งขึ้น แต่เห็นได้ชัดว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากสภาพร่างกายของเขาในปัจจุบัน

ไม่คิดว่าเฟอร์นันโดจะต้องถูกทุบตีอย่างหนัก เพียงเพราะความเข้าใจผิดบางอย่างที่หญิงสาวแห่งตระกูลไซม์ มาทิลดา ที่มีต่อเจอรัลด์! พวกตระกูลไซม์ดูจะให้ความสำคัญกับความเข้าใจผิดนั้น เพื่อผลประโยชน์ของพวกเขาเองเสียมากกว่า

ไม่ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร ทั้งแชนดอน ไซม์ ซึ่งเป็นผู้นำของตระกูลไซม์ และแขกของครอบครัวที่เป็นชายวัยกลางคนจากตระกูลกันเทอร์ ต่างก็ตกใจ เมื่อได้เห็นสภาพอันน่าสยดสยองของเฟอร์นันโด ขณะที่สมาชิกของตระกูลไซม์คนอื่น ๆ กำลังอุ้มเขาอยู่ แน่นอนว่าสิ่งนี้ทำให้แชนดอนต้องหันไปถามลูกสาวของเขาว่าเกิดอะไรขึ้น ชายวัยกลางคนเองก็คุ้นเคยกับตระกูลดอว์สันเป็นอย่างดี ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าเฟอร์นันโดเป็นคนที่ได้รับการฝึกฝึกฝนวิชามาอย่างดี

อย่างไรก็ตาม หลังจากถูกพ่อของเธอซักถาม มาทิลด้าก็เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้เขาฟังอย่างละเอียด เธอยังแสดงรูปถ่ายของเจอรัลด์ให้เขาดูอีกด้วย

เมื่อเธอเล่าเสร็จแล้ว ชายวัยกลางคนจากตระกูลกันเทอร์ก็มองรูปถ่าย ก่อนจะหรี่ตาลงทันที ขณะที่เขาพูดว่า “คุณ… คุณทำให้เขาคนนี้ขุ่นเคืองใจจริง ๆ เหรอ?!”

"…โอ้? คุณรู้ด้วยเหรอว่าเขาเป็นใคร คุณชายสาม? เขาเป็นทายาทเศรษฐีจากเมย์เบอร์รี่จริง ๆ เหรอ?” แชนดอนถามด้วยความตกตะลึง

คุณชายสามที่มีชื่อว่าฌอน กันเทอร์ มีหน้าที่เป็นสื่อกลางในการสื่อสารระหว่างตระกูลกันเทอร์กับโลกภายนอก ด้วยเหตุนี้ จึงไม่แปลกใจเลย ที่เขาค่อนข้างสนิทสนมกับคนในตระกูลไซม์

“ผมเคยเห็นรูปถ่ายของเขามาก่อน และนี่คือคุณคลอฟอร์ดจากเมืองเมย์เบอร์รี่อย่างไม่ต้องสงสัย คุณไม่รู้หรอกว่าศิลปะการต่อสู้อันลึกลับของเขานั้นโหดร้ายและทรงพลังเพียงใด ผมจะบอกให้รู้เอาไว้เลยว่า คน ๆ นี้จบชีวิตชาวโมลเดลจากทางเหนือ ชาวลอง และแม้แต่ชาวซุยเลอร์จากเมืองซัลฟอร์ดด้วยตัวของเขาเองทั้งหมด!” ฌอนอธิบาย

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ดวงตาของแชนดอนก็เบิกกว้าง จนดูเหมือนว่าจะหลุดออกมาจากเบ้าได้ในทุกวินาที มาทิลดาเองก็เอามือขึ้นมาปิดปากด้วยความตกใจ

หลังจากนั้น ทั้งพ่อและลูกสาวก็ถามขึ้นพร้อมกันว่า “มัน… มันเป็นความจริงเหรอ…?”

“มีเหตุผลที่ผมจะต้องโกหกด้วยเหรอ? ในเมื่อเขาอยู่ที่นี่แล้ว ผมขอยืนยันกับคุณว่า เขาเดินทางมาที่นี่เพื่อพบกับตระกูลกันเทอร์อย่างแน่นอน อันที่จริงแล้ว คุณหญิงกันเทอร์ ผู้นำของตระกูลได้ทำนายเอาไว้ล่วงหน้าแล้วว่า เขาจะมาถึงไม่ช้าก็เร็ว ด้วยเหตุนี้ เธอจึงสั่งให้ผมไปรับเขา เมื่อเขาเดินทางมาถึงแล้ว คุณหญิงกันเทอร์ทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าได้อย่างถ่องแท้จริง ๆ!” ฌอนตอบ พร้อมกับถอนหายใจ

“ถ้าอย่างนั้น… ก็หมายความว่า เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติของตระกูลกันเทอร์เหรอ?” แชนดอนกล่าว ความรู้สึกหวาดกลัวปรากฏขึ้นอย่างชัดเจนภายใต้น้ำเสียงของเขา

