“ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ คนไร้ค่าอย่างนั้นจะใช้แบล็คการ์ดของธนาคารเจียงตูได้อย่างไร…”
สีหน้าซุนกวนฉงเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ เขาไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
“หรือว่า…หลินหว่านชิงให้เขา?”
หม่าลู่ถึงกับใจเต้น ไม่นานก็ได้สติกลับมา
“แต่ว่าเขากับหลินหว่านชิงไม่ได้เป็นอะไรกัน ทำไมหลินหว่านชิงถึงให้แบล็คการ์ดธนาคารเจียงตูกับเขาล่ะ?”
“เว้นแต่พวกเขาทั้งสองคนจะมีอะไร ๆ กัน…”
พอซุนกวนฉงพูดถึงตรงนี้ เขาก็ส่ายหัวอย่างรุนแรง เขาไม่สามารถยอมรับความจริงที่โหดร้ายนี้ได้!
หลินหว่านชิงเป็นนางฟ้านางสวรรค์ในใจของเขาเสมอ แม้ว่าตอนนี้ฉินหมิงจะหยิบแบล็คการ์ดออกมาใช้ แต่อย่างไรเขาก็ไม่เชื่อว่าหลินหว่านฉินจะเป็นแฟนของฉินหมิง!”
คนไร้ค่าอย่างฉินหมิงน่ะหรือ จะคู่ควรผู้หญิงสูงส่งอย่างหลินหว่านชิง!
“บางทีเขาอาจใช้คำหวาน ๆ เพื่อหลอกให้หลินหว่านชิงตายใจก็ได้!”
หม่าลู่มีสีหน้าอิจฉา
เดิมทีเธอคิดว่าหลังจากหย่ากับฉินหมิงแล้ว ฉินหมิงคงจะต้องผิดหวังท้อใจ ไม่แน่ก็อาจจะเป็นขอทานข้างถนน!”
แต่ความจริงกลับตบหน้าเธอฉาดใหญ่ หลังจากที่ฉินหมิงเลิกราจากเธอไม่ทันไรก็ไปตกหลุมรักกับหลินหว่านชิง ขนาดเอาแบล็คการ์ดธนาคารเจียงตูมาจากหลินหว่านชิงได้ เกรงว่าเขาใช้ชีวิตในช่วงไม่กี่วันนี้ก็สบายไปไม่รู้เท่าไรแล้ว!
เหมือนครั้งหนึ่งบ้านพวกเธอเคยมีคนขี้ขลาดยิ่งกว่าสุนัข แต่ตอนนี้กลับได้ดิบได้ดีกว่าเธอ จะให้เธอยอมได้อย่างไร!
“เธอพูดถูก เขาจะต้องใช้วิธีที่น่ารังเกียจบางอย่างเพื่อหลอกหลินหว่านชิง แต่ถึงอย่างไรฉันก็ไม่เชื่อเด็ดขาดว่าหลินหว่านชิงจะมีความสัมพันธ์อย่างนั้นกับฉินหมิง!”
“ยิ่งกว่านั้นเมื่อกี้ที่เขาประมูล 92 ล้านไปก็ไม่มีความมั่นใจแล้ว ไม่ก็เขาอาจจะไม่มีเงินในบัตรแล้วก็ได้!”
“อีกเดี๋ยวถ้าหินหยกดิบชิ้นนี้ไม่มีอะไรขึ้นมา ฉันจะคอยดูว่าเขาจะใช้ชีวิตอย่างไร!”
ซุนกวนฉงมีสีหน้าเยาะเย้ย
เขาไม่รู้ว่าฉินหมิงเอาแบล็คการ์ดนี้มาได้อย่างไร แต่ว่าเขาก็เห็นชัดว่าตอนที่ฉินหมิงสู้ราคาสุดท้ายดูร้อนใจมาก นี่คงจะเป็นเงินก้อนสุดท้ายของฉินหมิงแล้วล่ะมั้ง!
ถ้าฉินหมิงเป็นแฟนกับหลินหว่านชิงจริง ไม่มีทางที่เงินแค่ 92 ล้านจะทำให้ฉินหมิงลำบากใจได้แน่
เรื่องนี้มันต้องมีลับลมคมใน!
