หานซีกล่าวอย่างใจเย็น
แม้ว่าเธอไม่มีอำนาจเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการของเอ้าเฟิง แต่ฉินหมิงในฐานะผู้รับผิดชอบในโครงการร่วมทุนกับกลุ่มธุรกิจโจวชื่อกรุ๊ปก็มีอำนาจเข้าไปแทรกแซงการผลิตสินค้าทั้งหมดที่จัดหาให้กับกลุ่มธุรกิจ
โจวชื่อกรุ๊ปได้ ไม่ถือว่าข้ามหน้าข้ามตาใคร
"ว่าไงนะ?"
"นี่......"
กัวลี่ตะลึงเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเลขาตัวเล็ก ๆ อย่างฉินหมิงจะมีอำนาจมหาศาลขนาดนี้ ขนาดเจ้าหน้าที่ระดับสูงอย่างหานซีซึ่งเป็นผู้ช่วยท่านประธานยังต้องทำงานให้กับฉินหมิง!
นี่มันไม่น่าเหลือเชื่อเกินไปหน่อยเหรอ?
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาที่ได้ยินว่ามีเลขาที่เก่งขนาดนี้!
“ผู้อำนวยการกัว ไม่ต้องกังวล ผมจะรายงานเรื่องนี้ให้ประธานหลินทราบตามความเป็นจริงในภายหลัง”
“จากนั้นเราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยให้ทุกคนได้รับผลประโยชน์ที่พวกเขาสมควรได้รับครับ”
ฉินหมิงรับปากอย่างมั่นใจ
“เลขาฉิน ขอบคุณ ขอบคุณ…”
กัวลี่ดีใจมากและคว้ามือฉินหมิงไว้อย่างตื่นเต้น เขาโค้งคำนับและจับมืออีกฝ่ายด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความซาบซึ้ง
“ผู้อำนวยการกัว คุณเกรงใจเกินไป นี่เป็นเรื่องที่สมควรต้องทำอยู่แล้ว…”
ฉินหมิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ทุกสิ่งที่กัวลี่ทำก็เพื่อประโยชน์ของพนักงานระดับล่าง เขาเป็นผู้นำที่ดีซึ่งหาได้ยากยิ่ง เขาจึงอดไม่ได้ที่จะนับถือกัวลี่อยู่ในใจ
เมื่อเห็นว่าฉินหมิงรับปากอย่างง่ายดาย หานซีที่กำลังจะอ้าปากพูดก็ต้องชะงักไป
“เลขาฉิน ผมยังมีอีกเรื่องหนึ่ง…”
"ผมทำงานในบริษัทแห่งนี้มาเกือบสิบปีแล้ว และผมก็ได้เห็นการเติบโตและการพัฒนาอย่างรวดเร็วของบริษัทในช่วงสองปีที่ผ่านมากับตาตัวเอง..."
“ถึงแม้ผมจะไม่ได้มีความสามารถมากมายอะไรนัก แต่ผมก็มีประสบการณ์ด้านการผลิตและการสกัดเครื่องสำอาง…”
"ผมได้ศึกษาอย่างรอบคอบแล้วว่าหากมีสารประกอบบางชนิดถูกเติมลงไปในระหว่างกระบวนการสกัดวัตถุดิบ มันจะช่วยทำให้การผสมวัตถุดิบทำได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการสกัดได้ด้วย..."
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตารัก มรดกเซียน
พระเอกน่ารำคาญ...
รออัพเดท ตอนต่อ ๆ ไป ครับ...