การแสดงออกของจูน ลี เต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยามในขณะที่เธอมองฮาร์วีย์ ยอร์กตั้งแต่หัวจรดเท้า
"พุทโธ่! คุณยอร์กที่รักของเราก็มาที่นี่เพื่อร่วมงานเลี้ยงขอบคุณของสาขาหลงเหมินแห่งมอร์ดูด้วย?
“นายมันก็แค่ลูกเขยแต่งเข้าบ้านที่ตกงาน! จะมาที่นี่ได้ยังไง? นายมีสิทธิ์อะไรมาร่วมงานนี้?
“นี่นายคิดว่าเราไม่รู้หรือว่านายเก่งเรื่องไหนที่สุด?
“ต่อหน้าเราจำเป็นต้องมาแสดงละครแบบนี้ด้วยหรอ?
“ถ้าตอนนี้นายไม่ได้ยืนอยู่กับเราราวกับเป็นแขกจริง ๆ นายคงถูกไล่ออกจากที่นี่ไปแล้ว!
“นายเชื่อไหมว่าแค่เอ่ยปากคำเดียวนายก็จะถูกไล่ตะเพิดออกไป!”
โดยธรรมชาติแล้ว จูนรู้สึกขยะแขยงหน้าตาที่ซื่อตรงของฮาร์วีย์อยู่เสมอมา เขาเป็นแมงดาที่ไม่มีความสามารถอะไรสักอย่าง แต่กลับทำตัวราวกับว่าเขาเป็นราชาของโลกใบนี้!
เขามีอะไรคู่ควร?!
เคลลี่ มาโลนไม่อาจโต้เถียงกับฮาร์วีย์ได้อีกต่อไป เขาต้องการให้ชายผู้โง่เขลาคนนี้ได้สัมผัสกับความเป็นจริงอันโหดร้ายของสังคมด้วยตัวเขาเอง
ในสายตาของเคลลี่ ฮาร์วีย์เป็นพวกไร้ทางเยียวยา เขาจะทำให้ฮาร์วีย์กลายเป็นคนซื่อตรงกับตัวเองได้ก็ต่อเมื่อเขาปล่อยให้สังคมสอนบทเรียนแก่เขาเท่านั้น
หลังจากเห็นท่าทีของเคลลี่เปลี่ยนไปอย่างมากขณะที่จูนดูถูกฮาร์วีย์ เฮเซล มาโลนก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
“ต่อหน้าครอบครัวเรานายไม่จำเป็นต้องเสแสร้งจริง ๆ ฮาร์วีย์...
“ฉันขอแนะนำให้นายออกไปเดี๋ยวนี้เลย!
“ไม่อย่างนั้น หากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรู้เรื่องนี้หรือถ้านายน้อยวอล์คเกอร์ตัดสินใจเล่นงานนาย นายจะลำบาก”
เฮเซลเข้าใจได้ว่าทำไมฮาร์วีย์ถึงต้องการบังคับตัวเองให้มาอยู่ในวงสังคมระดับสูง
เพราะยังไงก็ตามทุกคนย่อมต้องการที่จะเสี่ยงและก้าวขึ้นไปในบันไดทางสังคม
แต่อย่างน้อยทุกคนควรมีความตระหนักในตนเองสักหน่อย เราควรรู้ขีดจำกัดของตัวเองอยู่เสมอว่าอะไรทำได้อะไรทำไม่ได้!
'เขาไม่มีอะไรให้โอ้อวด ได้แต่หน้าด้านเอาเปรียบคนอื่นอยู่ตลอดเวลา เขาไม่รู้สึกอายบ้างหรือไง!'
ฮาร์วีย์ได้แต่เงียบในขณะที่แสดงสีหน้าคลุมเครือ
“ไปกันเถอะเฮเซล อยู่ห่างจากผู้ชายคนนี้ อย่าให้เขามาเอาเปรียบเราได้อีก และเราจะไม่ปล่อยให้เขาลำบากใจเช่นกัน!
“แม่ไม่อยากเห็นว่าเขาเสแสร้งได้อีกนานแค่ไหน!”
