โจวเจี้ยนยิ้ม เขาดูนาฬิกาข้อมือแล้วพูดว่า “พี่ฉินหมิงครับ ตอนนี้ก็ใกล้จะสี่โมงแล้ว ในเมื่อพี่มาแล้วก็ไม่ต้องกลับแล้วล่ะครับ“
”ผมว่า ตอนนี้ผมโทรหาคุณปู่ดีกว่า พวกเราไปทานข้าวกันที่โรงแรมกันก่อน พี่คิดว่าดีไหมครับ?
“อืม…ได้สิ”
ฉินหมิงพยักหน้า เขามองไปที่หานซีข้าง ๆ และลังเลที่จะพูด
ไม่นานโจวเจี้ยนก็เข้าใจความหมายของฉินหมิง เขาถามหานซีด้วยรอยยิ้ม “คุณหานครับ คุณก็เป็นเพื่อนของพี่ฉินหมิง หากคุณสะดวกล่ะก็ไปกับพวกเราไหมครับ?”
“อย่างนั้น…ฉันรบกวนคุณด้วยละกันนะคะ“
หานซีรู้ว่าตัวเองอาศัยบารมีของฉินหมิง เธอสงสัยมากว่าความสัมพันธ์ระหว่างฉินหมิงและนายท่านโจวเป็นอย่างไรกัน หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งในที่สุดเธอก็ตกลงตามคำเชิญของโจวเจี้ยน
…
โรงแรมแกรนด์โนเบิล ในห้องวีไอพีที่ตกแต่งอย่างหรูหรา
โจวคังไท่และโจวเจี้ยนสองคนและฉินหมิงกันหานซีสองคน ต่างพากันนั่งลง
เมื่อโจวคังไท่ส่งสัญญาณ พนักงานเสิร์ฟก็เริ่มเสิร์ฟไวน์และอาหารทีละคน หอยเป๋าฮื้อน้ำแดง อาหารชั้นเลิศทั้งหมดเป็นอาหารอันโอชะ
“นี่น้องฉินหมิง เรื่องครั้งที่แล้วต้องขอบคุณคุณมาก ๆ เพื่อการขอบคุณ ฉันจะดื่มให้นายซักแก้ว“
ใบหน้าโจวคังไท่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ได้ยกแก้วยกขึ้นเพื่อดื่มให้กับฉินหมิง
“นายท่านโจวครับ คุณเกรงใจเกินไปแล้วครับ มันเป็นเพียงความพยายามเพียงเล็กน้อยคุณไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงมันหรอกครับ“
ฉินหมิงรีบพูดและรีบยกแก้วดื่มเป็นเพื่อนนายท่านโจวทันที
หานซีมองไปทางนายท่านโจวและมองทางฉินหมิงอีกที สีหน้าดูแปลกใจ
เดิมทีเธอคิดว่าฉินหมิงและโจวเจี้ยนรู้จักกัน ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นญาติห่าง ๆ หรืออาจเป็นเพราะบรรพบุรุษมีมิตรภาพอันลึกซึ้งกับตระกูลโจว
แต่ว่าพอถึงตอนนี้เมื่อได้ยินที่โจวเจี้ยนเรียกฉินหมิงว่าพี่ชาย และนายท่านโจวก็เรียกฉินหมิงว่าน้องชายอีก นี่มันคือความสัมพันธ์อะไรกัน?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตารัก มรดกเซียน
พระเอกน่ารำคาญ...
รออัพเดท ตอนต่อ ๆ ไป ครับ...