“ฉันสัญญาว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย ต่อไปฉันจะไม่มาระรานนายอีก…”
“แล้วทำไมไม่ทำตั้งนาน?”
“ตอนนี้เพิ่งจะรู้สำนึกผิด สายไปหน่อยล่ะมั้ง!”
ฉินหมิงหัวเราะเยาะ กำลังยกเท้าจะกระทืบลง
ซุนกวนชงที่เต็มไปด้วยความกลัวได้พูดโพล่งขึ้นมา “เดี๋ยวก่อน!”
“นายเคยพูดไว้นี่ ว่าถ้าฉันคุกเข่าขอร้องนาย นายจะปล่อยฉันไป”
“แล้วทำไมนายถึงได้กลับกลอกเองซะล่ะ…”
ฉินหมิงนิ่งไปชั่วขณะ จนหวนคิดถึงในสิ่งที่ตัวเคยพูดไว้ ขอแค่เนี่ยอู๋และซุนกวนชงคุกเข่าร้องอ้อนวอน เขาก็อาจจะพิจารณาปล่อยพวกเขาไป
“เมื่อก่อนคือเมื่อก่อน ตอนนี้คือตอนนี้!”
“แล้วที่ฉันพูดเมื่อกี้ก็แค่บอกว่าจะพิจารณา ไม่ได้บอกว่าจะปล่อยนายไปนี่!”
ฉินหมิงหัวเราะอย่างเย็นชา
“นี่นาย…”
ซุนกวนชงโกรธมากจนแทบจะสาปแช่งบรรพบุรุษของฉินหมิงไปสิบแปดรุ่น
แต่ทว่า เมื่อตกที่นั่งลำบากจึงจำใจต้องยอม
ตอนนี้ถึงขนาดคุกเข่าแล้วคุกเข่าอีก เสียหน้าก็เสียไปแล้ว จะยอมแพ้ง่าย ๆ ได้อย่างไร!
“หม่าลู่ คนเคย ๆ เป็นสามีภรรยากันแท้ ๆ!”
“เธอกับฉินหมิงเคยอยู่กินกันมาสามปีแล้ว เธอรีบคุกเข่าขอร้องแทนฉันซะสิ ให้เขาปล่อยฉันไป…”
ซุนกวนชงรีบพูดอย่างร้อนใจ เขาฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่หม่าลู่
“ฉัน…”
สีหน้าของหม่าลู่ดูไม่สู้ดีนัก
แม้ว่าเธอจะเคยเป็นภรรยาฉินหมิง แต่ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองเป็นเพียงในนามมาโดยตลอด และสถานะของฉินหมิงในตระกูลหม่าของเขานั้นแย่กว่าสถานะของสุนัขเสียอีก!
แต่วันนี้กลับต้องมาคุกเข่าขอร้องอ้อนวอนคนไร้ค่าอย่างเขา ใจของเธอก็สะอิดสะเอียนเกินจะทน!
ถ้าไม่ใช่ชีวิตเล็ก ๆ ของซุนกวนชงที่อยู่ในกำมือของฉินหมิง เธอไม่มีวันยอมก้มหัวให้หรอก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตารัก มรดกเซียน
พระเอกน่ารำคาญ...
รออัพเดท ตอนต่อ ๆ ไป ครับ...