พลิกชะตารัก มรดกเซียน นิยาย บท 543

“นี่...เป็นไปได้ยังไง!”

“ระดับการบ่มเพาะของนายไม่ใช่อยู่แค่ขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานหรอกเหรอ? นายไปถึงระดับปรมาจารย์ได้ยังไงกัน!”

ไช่หงเซินยกมือขึ้นกุมหน้าอกและมองไปที่เจิ้งอวี่ด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

ระดับปรมาจารย์นั้นเป็นจุดเริ่มต้นแรกบนเส้นทางของการบ่มเพาะ แต่การจะทะลวงไปให้ถึงระดับนั้นก็เป็นเรื่องที่ยากมาก

ในบรรดาคนรุ่นใหม่ที่โดดเด่นมากมายของเมืองหลัวไห่ ระดับการบ่มเพาะล้วนหยุดอยู่แค่ขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทาน จนถึงตอนนี้ยังไม่เคยได้ยินว่ามีใครทะลวงเข้าสู่ระดับปรมาจารย์แล้ว

แต่เจิ้งอวี่กลับก้าวข้ามและเอาชนะคนทั้งหมด เป็นคนแรกที่ประสบความสำเร็จ ใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความตกใจที่เกิดขึ้นกับไช่หงเซินได้!

“ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้!”

“ฉันบอกให้แกรู้ละกันว่าการที่ฉันสามารถทะลวงคอขวดของการบ่มเพาะ เข้าสู่ระดับปรมาจารย์ได้อย่างราบรื่น ทุกอย่างล้วนต้องขอบคุณความช่วยเหลือของคุณฉิน!”

เจิ้งอวี่ไพล่มือไว้ข้างหลัง แล้วพูดอย่างเย็นชา

“ว่ายังไงนะ?์”

“เขาช่วยให้ผู้ฝึกยุทธสามารถทะลวงคอขวดของการบ่มเพาะได้จริงเหรอ?”

“นี่…”

ไช่หงเซินตกตะลึงไปอย่างสมบูรณ์

ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกเสียใจภายหลัง ถ้าเขารู้ก่อนว่าฉินหมิงมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ เขาจะไม่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับฉินหมิงตั้งแต่แรก แต่จะประจบประแจงฉินหมิงแทน

ตราบเท่าที่เขาสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับฉินหมิงได้ ไม่แน่ฉินหมิงอาจจะช่วยเขาทะลวงคอขวดเข้าสู่ระดับปรมาจารย์!

น่าเสียดายที่เขาเพิ่งรู้ในตอนนี้ ทุกอย่างมันก็สายเกินไปแล้ว!

แน่นอนว่าไช่หงเซินไม่ใช่คนเดียวที่ตกใจ ไช่เม่ายิ่งตกใจมากขึ้นไปอีก!

เขาเคยเป็นแฟนของเจี่ยงฉินมาก่อน ฉินหมิงและซูซินเหยามาที่นี่ก็เพื่อเจี่ยงฉิน

ด้วยความสัมพันธ์นี้ เขาสามารถครอบครองทั้งเวลา สถานที่ และคนได้ก่อนใคร ๆ!

เดิมทีขอแค่เขาจริงใจ ไม่เพียงแต่เขาจะได้รับสิทธิ์ในการร่วมมือกับหมิงเหยากรุ๊ปในเรื่องของยาหลอมลมปราณ แต่ด้วยความช่วยเหลือของฉินหมิงและซูซินเหยา อนาคตของเขาจะสดใสและรุ่งโรจน์อย่างแน่นอน!

อนิจจา ไพ่ที่ดีแบบนี้กลับถูกเขาฉีกเป็นชิ้น ๆ!

ราคาที่หนักหนาสาหัสขนาดนี้ เขาไม่อาจแบกรับไหว!

“อย่า…”

“ฉัน...ฉันเต็มใจที่จะขอโทษ”

ใบหน้าของไช่หงเซินซีดเซียว เกราะป้องกันในใจของเขาพังทลายลงในที่สุด

ด้วยสถานะที่สูงส่งของเขา ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นเรื่องที่น่าอับอายอย่างยิ่งที่ต้องมาคุกเข่าขอโทษผู้อื่น

แต่อยู่ใต้ชายคาของผู้อื่นไม่อาจไม่ก้มหัว ยอมได้รับการดูถูกเล็กน้อยดีกว่าถูกหักขาทั้งสองข้างเป็นไหน ๆ!

“ทำแบบนี้ตั้งแต่แรกก็จบเรื่องแล้ว ต้องหาเรื่องให้ฉันได้ทุบตีแกก่อนสักยก”

“โง่เขลาซะจริง!”

เจิ้งอวี่เยาะเย้ย

ใบหน้าของไช่หงเซินเปลี่ยนเป็นสีเขียวสลับแดงก่ำ เขาปลอบใจตัวเองว่าคนที่จะประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้ไม่อาจยึดติดกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แม่ทัพนายพลในสมัยนั้นยังทนต่อความอัปยศที่ต้องเผชิญได้ เรื่องแค่นี้สำหรับเขาไม่นับว่าเป็นอะไร!