องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ นิยาย บท 523

ฉีเฟยอวิ๋นออกมาจากในวัง อาอวี่รออยู่ตรงหน้าประตูวัง หลังจากขึ้นรถม้าแล้วฉีเฟยอวิ๋นก็เห็นหนานกงเย่อุ้มลูกชายคนเล็กรอนางอยู่ในรถม้า

“ท่านอ๋องมาที่นี่ได้อย่างไร?”

“ข้าไม่คิดที่จะอยากมาแต่เขาไม่กินไม่ดื่มแล้วข้าจะทำเช่นไรได้?” เมื่อมองดูลูกชายหนานกงเย่ก็โมโหแล้วอยากจะโยนทิ้งออกไปแต่ก็ทนอาลัยอาวรณ์ไม่ได้

ฉีเฟยอวิ๋นเดินไปยังด้านข้างของหนานกงเย่แล้วอุ้มลูกชายไว้ในอ้อมแขน ทันทีที่นั่งลงก็เห็นลูกชายของลืมตาขึ้น เมื่อเห็นฉีเฟยอวิ๋นเจ้าห้าคับข้องใจเล็กน้อยแล้วขมวดคิ้วขึ้นจากนั้นก็ไม่มีการตอบสนองอื่นใด

ฉีเฟยอวิ๋นก้มศีรษะลงจูบใบหน้าอันเล็กของลูกชาย: "คิดถึงแม่แล้วใช่ไหม?"

เจ้าห้ามองแล้วหลับตาลง

หนานกงเย่ดึงฉีเฟยอวิ๋นเข้าไปกอดจากนั้นฉีเฟยอวิ๋นก็สลัดอยู่สองครั้ง สลัดไม่ออกจึงได้เพียงแต่พิงหนานกงเย่เอาไว้

ไม่ได้พักผ่อนเท่าใดเลยทั้งคืนฉีเฟยอวิ๋นก็ผล็อยหลับไปพร้อมกับอุ้มลูกชายอยู่

หนานกงเย่โมโหจนปวดใจและเบื่อหน่ายกับวังหลวงมากขึ้นอยู่บ้าง ทุกครั้งที่มาไม่เคยมีสิ่งใดดีเลย

รถม้ากลับไปถึงจวนอ๋องเย่หนานกงเย่จึงได้อุ้มภรรยาและลูกลงจากรถม้า ฉีเฟยอวิ๋นนอนหลับพักผ่อนไปวันหนึ่งตกกลางคืนนางถึงได้ตื่นนอน

หลังจากตื่นนอนแล้วก็แกล้งลูกชายซักพักจากนั้นถามถึงเรื่องของต้ากั๋วจิ้ว

หนานกงเย่พิงอยู่ด้านข้าง: “ปัญหาของกรมการคลังนั้นไม่ใช่เรื่องในวันหรือสองวัน หลักฐานถูกรวบรวมครบถ้วนมานานแล้ว คราวนี้ต้ากั๋วจิ้วเกิดเรื่องผู้คนด้านล่างต่างก็ให้ความร่วมมืออย่างแข็งขัน ไม่มีผู้ใดที่ยังแบกเอาไว้ไม่รับ”

ฉีเฟยอวิ๋นถามว่า: “เช่นนั้นแล้วเงินหล่ะ?”

"ยึดเงินแต่ละเรือนแต่ละครอบครัวมาได้เป็นจำนวนหลายสิบล้านตำลึงซึ่งเพียงพอเติมเต็มท้องพระคลังแล้ว"

"มากมายเช่นนี้?"

“อืม” หนานกงเย่นั้นไม่ได้มีความสุขนัก แม้ว่าเงินจะเพียงพอแต่เขาก็ไม่ได้มีความสุขขึ้นมา

เห็นเขาหดหู่ใจฉีเฟยอวิ๋นจึงถามว่า: "ท่านอ๋องโกรธว่าเพียงแค่กรมการคลังหนึ่งกรมก็โลภเงินได้จำนวนมากเช่นนี้หรือ?"