“จะว่าอย่างนั้นก็ได้ ผมไม่เพียงอยากจะเตือนคุณว่าเขาทรงพลังเพียงใด แต่ผมยังได้ยินมาอีกว่า กลุ่มประตูแห่งการพิพากษา และเหล่ากองกำลังที่ร้ายกาจของควีนน่าได้ส่งคนที่มีฝีมือออกตามล่าเขา อย่างไรก็ตาม แม้แต่ผู้ล่าที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาก็ไม่สามารถฆ่าเขาได้! ด้วยเหตุนี้ ผมจึงอยากจะย้ำกับพวกคุณอีกทีว่า คุณคิดผิดแล้วที่ไปมีเรื่องกับคน ๆ นี้!” ฌอนตอบพร้อมกับส่ายหัว

“ฉ ฉันจะไปรู้ได้อย่างไรว่าเขาทรงพลังขนาดนั้น… เวรกรรม ถ้าฉันรู้ ฉันคงไม่กล้าทำให้เขาขุ่นเคืองใจตั้งแต่แรก!” มาทิลด้าพูดอย่างหวาดกลัว

“…ถึงกระนั้น ทำไมพวกกลุ่มประตูแห่งการพิพากษา และเหล่ากองกำลังที่ร้ายกาจของควีนน่าถึงต้องการที่จะจับเขาตั้งแต่แรก? ไม่เพียงเท่านั้นนะ พวกกันเทอร์เองก็…” แชนดอนถามด้วยเสียงที่แผ่วเบาในช่วงท้ายของประโยค

“เอาเป็นว่า เขาถือของบางอย่างที่พิเศษเอาไว้กับตัว ตราบใดที่เราสามารถแย่งชิงของชิ้นนั้นมาได้ ความลับสำคัญก็จะถูกเปิดเผยอย่างแน่นอน!” ฌอนตอบ

“ความลับสำคัญ…?” แชนดอนถาม ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยความสงสัย

หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็เงยหน้าขึ้นอีกครั้งก่อนจะกระซิบว่า “…เป็นไปได้ไหมว่าพวกกันเทอร์ต้องการที่จะ…”

ประโยคของแชนดอนจบลงกลางคัน ในวินาทีที่เขาเห็นฌอนจ้องหน้าเขาเหมือนจะเป็นการเตือน แต่ถึงกระนั้น แชนดอนก็รู้ว่าข้อสันนิษฐานของเขาน่าจะถูกต้องที่สุด เมื่อคิดได้เช่นนั้น เขาจึงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

หลังจากนั้นไม่นาน เจอรัลด์ก็กลับมาถึงที่โรงแรมของเขาในที่สุด แน่นอนว่าห้องส่วนตัวของเขาในโรงแรมได้ถูกทำลาย โดยผู้ที่มาทิลดาส่งมาตามล่าเขา

หลังจากเห็นสภาพที่เละเทะของห้องพักแล้ว เชสเตอร์ก็ต้องการที่จะมุ่งหน้าไปฆ่าคนจากตระกูลไซม์ทันที! อย่างไรก็ตาม เจอรัลด์หยุดเขาเอาไว้ ก่อนที่เขาจะออกจากห้องด้วยซ้ำ

“ผมขอพูดได้ไหมครับว่า ปกติคุณไม่ได้เป็นแบบนี้เลยนะครับ คุณคลอฟอร์ด! การที่พวกตระกูลไซมส์พุ่งเป้ามาที่เราหลายครั้ง แน่นอนว่าเราไม่ควรจะปล่อยพวกมันไปง่ายดาย แบบนี้เลย!” เชสเตอร์กล่าว

เจอรัลด์ส่ายหัวก่อนจะตอบว่า “เอาเป็นว่าฉันรู้สึกไม่สบายใจมาตลอดช่วงเวลานี้… เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ฉันไม่อยากเสียเวลา และพลังงานไปกับพวกตระกูลไซม์ อย่างน้อยที่สุด ก็ในตอนนี้!"

ก่อนที่เชสเตอร์จะได้ตอบ หางตาของเขาก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างวางอยู่บนโต๊ะในห้อง เชสเตอร์หรี่ตาเล็กน้อย จากนั้นเขาก็พูดว่าอย่างงุนงงว่า “…คุณคลอฟอร์ด ดูเหมือนว่าอาจมีคนเข้ามาในห้องของเรา…”

เมื่อมองดูความยุ่งเหยิงที่มาทิลด้าก่อขึ้นตรงหน้า เจอรัลด์ก็ขมวดคิ้วขณะที่เขาตอบว่า “…ใช่ ฉันพอจะดูออกเหมือนกัน…”

“…เดี๋ยวก่อน ไม่ นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมกำลังพูดถึง! ดูนั่นสิ! บนโต๊ะ! มีคนทิ้งข้อความแปลก ๆ ไว้ให้คุณ มันเหมือนข้อความเชิญชวนให้คุณไปพบพวกเขา!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน