“ไม่ได้เป็นแบบนั้นนะครับ ผู้อำนวยการเหยียนรังแกลูกน้อง…”
ใบหน้าฉินหมิงเต็มไปด้วยความขมขื่นและเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอีกรอบ แต่ในใจเขากังวลเพราะว่าเฉินถิงถิงเป็นพยานให้กับเหยียนซ่งไท่ คงยากที่เขาจะได้รับความไว้วางใจจากหลินหว่านชิง
“ประธานหลิน มันใส่ร้ายผม!”
“ตอนนั้นผมกับเลขาเฉินกำลังคุยเรื่องงานกันอยู่ เธอเป็นพยานให้ผมได้…”
เหยียนซ่งไท่รีบพูด
“เลขาเฉิน ที่ผู้อำนวยการเหยียนพูดเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?”
หลินหว่านชิงโบกมือและเรียกเฉินถิงถิงให้ไปยืนต่อหน้าเธอ
“ใช่ค่ะ…”
เฉินถิงถิงก้มหัวลงไม่กล้าสบตาของหลินหว่านชิงและยิ่งไม่กล้าสบสายตาของฉินหมิง
“ฉินหมิง ตอนนี้นายมีอะไรจะพูดอีกรึเปล่า?”
หลินหว่านชิงมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเรียบเฉย
“ผม…ผมไม่มีอะไรจะพูดครับ”
ฉินหมิงถอนหายใจ ภายในใจสูญสิ้นความหวัง
เห็นฉินหมิงก้มศีรษะราวกับว่าเขาเป็นไก่ชนที่ตีแพ้ หลินหว่านชิงก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
เธอไม่เหมือนกับหานซี เธอรู้จักนิสัยของฉินหมิงดีกว่า
ฉินหมิงอาจจะไม่ได้มีพรสวรรค์หรือความสามารถโดดเด่นแต่ฉินหมิงนิสัยดี เขาเป็นผู้ชายที่มีความกล้าหาญอย่างมากกล้าทำกล้ายอมรับ เขาไม่ใช่คนประเภทหน้าไว้หลังหลอกแน่นอน
แม้จะมีเฉินถิงถิงเป็นพยานให้กับเหยียนซ่งไท่ แต่ในใจเธอก็ยังคงเชื่อมั่นในตัวเขายิ่งไปอีก
นี่คือความไว้วางใจของเธอที่มีต่อฉินหมิง!
“เลขาเฉิน เงยหน้าขึ้นมา!”
สายตาของหลินหว่านชิงจ้องไปที่เฉินถิงถิงอีกครั้ง
เฉินถิงถิงไม่กล้าขัดคำสั่ง จึงเงยหน้ามาสบตาของหลินหว่านชิง
“มองตาฉัน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตารัก มรดกเซียน
พระเอกน่ารำคาญ...
รออัพเดท ตอนต่อ ๆ ไป ครับ...