นายน้อยโหวรีบอธิบายทันที
“ดูเหมือนว่าจะเป็นอย่างนั้นนะ”
ความคิดของทุกคนเปลี่ยนไป และพวกเขารู้สึกว่าสิ่งที่นายน้อยโหวพูดนั้นพูดนั้นสมเหตุสมผล และพวกเขาก็มีข้อสงสัยเกี่ยวกับคำพูดของฉินหมิง
โดยเฉพาะสองสามีภรรยาอย่างหลี่เหวินไห่กับเจียงหลาน เขาสองคนรู้ว่าหน้าที่การงานของฉินหมิงก็แค่เลขาของบริษัทเครื่องสำอาง เงินเดือนไม่ได้เท่าครึ่งหนึ่งของอาชีพหมอด้วยซ้ำ
ยิ่งไปกว่านั้นฉินหมิงไม่ได้ตรวจร่างกายของนายน้อยโหวตั้งแต่ต้น แต่เพียงยืนยันว่าสุขภาพของนายน้อยโหวไม่ดี ถ้านี่ไม่ใช่สุ่มสี่สุ่มห้าพูดมันจะเป็นอะไรได้อีก!
“นายน้อยโหว คุณพูดอย่างนี้ก็ไม่ถูกนะครับ!”
“การแพทย์แผนจีนให้ความสำคัญกับการมองเห็น การได้ยินและความรู้สึก ดูลมหายใจ บ่งบอกว่าร่างกายของคุณป่วยได้ โดยไม่ต้องตรวจร่างกาย…”
ฉินหมิงพูดจาฉะฉานจนแทบไม่ได้พูดคุยเรื่องความลึกลับของการแพทย์กับเขาเลย
“แกหุบปากเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
“นี่ ฉันให้เวลาแกสิบวินาที แกรีบไสหัวออกไปซะ!”
“ถ้าแกไม่ไสหัวไปล่ะก็ อย่ามาหาว่าฉันไม่เกรงใจแกก็แล้วกัน!”
นายน้อยโหวโกรธมากจนตัวสั่นไปทั้งตัว
ฉินหมิงกระโดดออกมาเพื่อขัดขวางสถานการณ์ครั้งแล้วครั้งเล่า และเขาก็ทนไม่ได้อีกต่อไป
“คุณนี่มันเกินเยียวยาจริง ๆ !“
ฉินหมิงส่ายหัวและถอนหายใจ
แม้ว่าเขาจะดูหมิ่นกลุ่มคนโง่อย่างนายน้อยโหว แต่หลี่เจียฮุ่ยต่างหากที่เชิญเขามาที่นี่ในครั้งนี้
ถ้าหลี่เจียฮุ่ยไม่ไปก่อน เขาก็ไม่มีทางปล่อยมือไปแน่!
“แกนั่นแหละที่เกินเยียวยา!”
“เป็นแค่เด็กกำพร้า กล้ามาทำเป็นเก่ง!”
“ในเมื่อแกอยากตาย ฉันจะสงเคราะห์แกให้!”
นายน้อยโหวโกรธมากจนหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วเรียกบอดี้การ์ดสองคนที่เฝ้าอยู่ด้านนอกเข้ามา
บอดี้การ์ดทั้งสองเดินเข้าไปในห้องแล้วรีบไปนายน้อยโหวด้วยความเคารพ “นายน้อยโหว ไม่ทราบว่ามีคำสั่งอะไรหรือเปล่าครับ?”
“ลากหมอนี่ออกไปจากห้องนี้ซะ!”
นายน้อยโหวชี้ไปยังฉินหมิง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเกลียด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตารัก มรดกเซียน
พระเอกน่ารำคาญ...
รออัพเดท ตอนต่อ ๆ ไป ครับ...