ในตอนที่จูนลากเฮเซลออกไป ชายสองสามคนที่สวมเสื้อผ้าแบบดั้งเดิมก็เดินเข้ามาด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง
คนที่เป็นผู้นำกลุ่มคือชายหนุ่มหัวโล้นสวมชุดสูทสีขาวที่มีรอยสักปรากฏทั่วร่างกาย ทำให้เขาดูค่อนข้างดุร้าย
สตีเว่น วอล์คเกอร์เดินตามหลังเขาด้วยสีหน้าเย็นชา
ฮาร์วีย์ชำเลืองมองคนเหล่านั้น
“มาเลย ยอร์ก! ฉันจะแนะนำให้นายรู้จัก เขาเป็นหนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชาที่ไว้ใจได้มากที่สุดของรองหัวหน้าสาขาหลงเหมินแห่งมอร์ดู แม็กซ์ ทรัสคอตต์ พี่แม๊กซ์!”
สตีเว่นคีบซิการ์เอาไว้ในขณะที่เดินไปข้างหน้า เขาจ้องมองฮาร์วีย์ด้วยสีหน้าเย็นชา
“นายคงอยากตายถึงได้มาเข้าร่วมงานเลี้ยงขอบคุณในฐานะคนนอกแบบนี้ ใช่ไหม?
“ฉันจะให้โอกาสนายเป็นครั้งสุดท้าย คุกเข่าทักทายเรา แล้วพี่แม๊กซ์จะปล่อยเรื่องที่นายบุกรุกเข้ามาเอาไป”
“แม็กซ์ ทรัสคอตต์?! พี่แม๊กซ์?!”
เฮเซลขมวดคิ้วหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น เธอรู้ดีว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร
เขาเป็นหนึ่งในแก๊งอันธพาลของสตีเว่น ตั้งแต่เขาได้ขึ้นเป็นลูกน้องของจัสติน เขาก็หยิ่งยโสมาโดยตลอด
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงถูกมองว่าเป็นชนชั้นกลางในหลงเหมินสาขามอร์ดู การที่คนอย่างเขาจะกำจัดฮาร์วีย์ก็ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก
ยังไม่จบใข่ไหมครับ...
ผมอ่านสองตอนวันนี้แล้วเริ่มเวียนหัว... บท... เวียนไปวนมา... ว่าจะหยุดหล่ะครับ บาย...
ผมขอเสนอแนะครับ แปลได้ 10 ตอน แล้วมาลงทีเดียวดีไหมครับ ระยะหลังมานี้ ลงครั้งละ 2 ตอน อ่านไม่ถึง 5 นาทีครับ ยังไม่ได้อรรถรสเลย บทนิยายหมดแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ...
เนื้อเรื่องโรงพยาบาลซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบละ แค่เปลี่ยนชื่อบุคคล สถานที่ เรื่องราวนิดหน่อย อ่านมามีแต่น้ำ เนื้อเรื่องจริงๆแทบไม่กระดิกไปไหน...
เย้ๆๆ มาแล้ว ขอบคุณคับ...
นานจังรออ่านอยู่ครับ...
รออ่านหลายสัปดาห์แล้วครับ รีบๆแปลให้อ่านหน่อย...
เป็นนิยายที่หลังๆเป็นเกาเหลา(มีแต่น้ำ) จะง้างทีต้องอธิบายกันไปถึงอีกฝ่ายแอบเป็นริดสีดวง สู้กับแค่คนๆเดียวไม่ยอมจบ มาหลังๆนี้รู้เลยยิ่งไม่เคยจบ ต้องพาศิษย์ผู้พี่ ผู้น้อง ลุงป้าน้าอา ไหนจะอธิบายความในใจ สรุป นิยายดึง จบไม่เป็นไปต่อไม่ได้ จุดขายคือรอพระเแกตบ...
หลายวันเลย ไม่มีมาซักตอน เป็นกำลังใจให้ ครับ...
เช้าวันนี้ ได้อ่าน 10 ตอน บวกเพิ่มอีก 2 ตอน รวมเป็น 12 ตอน ขอบคุณอย่างมากเลยครับ...