เรื่องมันก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร เสียเวลาอีกหน่อยจะเป็นไรไป
หลังจากนั้น ผู้เชี่ยวชาญหลายคนจากแผนกค้นคว้าและพัฒนา ได้ปรับเครื่องตรวจใหม่เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีข้อผิดพลาดหรือปัญหาใด ๆ จากนั้น พวกเขาก็เทสารละลายทดสอบลงในเครื่องทีละตัวและทดสอบอย่างระมัดระวังมากขึ้น
ไม่นานผลตรวจก็ออกมา
เมื่อเห็นว่าข้อมูลการทดสอบที่แสดงบนหน้าจอขนาดใหญ่เหมือนกับข้อมูลแรกทุกประการเอ้าเฟิงและผู้อำนวยการเฉิงรวมถึงผู้บริหารระดับสูงทุกคนที่มีข้อสงสัยก็เงียบไป
ช่วงเวลานี้ ในห้องทั้งหมดเงียบสงัด
ฉินหมิงเหลือบมองไปที่เอ้าเฟิงและผู้อำนวยการเฉิงและเป็นเขาที่ทำลายความเงียบนี้ลง “รองประธานเอ้าครับ ผู้อำนวยการเฉิงครับ ตอนนี้พวกคุณสองคนมีอะไรจะพูดอีกไหมครับ?”
“ผม…”
เอ้าเฟิงและผู้อำนวยการเฉิงใบหน้าถึงกับซีด ราวกับว่าพวกเขาพ่ายแพ้หมดท่า หัวใจของเขาห่อเหี่ยวมาก
พวกเขาทั้งสองใช้สมองคิดอย่างหนักไม่รู้ว่าฉินหมิงทำสำเร็จได้อย่างไร นี่มันยากที่จะเชื่อชัด ๆ !”
“ในเมื่อคุณทั้งสองคนไม่มีอะไรจะพูด อย่างนั้นถือว่าพวกคุณแพ้การเดิมพันครั้งนี้แล้วล่ะกันนะครับ!”
ฉินหมิงพูดอย่างเย็นชา
“นี่ฉินหมิง ให้มันน้อย ๆ หน่อย!”
“ถึงแม้คุณจะพัฒนาเวชสำอางออกมาได้ แต่ครั้งที่แล้วคุณเคยบอกไว้ว่า นอกจากจะพัฒนาเวชสำอางนี้ คุณยังต้องเพิ่มอัตราการกลั่นวัตถุดิบด้วย!”
“ถ้าตอนนี้คุณไม่ได้เพิ่มอัตราการกลั่นวัตถุดิบ ครั้งนี้ก็ไม่นับว่าคุณชนะ!”
เอ้าเฟิงขบฟัน ตั้งความหวังไว้ที่อัตราการกลั่นวัตถุดิบ
“ใช่ครับ ที่รองประธานเอ้าพูดมาถูกต้องเลยครับ!”
“หากคุณไม่มีความสามารถในการเพิ่มประสิทธิภาพในการกลั่น ก็ไม่ถือว่าชนะการเดิมพันครั้งนี้หรอกนะ!”
ผู้อำนวยการเฉิงรู้สึกมีแรงฮึบขึ้นมาทันที ในใจมีความหวังริบหรี่ขึ้นมาอีกครั้ง
เขารู้ดีว่าการเพิ่มประสิทธิภาพการกลั่นวัตถุดิบเป็นเรื่องที่ยากมาก ซึ่งก็ยากไม่น้อยไปกว่าการพัฒนาเวชสำอาง
ตอนนี่ผ่านไปเพียงแค่หนึ่งสัปดาห์ มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่ฉินหมิงสามารถพัฒนาเวชสำอางได้หลายประเภท!
เขาคิดว่าคนอย่างฉินหมิงมีความสามารถพัฒนาแค่สองประเภทก็เหลือเฟือแล้ว!
“เหอะ…”
ฉินหมิงหัวเราะออกมา เขาถูกเอ้าเฟิงกับผู้อำนวยการเฉิงยั่วให้หัวเราะซะแล้ว
“ที่พวกเราสองคนพูด เป็นเรื่องจริงจัง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตารัก มรดกเซียน
พระเอกน่ารำคาญ...
รออัพเดท ตอนต่อ ๆ ไป ครับ...