“ใช่แล้ว ถ้าหินหยกก้อนนี้ไม่ได้มีอะไร ถึงตอนนั้นฉันจะดูสิว่าเขาจะภูมิใจอะไรได้อีก!”
สีหน้าของหม่าลู่กลับมามีรอยยิ้มอีกครั้ง
ถ้าฉินหมิงเดิมพันด้วยเงินทั้งหมดที่เขามีอยู่จริง ๆ ไม่แน่ว่าหินหยกก้อนนี้สามารถทำให้ฉินหมิงกลับไปสิ้นเนื้อประดาตัวเหมือนเก่า อีกทั้งยังทำให้เขาดูเป็นคนโง่จริง ๆ !
จ้าวไคไม่มีอารมณ์มาสนใจสองคนนี้ เขายิ้มอย่างเก้ ๆ กัง ๆ เขาแสดงความเคารพฉินหมิงขึ้นมาทันที แล้วถามฉินหมิงว่า “คุณผู้ชาย ไม่ทราบว่าคุณนามสกุลอะไรครับ?”
“ผมสกุลฉินครับ”
“คุณฉินครับ เมื่อกี้ผมมีกริยาไม่ดี ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คุณขุ่นเคือง โปรดยกโทษให้ผมด้วยนะครับ…”
จ้าวไคยิ้มตอบ ตอนนี้เขาได้ตระหนักแล้วว่าตัวตนและภูมิหลังของฉินหมิงมีแนวโน้มที่จะเกี่ยวข้องกับตระกูลใหญ่โต เขาไม่อาจเมินเฉยไปได้
“ไม่เป็นไรครับ รูดบัตรเถอะ”
ฉินหมิงยิ้มและส่ายหน้า ไม่เอาเรื่องเล็ก ๆ นี้มาใส่ใจด้วยซ้ำ
พอจ่ายเงินเสร็จ ฉินหมิงมอบหินหยกให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อทำการตัดที่ร้าน
“หิ้นหยกชิ้นนี้โดนจ่ายเงินซื้อไป 92 ล้าน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นหยกน้ำแข็งไหม”
“แต่ฉันว่ายาก ถ้าเกิดไม่มีอะไรเลยขึ้นมา เขาคงเสียหน้าน่าดู!”
…
ผู้คนที่ดูต่างพูดคุยกันต่าง ๆ นา ๆด้วยน้ำเสียงเบา ๆ เนื่องจากฐานะลึกลับและสูงส่งของฉินหมิงจึงไม่มีใครกล้าหัวเราะเยาะต่อหน้าฉินหมิง ทว่าก็ยังมีเสียงซุบซิบมากมายเกิดขึ้นอย่างลับ ๆ
เพราะว่าหินหยกดิบชิ้นนี้มีมูลค่ามากมายมหาศาล คงไม่แปลกที่ทุกคนจะให้ความสนใจกับฉินหมิง
ขณะที่เจ้าหน้าที่ยกมีดขึ้นและลดระดับลง พวกเขาก็พบว่าไม่มีอะไรอยู่ข้างในนอกจากทรายและกรวด!
“หมดกัน ไม่มีหยกน้ำแข็ง”
“หินหยกดิบนี้ดูเล็กลงมาก ถึงแม้จะมีหยกน้ำแข็งลายดอกไม้อยู่ก็คงไม่คุ้มค่าเงินอยู่ดี!”
...
ทุกคนล้วนถอนหายใจ
เมื่อดูจากสถานการณ์ปัจจุบัน เว้นเสียแต่ว่าหินหยกนี้สามารถผลึกหยกเนื้อแก้วที่มีคุณภาพสูงสุดในบรรดาหยกได้ ไม่อย่างนั้นฉินหมิงคงเสียหน้าแน่!
เพียงแต่ว่าหยกชนิดเนื้อแก้วแพงล้ำค่าและหายากกว่าเนื้อน้ำแข็งมาก ไม่ใช่ว่าจะหาเจอกันง่าย ๆ
นี่มันดูเป็นไปไม่ได้เอาซะเลย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตารัก มรดกเซียน
รออัพเดท ตอนต่อ ๆ ไป ครับ...