"เมืองต้าเหลียงถูกทำลายโดยสัตว์รังควานเหล่านี้ หากไม่ใช่เพราะพวกเขาท้องพระคลังก็ไม่ว่างเปล่า" หนานกงเย่เกลียดผู้ที่คาดหวังเอาไว้แต่ไม่ได้ความ ราชสำนักเลี้ยงกลุ่มคนอันใดเอาไว้กัน

ฉีเฟยอวิ๋นนั้นเปิดใจมองได้: "ท่านอ๋อง ตามราชวงศ์ตามรัชสมัยเป็นมาตามในลักษณะนี้ทั้งสิ้น ท่านเปิดใจเอาไว้บ้างจะดีกว่า

ความโกรธนั้นจะทำให้โมโหจนตายจริงๆซะแล้ว"

"ข้าไม่จำเป็นต้องโกรธพวกเขา" หนานกงเย่พิจารณา: "แม้ว่าต้ากั๋วจิ้วจะกระทำผิดแต่โทษนั้นไม่ถึงตาย นอกจากนี้เว้นแต่เรื่องที่เงินบรรเท่าทุกข์ในกรมการคลังถูกยึดแล้ว เรื่องอื่นนั้นก็ไม่มีก็นับว่าน่าชื่นชมยินดีในงานยากเย็นยิ่งนัก”

“เช่นนั้นท่านอ๋องตั้งใจจะละเว้นโทษต้ากั๋วจิ้งหรือ?”

“ไม่ได้อยู่แล้ว ในเมื่อเขายึดเงินบรรเทาทุกข์ไปแล้ว ไม่ลงโทษสถานหนักก็ยากที่จะโน้มน้าวราษฎรได้”

“เช่นนั้นท่านอ๋องหมายความว่า?”

“ให้ออกจากตำแหน่งแล้วยึดทรัพย์สินดูว่าเขามีเงินเท่าไหร่กันแน่” หนานกงเย่กล่าวอย่างเบาสบาย ส่วนฉีเฟยอวิ๋นมองดูเป็นเวลานานโดยไม่คืนสติ

“ท่านอ๋อง ท่านเป็นหลานชายผู้หนึ่ง เพื่อสร้างผลงานยึดทรัพย์สินของลุงแท้ๆเหมาะสมแล้วหรือ?”

“เหมาะสมไม่เหมาะสมอันใด? ตัวข้าอยู่ในตำแหน่งใดก็ทำตามตำแหน่งหน้าที่นั้นเท่านั้น” หนานกงเย่กล่าวด้วยท่าทางอันน่าเชื่อถือ

ฉีเฟยอวิ๋นขบขัน: "ข้าว่าท่านอ๋องโลภในเงินเล็กน้อยนั้น ตอนนี้ท้องพระคลังว่างเปล่าและบ้านเมืองโดยรอบก็ไม่ได้รอเวลาพักผ่อนกันทั้งนั้น ต้องป้องกันไม่ให้เมืองอื่นมารุกรานแล้วยังต้องแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเมืองต้าเหลียงซึ่งที่ท่านอ๋องขาดอยู่ก็คือเงิน จึงไม่ปล่อยให้โอกาสนี้ผ่านไปได้อยู่แล้ว"

“ก็มีอวิ๋นอวิ๋นที่พูดมาก” หนานกงเย่อุ้มลูกชายเดินออกประตูไป

ทางด้านฉีเฟยอวิ๋นนี้จัดเตรียมครู่หนึ่งแล้วนำกล่องยาเข้าวังไป

ฉีเฟยอวิ๋นเข้าวังหนานกงเย่ก็เข้าวังไปเป็นเพื่อนนาง และยังอุ้มเจ้าห้าไปยังตำหนักเฉาเฟิง พระพันปีตรัสไว้ว่าไม่ทรงพบผู้ใดแต่พอได้ยินว่าหลานชายมาแล้วก็ทรงพบเลยทันที

พระพันปีทรงพระปิติยิ่งนัก ทรงอุ้มหลานชายวนไปวนมาอยู่ในห้องบรรทมอย่างชื่นชอบมากยิ่งนัก

เด็กอายุสามเดือนกว่าก็สามารถนั่งได้แล้วช่างเป็นเรื่องน่าประหลาดใจนัก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