“ผม…”
ฉินหมิงลังเลมาก เขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับตระกูลซูมาก่อนและก็ไม่รู้ว่าอะไรคือสี่ตระกูลใหญ่ แต่เมื่อเห็นจากอาการของทุกคนแล้ว ตัวตนของชายชราที่อยู่ตรงหน้าเขาต้องไม่ธรรมดา
ตอนนี้ฝ่ายตรงข้ามได้เสนอให้ถึงพันล้าน ราคานั้นค่อนข้างสูง มันเกินความคาดหมายของเขามากและเขาก็ค่อนข้างรู้สึกประทับใจ
แต่ปัญหาคือเขาวางแผนที่จะใช้หยกเพื่อรวบรวมวิญญาณ หากเอาหยกสองชิ้นนี้ขายไป เขากลัวว่ากว่าจะหาหินที่เหมาะสมนั้นยากลำบาก
“คุณท่านครับ ต้องขอโทษด้วยนะครับ หยกเขียวจักรพรรดิสองชิ้นนี้ผมยังจะต้องใช้ประโยชน์อีก ไม่สามารถขายให้คุณได้จริง ๆ”
ฉินหมิงยิ้มขอโทษ
ใบหน้าของนายท่านซูแสดงความผิดหวัง พูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “ไม่สามารถขายได้จริง ๆ น่ะเหรอ สามารถต่อรองราคาได้อีกนะ”
“ถ้าหากคุณต้องการจริง ๆ ผมสามารถขายให้คุณได้แค่ชิ้นเดียว แต่อีกชิ้นหนึ่งผมต้องเก็บไว้ให้ตัวเองใช้”
ฉินหมิงพูดอย่างลังเลเล็กน้อย
ในการรวบรวมพลังวิญญาณ เขาเพียงแค่ใช้หยกเขียวจักรพรรดิเป็นดวงตาของพลังงานแค่ชิ้นเดียวก็ได้ ขายอีกชิ้นให้ชายชราคงไม่เสียหายอะไร
“ขนาดของหยกเขียวจักรพรรดิสองชิ้นนี้ไม่ได้ใหญ่มาก เกรงว่าชิ้นเดียวมันจะไม่พอน่ะสิ”
“ฉันพูดตรง ๆ นะ ฉันเห็นหยกเขียวจักรพรรดิสองชิ้นนี้แล้ว ฉันก็คิดอยากจะแกะสลักกำไลคู่ให้ภรรยาของฉัน”
“ชีวิตของพวกเราสองคนนั้นตลอดทางผ่านร้อนผ่านหนาวกว่าจะมาถึงวันนี้มันไม่ง่ายเลย…”
“แล้วอีกอย่างก็ใกล้จะครบรอบวันแต่งงาน 50 ปีของพวกฉันทั้งสองคนแล้วด้วย ฉันเลยอยากจะมอบกำไลคู่ที่ดีที่สุดให้กับภรรยาฉัน เพื่อเป็นการขอบคุณที่เธออยู่ข้าง ๆ ฉันมาตลอด…”
นายท่านซูกล่าวด้วยสายตาชื่นชม เห็นได้ชัดว่าเขามีความรู้สึกลึกซึ้งต่อภรรยาของเขา
“ผมอิจฉาคุณจากใจจริง ๆ “
ใบหน้าของฉินหมิงขยับเล็กน้อย เขาคิดว่าสิ่งที่หวานซึ้งที่สุดในชีวิตคือไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการได้เจอคนรักที่รักกันจริง จับมือ และแก่ไปด้วยกัน!
ความรู้สึกที่แท้จริงของนานท่านซูกระทบใจเขาอย่างลึกซึ้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตารัก มรดกเซียน
พระเอกน่ารำคาญ...
รออัพเดท ตอนต่อ ๆ ไป ครับ...